"ระ..หรือว่านี่..จะเป็นยาวิเศษ!!" เสียงกลุ่มคนตรงหน้าร้องขึ้นด้วยความตกตะลึง แม้แต่ตัวของจินหลันเองที่ได้เห็นประสิทธิภาพของยารักษาเป็นครั้งแรกก็ยังตกตะลึงไปด้วย แต่สิ่งที่คนอื่นๆ เห็นก็คือใบหน้าอันงดงามของเถ้าแก่เนี้ยของร้านมีเพียงรอยยิ้มเล็กๆ ติดอยู่ที่มุมปากส่วนสีหน้าและแววตายังคงสงบนิ่งเช่นเคยเหมือนกับว่ารับรู้ถึงประสิทธิภาพของยาในร้านตนเองเป็นอย่างดี
"แบบนี้ราคาหนึ่งเหรียญหยกคงไม่ถือว่าแพงเกินไปแล้วใช่ไหม" จินหลันเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่แน่นอนเพราะระบบร้านค้าทำให้สิ่งที่ทุกคนเห็นคือใบหน้าของเถ้าแก่เนี้ยมีรอยยิ้มตรงมุมปากมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
"ไม่แพง ไม่แพง ไปซื้อมาอีกแล้วแจกจ่ายให้ครบทุกคน" ชายหนุ่มที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยตอบกลับมา และหันไปบอกสมาชิกในกลุ่มคนเดิมให้ไปซื้อยามาแจกจ่ายให้ทุกคน เมื่อทุกคนได้รับยาต่างก็หยิบมาเปิดกินทันที ยกเว้นก็แต่หญิงสาวคนที่โวยวายในตอนแรกที่ดูจะมีท่าทางไม่พอใจมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
"ทำไมเธอไม่กินยาล่ะเหมยเหมย ยานี้มันดีมากเลยนะ อาการบาดเจ็บที่ได้รับมาหลังกินยาเข้าไปก็หายสนิทเหมือนไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนเลย" หญิงสาวอีกคนที่กินยาเข้าไปแล้วหันมาเห็นสหายยังไม่กินยารักษาเข้าไปก็เอ่ยถามขึ้น
"ยาวิเศษขนาดนี้นำมาวางขายในร้านแบบนี้เธอไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือไง แล้วดูเถ้าแก่เนี้ยของร้านสิงดงามขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะใช่พวกปีศาจจิ้งจอกจำแลงกายมาคิดหลอกล่อผู้คนหรือเปล่า" หญิงสาวคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่ดูไม่ค่อยพอใจโดยเฉพาะสายตาลุ่มหลงที่ชายหนุ่มหัวหน้ากลุ่มแสดงท่าทางออกมาว่าดูจะพึงพอใจในตัวของเถ้าแก่เนี้ยสาวเป็นอย่างมาก
"แม่นางท่านนี้น่าจะอ่านพวกนิยายประโลมโลกมากจนเกินไป ในแผ่นดินซื่อหลิงแห่งนี้ไหนเลยจะมีปีศาจหรือสัตว์อสูรตนใดที่แปลงกายเป็นคนและพูดคุยได้กัน" จินหลันเอ่ยตอบอีกฝ่ายกลับไป ในแผ่นดินนี้หรือจะเรียกว่าโลกใบนี้มีแค่สัตว์อสูรและสัตว์ธรรมดาเพียงเท่านั้น ไม่มีปีศาจ หรือสัตว์ที่มีระดับสูงไปกว่านี้อีกแล้ว และสัตว์อสูรก็ไม่สามารถแปลงกายหรือพูดคุยภาษาคนได้ จะมีก็แต่ในนิยายที่วางขายกันอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดที่คนแต่งคิดและจินตนาการออกมา ก็คงคล้ายๆ กับโลกที่เธอจากมาเพราะถ้าสัตว์เหล่านั้นพูดได้คงแปลกพิลึกพิลั่นไปเลย
"เธอ!!.." หญิงสาวที่ชื่อเหมยเหมยพอได้ฟังสิ่งที่จินหลันพูดก็รู้สึกโกรธมากจนตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้พูดอะไรออกมาจินหลันก็เอ่ยขัดขึ้นก่อน
"หยุด!! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่แม่นางจะมาส่งเสียงดังโวยวายแบบนี้ได้ ครั้งนี้จะถือว่าทางร้านได้ทำการตักเตือนแล้ว แต่ถ้ามีอีกครั้งจะไม่อนุญาตให้แม่นางเข้ามาในร้านนี้ได้อีก" จินหลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มเล็กๆ ติดที่มุมปากตอนนี้กลายเป็นใบหน้าที่นิ่งสงบแต่ก็รับรู้ได้ถึงความไม่พอใจ และรอบๆ ตัวของจินหลันยังแผ่พลังกดดันออกมาอีกด้วย
"ขออภัยเถ้าแก่เนี้ยที่คนของผมแสดงท่าทางไร้มารยาทเช่นนี้ภายในร้าน ต่อไปผมจะดูแลสมาชิกในกลุ่มให้ดีกว่านี้ ถ้าอย่างนั้นผมขอซื้อยาเพิ่มอีกสิบขวด" ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับประสานมือเป็นการคารวะมาให้เธอ ซึ่งดูแล้วชายคนนี้ก็คือต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวคนนั้นไม่พอใจเธอนั่นเอง แต่ก็ช่วยไม่ได้ร่างนี้งดงามเกินไปจริงๆ ขนาดเธอเองยังต้องยอมรับ
"ยามีเหลืออีกเพียงแค่สามขวดเท่านั้น ถ้าคุณลูกค้าอยากได้เพิ่มคงต้องมาใหม่พรุ่งนี้ ยาของทางร้านจำกัดการขายเพียงสิบขวดต่อวันเท่านั้น" จินหลันเอ่ยตอบอีกฝ่ายกลับไป ในใจก็ต่อว่าระบบที่จำกัดจำนวนของยาที่วางขาย ไม่อย่างนั้นวันนี้เธอจะได้เงินเพิ่มขึ้นอีก
'ของดีมีคุณภาพย่อมต้องมีการจำกัดการขาย เพื่อรักษาระดับของสินค้าให้เหมาะสมและดูน่าเชื่อถือ ในฐานะเถ้าแก่เนี้ยที่ดีต้องเข้าใจหลักการตลาดให้มากกว่านี้'
จินหลันที่บ่นระบบอยู่ในใจก็ต้องตกใจที่อยู่ๆ เสียงของระบบก็ดังขึ้น เป็นเพราะเธอกำลังโมโหจึงลืมไปว่าระบบสามารถพูดคุยตอบโต้กับเธอทางความคิดได้ และหลายวันมานี้ไม่มีลูกค้าเธอจึงพูดคุยกับระบบแบบออกเสียงมาตลอด
"เอ่อ..ถ้าเช่นนั้นผมขอซื้อยาสามขวดที่เหลือไปด้วย และพรุ่งนี้จะแวะมาซื้อเพิ่มอีกครั้ง" ชายคนที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้น ดึงจินหลันให้กลับมาสนใจกลุ่มลูกค้าตรงหน้าและแน่นอนคำพูดของอีกฝ่ายเรียกรอยยิ้มของเถ้าแก่เนี้ยให้กลับมาอีกครั้ง ชายคนเดิมหยิบยาที่เหลืออยู่ 3 ขวดแล้วก็เดินมาจ่ายเงิน จากนั้นคนทั้งหมดก็พากันเดินออกจากร้านไปพร้อมเสียงเอ่ยขอบคุณและให้กลับมาอุดหนุนใหม่
เมื่อส่งลูกค้าออกไปจากร้านหมดแล้ว จินหลันจึงมีเวลาเปิดดูกล่องเก็บเงินก็มองเห็นเหรียญหยกนอนนิ่งอยู่ในกล่องจึงหยิบขึ้นมาดู เพราะเหรียญที่ลูกค้าจ่ายมาระบบจะเก็บไปทันทีเธอยังไม่ทันได้จับเลยสักครั้ง เมื่อตอนที่ขายยาสองขวดแรกไปเธอได้เงินส่วนแบ่งมาไม่เต็ม 2 เหรียญทองจึงเอา 1 เหรียญเงินของตนเองมาใส่ชดเชยค่าทำความสะอาด ตอนนี้เธอจึงมีเงิน 1 เหรียญหยกพอดี
เหรียญหยกมีลักษณะเป็นหยกทรงกลมสีเขียวใสขนาดเท่ากับเหรียญสิบที่เธอเคยใช้แต่มีขนาดหนากว่า ด้านในตรงกลางมีตราประทับฝังอยู่เป็นตัวอักษรจีนเขียนว่า 'ชิง' ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าเหรียญหยกนี้มาจากแคว้นชิงหลงแห่งนี้ เหมือนกับเหรียญทองและเหรียญอื่นที่เธอใช้อยู่
ซึ่งอีก 6 แคว้นที่เหลือและแต่ละสำนักใหญ่บนแผ่นดินนี้ก็จะมีการผลิตเหรียญเป็นของตนเอง และทุกแคว้นทุกสำนักจะสามารถใช้เหรียญของตนเองที่ไหนบนแผ่นดินนี้ก็ได้ เพราะการสลักชื่อบนเหรียญต่างๆ จะถูกทำขึ้นมาจากส่วนกลางด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ได้รับการยอมรับจากทุกแคว้นทุกสำนัก
แต่ไม่ใช่เพียงแค่การสลักชื่อเท่านั้น เพราะวัสดุที่นำมาใช้ทำเหรียญต่างๆ ก็เป็นวัสดุพิเศษที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ โดยแต่ละแห่งที่ต้องการมีเหรียญใช้เป็นของตนเองจะต้องนำทองคำหรือของมีค่าไปทำเรื่องขอผลิตเหรียญมาจากส่วนกลางหรือที่เรียกว่าคลังกลางที่ตั้งอยู่ในแต่ละแคว้น หรือถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับธนาคารกลาง และคลังกลางนี้ก็เกิดขึ้นจากการทำสัญญาร่วมกันโดยให้ที่นี่เป็นฝ่ายผลิตเหรียญออกมา เพื่อให้สามารถนำเหรียญไปใช้ได้ทุกที่บนแผ่นดินแห่งนี้ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องแฟนตาซีอีกเรื่องของที่นี่ที่เธออ่านเจอมา
เมื่อชื่นชมเหรียญหยกเหรียญแรกในชีวิตจนพอใจแล้ว จินหลันก็เก็บมันใส่กล่องเก็บเงินไว้ตามเดิม เธอเชื่อมั่นว่ามันจะปลอดภัยมากพอๆ กับการที่เธออยู่ในร้านแห่งนี้ มองดูเวลาก็เป็นตอนเที่ยงพอดี ตอนแรกเธอตั้งใจจะกินข้าวกล่องที่เพิ่งได้มาใหม่ แต่ก็รู้สึกเสียดายอาหารที่ซื้อมาไว้แล้วครบทั้ง 3 มื้อ จึงตัดสินใจกินอาหารที่ซื้อมาให้หมดก่อน ข้าวกล่องเอาไว้พรุ่งนี้เธอค่อยกิน
หลังจัดการอาหารกลางวันเรียบร้อย จินหลันกลับมานั่งที่โซฟาในร้านอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่มีอะไรให้ทำหนังสือที่มีก็อ่านจนหมดแล้ว อยากจัดของในร้านก็ไม่มีอะไรให้จัดได้แต่นั่งหายใจทิ้งไปแค่นั้น
ในขณะที่จินหลันกำลังเคลิ้มใกล้จะงีบหลับก็ได้ยินเสียงตึงตังและเสียงกระดิ่งดังมาจากทางเข้าร้านจึงหันไปมองก็เจอเข้ากับกลุ่มบุรุษที่แต่งกายด้วยชุดจอมยุทธ์สะพายดาบแบกโล่ถือหอกหรืออาวุธอื่นๆ แบบในหนังจีนกำลังภายในที่เคยดูจำนวน 7-8 คนก้าวเข้ามาในร้านพร้อมกับส่งเสียงพูดคุยกันจนดังลั่นไปหมด แต่พอคนเหล่านั้นหันมามองเห็นจินหลันที่นั่งอยู่ก็พากันตกตะลึงและเสียงพูดคุยก็เงียบลงในทันที
"ยินดีต้อนรับ มีอะไรให้ช่วยไหม" จินหลันส่งยิ้มมุมปากตามสไตล์เถ้าแก่เนี้ยส่งไปให้บุรุษทั้ง 8 คนพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามที่ระบบกำหนด
"เอ่อ..คือ..อ่อ..พวกเรากำลังจะขึ้นไปที่หมายซาน แต่ตอนเดินผ่านเห็นว่าร้านนี้ดูงดงามและน่าจะเพิ่งเปิดเลยแวะเข้ามา" หนึ่งในกลุ่มบุรุษที่มีรูปร่างสูงใหญ่ที่สุดเป็นคนเอ่ยตอบหลังจากที่น่าจะตั้งสติได้แล้วพร้อมด้วยท่าทางเขินอายที่แสดงออกมา
"เป็นเช่นนั้น ถ้าอย่างไรพวกคุณลองชมสินค้าดูก่อน" จินหลันทำเพียงเอ่ยตอบพร้อมกับพยักหน้าเป็นการตอบรับ และเตรียมกลับไปนั่งเหม่อลอยตามเดิม แต่แล้วก็มีข้อความของระบบโผล่ขึ้นมาตรงหน้า
[เพื่อปูทางการเป็นเถ้าแก่เนี้ยอันดับหนึ่ง ระบบมีภารกิจพิเศษมอบให้ดังนี้
ภารกิจพิเศษ : เมื่อมีสินค้าในร้าน เถ้าแก่เนี้ยที่ดีก็ต้องขายมันออกไปสิ
เงื่อนไข : ขายข้าวกล่องให้ได้ 0/5
ขายเครื่องดื่มให้ได้ 0/5
ของรางวัล : ยาสำหรับเปิดจุดลมปราณระดับสูง
ยาชำระไขกระดูกระดับสูง
มิติสำหรับฝึกฝนลมปราณ
ระยะเวลา : 1 ชั่วโมง
บทลงโทษ : ไม่มี
ข้อควรระวัง : ยาที่ได้รับมีอายุการใช้งาน 3 วัน]
จินหลันที่ตอนแรกคิดว่าจะนั่งอยู่เฉยๆ รอให้คนพวกนี้เห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วกลับออกไปเอง ก็ต้องรีบลุกขึ้นจากโซฟาทันทีที่อ่านข้อความจากระบบจบ และเดินเข้าไปหากลุ่มบุรุษรูปร่างใหญ่โตทั้ง 8 คน
"ร้านของเรามียาระดับทั่วไปที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บที่ยังไม่ถึงแก่ชีวิตได้ เพียงแต่วันนี้มีลูกค้าซื้อไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงมีเพียงแค่ข้าวกล่องที่กินแล้วนอกจากอิ่มอร่อยยังช่วยเพิ่มพละกำลังให้หนึ่งส่วนสิบ และเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มสติปัญญาได้เล็กน้อยเป็นเวลาสามชั่วโมง ถ้าพวกคุณกำลังจะขึ้นไปที่หมายซาน ก็เลือกซื้อพวกมันไปกินดูสิอาจจะมีประโยชน์ก็ได้" เพราะรางวัลที่ระบบจะมอบให้เป็นสิ่งที่เธออยากได้ จินหลันจึงต้องงัดกลยุทธ์การขายที่เหมือนไม่ขายออกมา เพราะสิ่งที่เธอพูดถ้าไม่ถูกใจระบบคงเซนเซอร์คำพูดและท่าทางของเธออีกเป็นแน่
"ข้าวกล่องเพิ่มพละกำลังกับเครื่องดื่มเพิ่มสติปัญญาอย่างงั้นเหรอ? น่าสนใจ" ชายหนุ่มอีกคนที่กำลังอ่านรายละเอียดที่หน้าตู้สินค้าอยู่เอ่ยขึ้น และไม่ต้องคิดสิ่งใดชายคนนั้นก็หยิบเหรียญหยกออกมาจ่ายค่าข้าวกล่องและเครื่องดื่ม เมื่อรับทั้งสองอย่างไปแล้วอีกฝ่ายก็ทำการดื่มโกโก้ร้อนทันที
คนที่เหลือก็ไม่รีรอต่อแถวเพื่อกดซื้อสินค้าทั้งสองอย่างตามชายคนแรก และเมื่อได้เครื่องดื่มมาบางคนก็ดื่มเลย แต่บางคนก็กรอกใส่กระบอกน้ำเก็บไว้
"อ๊ะ..ผมเข้าใจแล้ว!!" บุรุษหนึ่งในกลุ่มที่ดื่มโกโก้ร้อนไปแล้วเอ่ยขึ้น ในมือของอีกฝ่ายมีม้วนหนังหนึ่งผืนและสายตาที่มองแผ่นหนังผืนนั้นก็ดูตื่นเต้นมาก
"นายมั่นใจใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ! สินค้าของเถ้าแก่เนี้ยดีอย่างที่เขียนเอาไว้จริงๆ วันนี้พวกเราคงต้องขอตัวก่อนไว้มีโอกาสจะแวะมาอุดหนุนใหม่" คนที่กดซื้อสินค้าเป็นคนแรกหันไปเอ่ยถามชายคนที่เอ่ยว่าเข้าใจแล้ว เมื่อได้รับการยืนยันก็หันไปบอกคนอื่นๆ และหันมากล่าวกับเธอแล้วคนทั้งหมดก็พากันเดินออกไปจากร้านด้วยความเร่งรีบ คนทั้งหมดเข้ามาในร้านยังไม่ถึง 20 นาทีก็พากันออกไปจนจินหลันเองยังได้แต่ยืนงง
********