เจ้านายหนุ่มไม่ตอบ แต่หันมามองหน้าของมิกิแบบสายตาเดียวกัน
“ผมไม่ชอบผู้หญิงที่เรื่องมาก ทำงานกับผมต้องคล่องแคล่วว่องไว รู้ใจกัน อะไรทำไม่ได้ให้บอกก่อน อย่ารับปากแล้วทำส่งเดช” เขาพูดไปเรื่อย ๆ
“ค่ะ” เธอฝืนทำหน้ายิ้มใส่เขา แต่ในใจเริ่มคิดหนัก
“อีกเรื่อง อย่าให้มีเรื่องผู้ชายเข้ามายุ่มย่ามในที่ทำงาน เพราะว่ามันน่ารำคาญใจ”
“ค่ะ” เธอรับปากเขาเบา ๆ
‘ไม่มีแฟนแล้วจะพาใครมาอะ...บอส’ เธอนึกค้อน
‘เฮ้อ... คุณขุนเขาเขาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ อะไรกันค่ะบอส มิกิมาทำงานนะคะ ไม่ใช่มาอยู่ค่ายกักกัน โอ้ย...’ เธอบ่นกระปอดกระแปดในใจ แต่ก็หันหน้าไปส่งยิ้มให้
ขุนเขาแวะเข้าซอยเล็ก ๆ ข้างทาง เลี้ยวหัวรถเข้าตามถนนที่ลาดลงไปในทุ่งนา หญิงสาวมองไปข้างหน้าอย่างประหลาดใจ แต่โชคดีหน่อยถนนนั้นลาดยางอย่างสะดวกสบาย มิกิเห็นชิงช้าสวรรค์อยู่ตรงหน้า สูงตระหง่านท่ามกลางสีเขียวของต้นข้าว แล้วยังมีของประดับตกแต่งที่เธอยังไม่เคยเห็นที่ไหน หญิงสาวดีใจ หันไปยิ้มให้กับบอสด้วยความตื่นตา
“ร้านอาหารนะ ที่นี่อร่อย บรรยากาศดี” เขาเอ่ยบอก
สีเขียวของท้องทุ่งนาที่ปลูกขึ้นของเจ้าของที่และยังอนุรักษ์เอาไว้ พื้นนาที่ยังปลูกข้าวอยู่ และทำร้านอาหารอยู่ท่ามกลางสีเขียวขจีของท้องทุ่ง ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่ คือ กระบี่
“ว้าว... สวยจัง” เธอยิ้มออกมาทันทีที่เห็นบรรยากาศสดใสแปลกตามาก ๆ
กระท่อมไม้ไผ่ที่ปลูกไว้ห่าง ๆ กัน และอยู่ในท้องทุ่ง มีของตกแต่งเป็นของเก่า ๆ โบราณ ๆ และที่เด่น ๆ เจ้าของนำเอาท่อน้ำมาทำเป็นปิ่นโตขนาดใหญ่ทาสีเหลืองจนเหมือน และทำเถาหิ้วด้วย
“น่ารักจังค่ะ ขอบคุณนะคะบอสที่พามาที่แบบนี้”
เธอขอบคุณตามนิสัย พอเขาดับเครื่องยนต์เธอก็หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วกระโจนลงไปเซลฟีเก็บรูปของตัวเอง และภาพของสิ่งของต่าง ๆ ไว้เป็นที่ระลึก
“อะแฮ่ม” เขาแกล้งกระไอกระแอม
หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้อย่างลืมตัว ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา แล้วเผลอยกมือถือให้ขุนเขาดูรูปที่เธอถ่ายไปเมื่อกี้นี้
“สวยไหมคะ” แล้วเธอก็เลื่อนไปเรื่อย ๆ
ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัวกับรูปที่เธอชี้นิ้วลงไปบนแก้มจนบุ๋ม นัยน์ตาบ้องแบ๊ว ขุนเขาเผลอมองใบหน้าของเธอแทนที่จะดูรูปต่อไป
“มากี่คนคะ” พนักงานเดินเข้ามาสอบถาม
มิกิรีบโชว์สองนิ้ว เธอคนนั้นจึงพาไปยังกระท่อมที่ยังว่างอยู่
“เลือกเมนูตามสบายนะ อยากกินอะไรก็สั่ง” เขายื่นเมนูให้
“บอสค่ะ เลี้ยงหรือหักจากเงินเดือนคะ” เธอประชดเขา เพราะเพิ่งจะโดนในเรื่องของเสื้อผ้าไปก่อนหน้า
“เลี้ยงครับ คุณอัจฉริยา” เจ้านายคนใหม่เรียกชื่อของเธอเสียเต็มยศ
“ค่ะ จะได้ไม่ต้องเกรงใจ” เธอพูดดัง สีหน้าและแววตามีความสุขกับเมนูตรงหน้า ภาพสวยงาม มีทั้งอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล หญิงสาวเลือกไม่ถูกเอาเสียเลย
‘ร้านนี้ทำเมนูได้น่ารักมาก ๆ แบบนี้’
“นี่หอยอะไรคะ” เธอชี้รูป พร้อมกับยกหน้ามาถามเจ้านายที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
“หอยชักตีน”
“อือ...”
“จงใจด่ามิกิหรือเปล่าคะ หอยชักเท้าก็บอกว่าหอยชักเท้า ทำไมต้องใช้คำว่าตีนด้วย”
ฮา... ขุนเขาหัวเราะ บางทีหญิงสาวก็พาซื่อจริง ๆ
เมื่อพนักงานหญิงคนเดิมเดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่ม เขาก็สั่งอาหารทันที
“ข้าวเปล่าสองจาน หอยชักตีนหนึ่งที่ น้ำพริกกุ้งสด ขอผักลวก เอ่อ... แล้ววันนี้มีสาหร่ายสด ๆ ไหม” หญิงสาวคนนั้นพยักหน้า
“งั้นเอามาหนึ่งที่ คุณมิกิจะสั่งอะไรอีก” เขาถามเธอ
“เอ่อ...” เธออ้ำอึ้ง เพราะทุกอย่างน่ากินไปหมด
“งั้นผมสั่งเอง เขารวบเมนูในมือของเธอยื่นส่งให้พนักงานทันที” มิกิทำหน้ามุ่ย และทำตาละห้อยอย่างเสียดาย
“ชักช้าเอง น้อง...เอากุ้งผัดน้ำมะขาม และก็แกงเลียง” เขาพับเมนูในมือของตัวเองส่งให้หญิงคนนั้น เธอรีบเดินออกไปทันที
“กฎอีกข้อ ห้ามทำอะไรชักช้า” เขาเพิ่มอีกกติกาหนึ่งให้เธอด้วย
“ค่ะ” เธอลอบถอนหายใจ
แต่พอแหงนหน้าขึ้นไป ก็เห็นกระถางที่ปลูกต้นไม้ต้นเล็ก ๆ หลากสีในเปลือกหอย และกะลามะพร้าว เธอก็เลิกสนใจนายหัว ยกมือถือถ่ายภาพต่าง ๆ เก็บไว้เป็นความประทับใจ
ไม่นานอาหารก็ถูกลำเลียงออกมาเสิร์ฟ ทั้งสองจึงนั่งทานอาหารไปแบบเงียบ ๆ มีมิกิที่เอ่ยปากชมรสชาติอาหารที่แปลกลิ้นและอร่อยด้วยไม่ขาดปาก
เมื่อเช็กบิลเสร็จ พนักงานก็เชิญให้ทั้งสองนั่งชิงช้าสวรรค์ของทางร้านฟรี และจะเห็นวิวท้องทุ่งนา และสวนปาล์มที่ปลูกติดกับเขาหินปูนที่โดดเด่นของจังหวัดกระบี่
“นั่งสักรอบนะคะบอส” เธอทำเสียงอ้อน เพราะเห็นสีหน้าของเจ้านายเหมือนไม่อยากที่จะนั่ง เธอเดินไปไม่สนใจนายจ้างแล้ว เดินนำหน้าเขาลิ่ว ๆ ตามหลังพนักงานสาวตรงไปยังชิงช้า ขุนเขาจำใจเดินตาม เขามาทานอาหารที่นี่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยนั่งชิงช้าสวรรค์ของที่นี่สักที แต่มิกิในมุมนี้เธอก็ช่างเหมือนเด็ก แต่เธอจบปริญญาโทแล้วนะ
หญิงสาวก้าวขึ้นไปนั่งก่อน และขุนเขาก้าวไปนั่งในฝั่งตรงข้าม มิกิดีใจเหมือนเด็ก ๆ เธอชี้ชวนให้เขาดูทิวทัศน์สวย ๆ และยังยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปของชายหนุ่มด้วย
“ยิ้มสิคะ...บอส” เธอบอกเขา ชายหนุ่มจึงยิ้มมุมปากนิด ๆ ให้กับตากล้อง
‘หล่อออก มานั่งเก๊กอยู่ได้’
มิกิชอบใจใหญ่ ยกมือถือเซลฟีตัวเองไม่หยุด
เจ้านายหนุ่มได้แต่ยิ้มและมองเธอไปเพลิน ๆ
“สวัสดีค่ะคุณเดี่ยว” พนักงานต้อนรับรีบออกมาต้อนรับเขาถึงหน้าบ้านพัก
“ว่าไงครับคุณเนตร” เดี่ยวเอ่ยทักผู้หญิงวัยสี่กว่า ผู้จัดการทั่วไปที่คอยให้ความดูแลเขาทุกอย่างในโรงแรมแห่งนี้
“คือว่า เมื่อตอนที่คุณเดี่ยวโทรมาจองห้องพักนะคะ จริง ๆ มันไม่ได้มีห้องว่างเหลืออยู่เลย แต่น้องพนักงานเขาทำบุ๊กกิงตกไปอันหนึ่ง เนตรจึงอยากจะขอโทษคุณเดี่ยวนะคะ จะขอความเห็นใจ จะขอยกเลิกห้องที่คุณเดี่ยวจองเอาไว้”
“เนตรพยายามมากแล้วนะคะ ทางเราก็พยายามจะต่อรองกับทางบริษัททัวร์นะคะว่าคงจะให้ห้องไม่ได้ แต่พวกเขามาเป็นกรุปทัวร์มาเป็นคณะนะคะ ไกด์ก็บอกว่าจะให้แยกไปนอนที่โรงแรมอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน และอย่างที่รู้ ๆ กันช่วงนี้เป็นเทศกาลกินเจ คือแบบว่า ห้องเต็มเกือบทุก ๆ ที่เลย แล้วห้องที่หาได้ก็ไกลมาก ไกลจากโรงแรมของเรามาก ๆ จึงอยากจะขอความอนุเคราะห์คุณเดี่ยว จริง ๆ เนตร....” เนตรกำลังจะร่ายยาวต่อ ด้วยน้ำเสียงและสายตาอ้อนวอนสุด