มิกิเดินหอบข้าวของมาที่รถพะรุงพะรัง เธอหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ รถของเจ้านาย และเริ่มมองหาเจ้าของ
“ไปไหนของเขานะสี่สิบห้านาทีตรงเป๊ะนะ”
เธอยืนนิ่งถอนหายใจออกมาดัง เมื่อเห็นเขาเดินใบหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาหา
“คุณอัจฉริยา...”
“เรียกมิกิก็ได้ค่ะ มิกิสั้น ๆ” เธอหันไปยกยิ้มให้กับเขา รู้สึกสะใจนิด ๆ ที่เห็นใบหน้าบูดบึ้งของเจ้านาย
“คุณมิกิ เมื่อกี้ผมลืมบอกคุณไปข้อหนึ่งว่า ค่าใช้จ่ายในการชอปปิงของคุณ ผมจะหักจากเงินเดือนของคุณนะครับ” แล้วเขาก็กดปลดล็อกกุญแจ เดินขึ้นไปนั่งหน้าตาเฉย
‘หา! บอสขา ฆ่ากันเลยดีกว่าแบบนี้’ มิกิอุทานและคิดอยู่ในใจ ตอนนี้ทำหน้าเง้า คิ้วเริ่มขมวดเข้ามาหากัน เห็นยอดในบิลแต่ละบิลแล้วแทบลมจับ
‘ไอ้เจ้านายบ้า คนยิ่งโดนพ่อตัดเงินค่าเบี้ยเลี้ยงอยู่ อร้าย...อยากจะกรี๊ด...’
ปริ้น... ขุนเขากดแตรเสียงดังลั่น แล้วหลังคาก็ถูกเปิดขึ้นไป
“จะไปไหม ชักช้าอยู่นั่นแหละ” เขาตะโกนบอกเธอ
หญิงสาวได้สติ ก่อนจะยกถุงข้าวของไปวางไว้ที่หลังเบาะอย่างรวดเร็ว ขุนเขาแอบหัวเราะนิด ๆ ในกิริยาเง้างอดของเธอ
“ทำไมบอสไม่บอกก่อนคะ” เธอถามคำถามแรกทันทีที่ขึ้นมานั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว จ้องหน้าเจ้านายแบบหาเรื่อง
“อะอ้าว... ก็บอกว่าลืมไง ได้ยินไหมว่า ลืม....” ขุนเขาเล่นลิ้น เน้นคำว่าลืมลากเสียงยาว ก่อนจะใส่เกียร์เดินหน้ารถออกไปทันที
‘เอ่อ... ให้มันได้ยังงี้ซิ’ เธอค่อนแคะตัวเอง นั่งมองถนนแบบเซ็ง ๆ
‘ใช้หนี้กี่เดือนหมดเนี่ย โอ๊ย...’ หญิงสาวนั่งหน้าง้ำไปตลอดทาง เขาลอบมองแล้วอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
‘เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับนายขุนเขา’
บอสหนุ่มขับรถไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ
“จะซื้อของใช้ส่วนตัวไหม” เขาถามเธอ แต่ตัวเองเปิดประตูลงไป หาซื้อของที่เขาต้องได้ใช้ มิกิมองตามหลังเจ้านายที่หายวับเข้าไปในนั้นแล้ว เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาดู
‘วันนี้ไม่ได้กดเงินมาซะด้วยสิ อีกอย่างรู้สึกในบัญชีมันก็จะร่อยหรอลงไปทุกทีแล้ว’
เธอหยิบกระเป๋าสตางค์ ก่อนจะวิ่งตามหลังชายหนุ่มเข้าไป เธอเลือกหยิบข้าวของที่จำเป็นต้องได้ใช้ เพราะบอกตรง ๆ ว่าไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจจะมาใช้ชีวิตที่นี่แบบนี้เลย เธอเดินไปจ่ายเงิน รออยู่ด้านหลังของเขา เห็นขุนเขาหยิบบางสิ่งบางอย่างใกล้ ๆ กับเครื่องคิดเงินส่งให้พนักงานแคชเชียร์
‘อ๊าก... ถุงยางอนามัย’ เธอถึงกับหน้าแดง แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น
เมื่อเขาจ่ายเงินเสร็จ ชายหนุ่มเดินไปหยิบหนังสือพิมพ์สีที่พาดหัวเกี่ยวกับวงการบันเทิงและดาราขึ้นมาอ่าน
(นางเอกละครดังเรื่อง จันทร์เจ้าขา น้องปิ๊ง นิรอร ภัครมนตรี ตกลงเซ็นสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลี บริษัทเอสเอ็ม ในสัญญาจะได้เล่นหนังของค่ายด้วย ค่ายเอสเอ็มได้สร้างดาราดังมีชื่อเสียงขึ้นมาหลาย ๆ คนแล้ว และมีแนวโน้มว่าเธออาจจะได้เล่นหนังคู่กับพระเอก ฮีมินโฮ พระเอกที่ทำให้นางเอกคู่ขวัญแจ้งเกิดในวงการเกาหลีไปหลายคนแล้ว
วันนี้ที่ได้สัมภาษณ์น้องปิ๊ง เธอยิ้มสดใสออกมาตลอดเวลา บอกว่ารู้สึกดีใจมาก ๆ มันเป็นสิ่งที่เธอฝันมาโดยตลอด และกล่าวออกมาว่าถูกอกถูกใจเป็นที่สุด กับข่าวลับที่ไม่ลับอีกเรื่องที่เล็ดลอดออกมาว่า น้องปิ๊งจะเล่นละครซีรีส์คู่กับพระเอกเบอร์หนึ่งของค่ายหนังเอสเอ็มอีกคนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ชื่อพระเอกยังไม่ออกมานะจ๊ะ ขาเมาท์รอไปก่อน รู้กันนะว่างานนี้ เอาช้างมาฉุดก็หยุดความดังของเธอไม่อยู่เสียแล้ว ราศีดาราอันดับต้น ๆ ของเอเชียเป็นของน้องปิ๊งอย่างแน่นอน เชื่อขนมกินได้จ้า คุณนายซ้อแปดรายงาน)
ขุนเขาถึงกับขบกรามแน่น เขากับนิรอรอาจจะไม่ได้คบกันแบบเปิดเผย แต่ก็ได้รู้จักกันตอนที่เธอแสดงละครช่องเดียวกับญานิสา และนั้นคือจุดเริ่มแรกที่คบกันอย่างลับ ๆ
เมื่อสามเดือนก่อน เธอบอกเลิกกับขุนเขาเสียดื้อ ๆ ด้วยเหตุผลว่า เธอต้องการอนาคตที่สดใสในวงการบันเทิงมากกว่ามาเป็นเมียและแม่ของลูกของชายหนุ่ม และไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัว ณ ตอนนี้
มือขาว ๆ เล็ก ๆ สะกิดไปที่ต้นแขนของเจ้านาย
“บอสค่ะ ขอยืมเงินก่อนสองร้อย” เธอทำเสียงให้เบาที่สุด ขุนเขาหันหน้ามามองเธอในทันที ก่อนจะขมวดคิ้ว
“สรุป ผมต้องรับเลี้ยงคุณด้วยใช่ไหม”
เขายอกย้อน ก่อนจะล้วงมือไปในกระเป๋า และหยิบเงินให้เธอสองร้อยบาท
มิกิทำตาละห้อย แบมือรับแล้วกำมันเอาไว้แน่น
“ขอบคุณค่ะบอส” พอหันหลังให้ก็เปลี่ยนเป็นอีกสีหน้า
‘ชิ...ก็ใครล่ะ ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ นี่หากว่ามิกิรู้ตัวก่อน ได้เตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมของมาจากบ้านยาย ฉันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอกย่ะ’ เธอตรงเข้าไปจ่ายเงิน แล้วหยิบถุงนั้นขึ้นมาถือ เห็นหลังเจ้านายไว ๆ เขาเดินกลับไปที่รถ
“ไม่รอกันเลย” เธอว่าให้ แต่ก็เดินออกไปอย่างเร็ว
มันเป็นภาคบังคับ หากว่าภายในเดือนนี้หากมิกิหางานทำยังไม่ได้ คุณพ่อยื่นคำขาดให้กับเธอว่าต้องกลับญี่ปุ่นเพื่อทำงานของครอบครัว แต่เธอก็ยังอยากใช้ชีวิตอิสระที่ตัวเองอยากทำมากกว่า อีกอย่างที่มิกิไม่ซีเรียส เพราะเธอยังมีน้องชาย ที่อายุห่างกันสามปี และน้องสาวฝาแฝดอีกสองคน ที่อายุห่างกับเธอห้าปี โนบุ ซายูริและซิโยริ อยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่แล้ว
“ผมหิว” เขาเอ่ยขึ้นตอนรถแล่นออกมาแล้ว
“ก็แวะกินสิคะบอส มิกิก็หิวเหมือนกัน” เธอยกมือขึ้นลูบท้อง ตอนนี้เวลาที่หน้าปัดบอกเวลาสิบสามนาฬิกาสามสิบนาที
“โอเค กินข้าวแล้วหลังจากนั้นจะส่งคุณไปที่ห้องพัก และก็คุณจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เตรียมตัวไปทำงานที่ภูเก็ตกับผมพรุ่งนี้ แต่ที่โรงแรมคุณจะสั่งอะไรมากินที่ห้อง หรือไปกินที่ห้องอาหารของโรงแรมก็ได้นะ”
“ค่ะ” เธอรับปากแข็งขัน
“ทุกอย่างลงบิลห้องของผม”
“เอ้...แล้วบอสจะมาคิดเงินย้อนหลัง หรือหักเงินเดือนของมิกิหรือเปล่าคะ” เธอย้อนเขาเจ็บแสบ