บทนำ
ซ่าาา~
เรือนร่างที่ชุ่มเหงื่อของหญิงสาวรู้สึกสดชื่นขึ้น เมื่อผิวกายได้สัมผัสกับน้ำอุ่นที่ชโลมลงมาจากฝักบัว เปลือกตาที่มีหยาดน้ำเกาะพราว ปรือขึ้นแล้วจ้องมองไปยังอ่างอาบน้ำจากุซซี่สีดำทมิฬ ถ้าเป็นวันธรรมดาที่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เธอคงไม่ปฏิเสธที่จะลงไปแช่ในอ่างนั้น
แต่ทว่า…
คืนนี้เธอกลับภาวนาให้เรื่องบัดซบจบลงเสียที
หลังจากไปดื่มน้ำมึนเมากับพี่สาวทั้งสองคนที่อยู่หอพักเดียวกัน ทำให้หญิงสาวปลดปล่อยความเป็นตัวเองไปได้ชั่วระยะหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแสนสั้น แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาเดียวในชีวิตที่ ‘ก้านแก้ว’ จะสามารถเริงร่าได้
ครืนนน!
เสียงสั่นประสาทจากสมาร์ตโฟนรุ่นเก่า ดึงความสนใจจากเรือนร่างเซ็กซี่ ให้ปรายตาดำกลมสวยไปมองชื่อที่เด่นร่าอยู่บนหน้าจอ พอเห็นว่าเป็นใคร สิ่งที่ตั้งใจภาวนาคงไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะความบัดซบได้มาเยือนเธออีกแล้ว
สองเท้าเล็กย่างกรายไปหยิบชุดคุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตา มาปิดบังทรวดทรงองค์เอวที่น่ามอง แล้วก้าวขาเรียวสวยเดินออกมาจากห้องน้ำขนาดใหญ่อย่างใจเย็น
ถึงในห้องนี้จะไม่มีใคร แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกว่ามีสายตาปริศนาคู่หนึ่ง จับจ้องมาที่ตัวเธอตลอดเวลา ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่มีวันไหนที่ปราศจากความรู้สึกแบบนี้เลย
ชุดเดรสสีดำสนิท ถูกสวมใส่อีกครั้งเมื่อหญิงสาวต้องออกไปเจอกับใครคนหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเธอมาก แววตาเรียบเฉยไร้อารมณ์จ้องมองตัวเองในกระจกสะท้อนเพื่อเช็กความเรียบร้อย แล้วเดินออกไปจากห้องนี้
“ทำไมมึงถึงไม่ยอมรับสายกู!?”
น้ำเสียงแข็งกร้าว ปนหาเรื่องเอ่ยถามสาวสวยที่เดินทอดน่องมายังจุดนัดพบ ซึ่งไม่ไกลจากตัวหอพักมากนัก ทั้งทีที่ได้เห็นอีกฝ่าย ก็รีบพุ่งตัวเข้ามากระชากแขนเล็ก ให้เข้าไปคุยในป่ามืดทึบ เพื่อหลบหลีกสายตาคนในหอพัก
“เอาเงินมาให้กูเดี๋ยวนี้!”
“เหลือติดตัวแค่สามพันเอง เอาไว้จ่ายค่าหอ…”
พูดยังไม่ทันจบประโยค เจ้าของเรือนร่างเซ็กซี่ถูกค้นหากระเป๋าสตางค์ พอไม่เจอคนคนนั้นก็จิกหัวจนใบหน้าสะสวยเชิดหน้าขึ้นท้องฟ้า แล้วถูกมืออีกข้างบีบคอ
“ถ้ามึงไม่เอาเงินมาให้กู มึงเจอดีแน่อีก้าน!”
ดวงตาสีดำกลมสวยปิดลง ก่อนจะหยิบแบงก์พันสามใบที่ยัดเอาไว้ในบราเซีย ส่งให้คนตรงหน้าอย่างไม่มีทางเลือก พออีกฝ่ายได้เงินไป ก็ใช้สายตามองมาที่หญิงสาวด้วยความเหยียดหยาม แล้วผลักร่างจนเธอเซตามแรง
“ภายในอาทิตย์นี้ มึงต้องหาเงินมาให้กูอีกสองสามถ้าไม่ได้ตามที่กูต้องการ กูจะเอามึงไปขายให้พวกบนเรือ!”
“เงินตั้งสามหมื่น จะเอาปัญญาที่ไหนไปหามาให้”
“มึงอย่ามาตอแหลให้มันมาก มึงขายตัวได้วันละตั้งเท่าไร ทำไมกูจะไม่รู้ หึ! กะอีแค่เงินสองสามหมื่น มึงไปนอนถ่างขาให้ไอ้แก่ตัณหากลับ เอาแป๊บเดียวก็ได้มาแล้ว”
ฝ่ามือเล็กเริ่มกำหมัดแน่น เมื่อได้ยินประโยคนั้น เธอต้องเจ็บช้ำอีกสักแค่ไหน เรื่องบัดซบนี้ถึงจะจบลงเสียที
บรืนนน!
แววตาแค้นเคืองจ้องมองรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว พอเสียงนั้นเงียบสงัดลง หญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปใน ‘หอพักกลิ่นผกา' แล้วคิดหาวิธีที่จะหาเงินให้ได้สามหมื่น ตามที่ไอ้เศษสวะต่างสายเลือดต้องการ
ตึก ตึก ตึก…
เสียงรองเท้าส้นสูงเดินเหยียบพื้นกระเบื้อง ขึ้นไปยังชั้นสามของหอพัก ระหว่างทางที่เดินขึ้นไป มีเพียงความมืดมิด ไร้แสงสว่างนำทาง ถ้าเป็นคนขี้กลัวคงจะรีบวิ่งแจ้นออกไปจากหอพักนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คงไม่ใช่กับ ‘ก้านแก้ว' เพราะเธอไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ และคิดว่ายังมีเรื่องอีกมากมายให้หวาดกลัวกว่าเรื่องผีสางนางไม้
อย่างเช่น เรื่องปากท้อง เรื่องค่าหอพักที่ไม่มีจ่ายแม้แต่บาทเดียว ยังดีที่เธอจ่ายค่าหอพักเดือนแรกไปแล้ว แต่เดือนที่สองนี่สิจะทำยังไง ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ เสี่ยที่เคยเลี้ยงดูปูเสื่อก็ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา ทำให้เธอไม่มีทางออกจนต้องไปลดตัวไปขายบริการ ถึงจะเป็นงานที่ต้องขายศักดิ์ศรีทุกคืน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิต
“เฮ้อ…” หญิงสาวถอนหายใจแล้วทรุดตัวลงนั่งกอดเข่า มองภายในห้องสุดหรูที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม แตกต่างจากภายนอกที่ดูวังเวง จนคิดว่าเป็น ‘หอพักผีสิง’
เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ตรงที่ว่าห้องนี้ถูกปล่อยให้เช่าในราคาสามพันบาทต่อเดือนเท่านั้น ทั้งที่มีห้องนอน ห้องน้ำ ข้าวของเครื่องใช้ครบครันยิ่งกว่าอยู่ในคอนโดหรูใจกลางกรุงเทพ ครั้งแรกที่เธอเห็นห้องนี้ ก็ตัดสินใจเข้าพักแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่มีความเงียบสงบทุกอย่างจบ
ฟิ้ววว~
นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองไปยังหน้าต่างที่เปิดอยู่ ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นไปปิด ไม่ให้ลมเย็นยะเยือกจากด้านนอกปลิวไหวเข้ามา แต่ทว่าสองเท้าเรียวเล็กยังไม่ทันได้ก้าวเดิน ก็เห็นแววตาของใครบางคนจ้องมองออกจากตู้เสื้อผ้า
พอเธอหันไปสบตาคู่นั้น ไฟในห้องก็ดับลงทันที!
แอ๊ดดด…
เสียงเปิดตู้เสื้อผ้าลากยาวจนน่าขนลุก ก่อนจะมีเงาดำของร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา ยืนตระหง่านตรงหน้าเธอ
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งลอยมาเตะจมูก คล้ายกลิ่นเหม็นเน่า สร้างจินตนาการให้คนกลัวผีสติแตกกระเจิง แต่สำหรับก้านแก้ว ร่างสูงใหญ่กำยำก็ไม่ต่างอะไรจากสิ่งของ
พรึบ~
คนตัวเล็กเดินเข้าสวมกอด ฤทธิ์ของน้ำมึนเมาไม่ได้ทำให้เธอขาดสติ แต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ คืออ้อมกอดจากใครสักคน ใครก็ได้ที่จะไม่ทำให้เธอร้องไห้
เช้าวันต่อมา
แสงแดดจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาแยงตาหญิงสาว ที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงคิงไซซ์ เมื่อคืนเธอจำได้ว่าเธอเองรู้สึกเหนื่อยมาก หลังจากไปเที่ยวผับกับเจ๊ห้องข้างล่าง ก็สูญเสียพลังงานไปเยอะ กลับมาถึงห้องก็หมดอาลัยตายอยาก แต่ที่จำได้ดีก็คือพี่ชายเอาเงินไปหมดแล้ว
ซ่าาาา!
เสียงในห้องน้ำดึงความสนใจไปจากคนบนเตียง ระหว่างที่หญิงสาวกำลังคิดว่าเมื่อคืนพาใครมานอนด้วยหรือเปล่า ร่างสูงใหญ่ที่มีแต่รอยสักก็เผยตัวจากห้องน้ำ ทันทีที่เธอได้เห็นหน้าเขา ก็ขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
"คุณ..."
ริมฝีปากอวบอิ่มได้รูป ขยับเขยื้อนเพื่อระบายเสียงแผ่วเบา เรียกอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งแล้วจ้องมองมายังตัวเธอเช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างมีความสงสัย แต่ก็ยังไม่ปากเอ่ยถาม รอจนกว่าเวลาจะผ่านไปหลายนาที ถึงจะตั้งบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายถามเธอกลับ
"คุณมองเห็นผมด้วยเหรอ?"
น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามคนตัวเล็ก ที่ยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงนอน อย่างไม่หวาดกลัวอีกฝ่าย พอเธอได้ยินประโยคคำถาม ก็เอียงคอสงสัยหนักกว่าเดิม