ใครว่าวิ่งทะเล่อทะล่า ฉันแค่วิ่งไปดูลาดเลาก็เท่านั้น

2206 คำ
ผมลืมเนวิลล์ไปเสียสนิท มัวแต่เฮฮากับแพทริกและแอนนาเบลที่พาพวกพ้องมานั่งคุยกันถึงห้องนอนกระทั่งเลยเวลานอน จนคนของกองร้อยหลักหรือที่พวกกองร้อยสำรองเรียกว่าครูฝึกต้องมาไล่ถึงจะแยกย้ายกันได้ ผมจึงได้รู้กฎของที่นี่อีกข้อคือ ทุกคนจะต้องเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่ม สี่ทุ่ม! ตอนผมอยู่หอที่มหา’ลัย บางวันผมไม่นอนนะพูดเลย ยิ่งเป็นซอมบี้ที่ไม่มีความง่วง ความรู้สึกใด ๆ ด้วยแล้ว การแสร้งนอนนิ่ง ๆ สมมติว่าหลับเนี่ย มันโคตรจะทรมานเลยให้ตาย ผมได้แต่นอนดิ้นไปมาทั้งคืน ผ่านไปหลายชั่วโมงกระทั่งเสียงกริ่งดังระงมไปทั่ว พร้อมกับไฟที่เปิดสว่างทั้งอาคาร ผมรีบดันตัวลุกขึ้นมาทำหน้าเหรอหรา ขณะที่แพทริกและแอนนาเบลรีบจัดการคว้าเสื้อนอกและรองเท้าคอมแบทมาสวมอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น” ผมถามหน้าตื่น ให้แพทริกที่ยังคงเมาขี้ตาหันมาบอกผมเสียงร้อนรน “ก็ได้เวลาตื่นแล้วน่ะสิ” “ตื่นเหรอ? นี่ฟ้ายังไม่สว่างเลยนะ” ผมว่าเมื่อหันไปมองท้องฟ้าด้านนอกอาคารผ่านหน้าต่าง นี่คือประโยชน์ของห้องที่อยู่ในสุดของอาคารล่ะ เกิดอะไรขึ้นด้านนอกก็มองเห็นได้ก่อนใครเพื่อน “ตีสี่” พอแพทริกตอบ ผมก็ย่นคิ้ว นี่จะตื่นเช้าเอาโล่กันหรือไง! “นายอย่ามัวพูดมากอยู่น่า รีบแต่งตัวซะ เสร็จช้าก่อนที่พวกครูฝึกมา นายตายแน่” แอนนาเบลเรียกสติผมคืนมา “คนที่ตายน่ะ ฉันว่าเนวิลล์ต่างหากมั้ง กว่าหมอนั่นจะแหกขี้หูขี้ตาออกจากบ้านมาได้ ฟ้าคงสว่างกันพอดี” ผมกลั้วหัวเราะ พลันคว้าเสื้อนอกจากสวมบ้าง ขณะที่แอนนาเบลกับแพทริกจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วเรียบร้อย เดี๋ยวนะ! นี่ใช้เวลาแต่งตัวไม่ถึงห้านาทีเลยนะนั่น! “หมอนั่นไม่เคยสาย ตอนนี้อย่าเพิ่งสนใจเรื่องของคนอื่น รีบแต่งตัวเข้าเถอะ” แอนนาเบลว่า พร้อมกับทำท่าเตรียมจะออกไป พอผมเห็นทั้งคู่ทำท่าจะทิ้งผม ผมก็รีบคว้ารองเท้ามาสวมบ้าง แต่รู้อะไรมั้ยว่าไอ้รองเท้าคอมแบทเนี่ย มันใส่ยากโคตร ๆ เลย จากที่ตอนแรกไม่เครียด ผมก็เริ่มเครียดขึ้นมาละ ยิ่งเห็นทั้งคู่รูดม่านเปิด ผมก็เร่งมือจนมือเป็นระวิง ก่อนจะวิ่งตามพวกเขาลงมาข้างล่างทั้งที่ยังใส่รองเท้าไม่เสร็จดีด้วยซ้ำ พอลงมาที่หน้าอาคาร ผมก็ถูกแพทริกดุนหลังให้ไปเข้าแถวรวมกับคนอื่น ๆ ที่รออยู่ก่อนแล้ว ผมรู้ในตอนนี้เองว่า นอกจากความเจ็บปวดที่ผมยังรับรู้ได้ ยังมีความเหนื่อยอีกอย่างที่ยังคงทำงานได้ดี ไม่ใช่พอรับรู้ความรู้สึกได้อย่างที่เข้าใจในตอนแรก ให้ตายเถอะ แค่ออกกำลังหน่อยเดียว ทำเอาหอบขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย! ไม่นานนัก ครูฝึกก็มาเข้าประจำการ พร้อมกับอธิบายการฝึกในวันนี้ยาวเป็นหางว่าว ผมไม่ได้ฟังหรอก นอกจากพยายามควบคุมลมหายใจให้กลับเป็นปกติอย่างเดียวเท่านั้น “นายยังไม่ได้ผูกเชือกรองเท้า” จู่ ๆ เสียงของคนข้าง ๆ ก็ดังขึ้นเบา ๆ ให้ผมได้เหลียวไปมอง พอหันไปเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นเนวิลล์ชำเลืองมองผมด้วยหางตา ผมก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นเขา “ตื่นสายล่ะสิ” พอเขาพูดขึ้นมาอีก ผมก็หงุดหงิดขึ้นมาน้อย ๆ จำเป็นต้องสวนกลับทันใด “ไม่ได้ตื่นสาย แค่แต่งตัวไม่ทัน” เนวิลล์หัวเราะในลำคอ ฟังดูก็รู้เลยว่าหมอนี่กำลังเยาะเย้ยผม ก่อนที่ความสนใจของผมจะถูกดึงไปเมื่อเสียงของครูฝึกดังขึ้นอีกครั้ง “วันนี้เราจะฝึกซ้อมลาดตระเวนในที่ราบ อุปกรณ์ของเราคือมาร์กเกอร์[1]และลูกบอลสี ฉันจะพาพวกนายไปลงสนามรบจำลอง และพวกนายจะต้องลาดตระเวนกันครั้งละห้าหน่วยเหมือนเดิม ลูกบอลของพวกนายแต่ละทีมจะเป็นคนละสี กติกาเหมือนเดิมคือ ทีมไหนทำแต้มกับเป้าซอมบี้ได้มากสุด ทีมนั้นคือผู้ชนะ ยิงได้หนึ่งเป้า เท่ากับหนึ่งแต้ม...” ครูฝึกว่าพลางชูปืนที่มีลักษณะคล้ายปืนเพนท์บอล[2] ขึ้นสูง ผมเคยเห็นปืนนี่ในโทรทัศน์เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่เคยทดลองเล่นมันเลยสักครั้ง พลันกังวลขึ้นมาว่าจะใช้มันไม่เป็น ก่อนค่อย ๆ เอนตัวไปด้านหลัง กระซิบถามแพทริกที่ยืนอยู่ “ไอ้ปืนนี่มันใช้ยังไงน่ะ” “ก็แค่เหนี่ยวไกแล้วก็ยิง” “ใช้ง่ายกว่าปืนจริงอีก ถามอะไรแปลก ๆ อย่าบอกนะว่านายไม่เคยใช้” อันนี้แอนนาเบลที่อยู่เยื้องกันถามขึ้นมา “ที่เขตฉันไม่มีการฝึกด้วยปืนเพนท์บอลน่ะ มีแต่ใช้ปืนจริง เลยไม่แน่ใจ” ผมรีบแก้ตัว ตามด้วยหัวเราะแก้เก้อ พวกนั้นมองผมอย่างจับผิดเล็กน้อย ก่อนจะเบือนสายตาไปยังครูฝึกเมื่อเขาเริ่มอธิบายกฎกติกา “พวกนายมีเวลาแค่ทีมละสามสิบนาทีเท่านั้น ใช้เวลาให้น้อยที่สุด และจำไว้ให้ขึ้นใจว่าพวกนายห้ามโดนลูกบอลสีแดงจากเครื่องยิงยิงใส่เป็นอันขาด ใครโดนยิงใส่ ถือว่าตายทันที ให้ออกจากสนาม ทีมไหนมีคนตายเยอะสุดหรือใช้เวลามากสุด ทีมนั้นเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลยว่าโดนฉันเล่นงานอ่วมแน่” ครูฝึกว่าพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “แล้วนี่มัวรออะไรกันอยู่! ไสหัวไปได้แล้ว! ไป ๆ ๆ !” จู่ ๆ ครูฝึกคนนั้นก็ตะเบ็งเสียงขึ้น พวกซอมบี้ฮันเตอร์นายอื่น ๆ พากันวิ่งไปยังสนามรบจำลองที่อยู่ไม่ไกลจากโรงนอนทันใด ผมวิ่งตามไปด้วยอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ ก่อนจะถูกเรียกรวมพลอยู่ที่หน้าสนามรบนั่น หลังจากนั้น พวกเราก็ถูกแบ่งออกเป็นทีมละห้าหน่วย ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ากองร้อยที่มาฝึกการลาดตระเวนในวันนี้ มีเพียงรุ่นอายุ 20-24 ปีเท่านั้น ขณะที่รุ่นอายุน้อยกว่านี้ถูกพาไปฝึกอย่างอื่นแทน ผมหอบหายใจแผ่วลงกว่าเดิมด้วยความเหนื่อยเริ่มพอจะผ่อนคลายลงบ้างแล้ว พลางมองตรงไปยังสนามรบจำลองที่มีซอมบี้ฮันเตอร์ทีมหนึ่งวิ่งลงไป มันเป็นพื้นที่ที่จำลองเป็นบ้านเมืองในลอสแอนเจลิส มีตึกเป็นฉากที่ทำจากไม้อยู่ไปทั่ว พร้อมกับบรรดาถังต่าง ๆ ที่ให้เป็นที่หลบยามซอมบี้ที่เป็นฉากทำจากไม้เหมือนกับตึกโผล่ขึ้นมาพร้อมกับเครื่องยิงลูกบอลสี ครูฝึกอธิบายเพิ่มเติมว่าในสนามรบจำลองเหมือนจะแบ่งออกเป็นด่าน ๆ ประมาณสี่ด่าน ในทุก ๆ ด่าน ถ้าจัดการยิงเป้าซอมบี้ได้ครบแล้ว เครื่องยิงลูกบอลสีก็จะหยุดทำงาน ให้ไปด่านต่อไปได้ ผมคลายความกังวลเล็กน้อยที่การฝึกนี่ไม่ได้ยากอย่างที่ผมคิดไว้ตอนแรก และพอทีมอื่นจัดการกับเป้าในสนามเสร็จ กระทั่งถึงคิวที่ทีมผมจะต้องลงสนาม ผมก็ไปเลือกอุปกรณ์และสวมใส่เครื่องแบบกันกระแทกในระหว่างที่ครูฝึกนับแต้มของทีมนั้นและจัดการตั้งเป้าให้กลับเป็นเหมือนเดิม ผมคว้าปืนกระบอกหนึ่งขึ้นมาทำท่าส่องไปมาดู ก่อนที่เนวิลล์จะยื่นมือมาคว้าปืนในมือผมไป “เอามาเติมแก๊ส เติมลูกบอลก่อน ไม่มีแก๊สแล้วนายจะยิงยังไง” “รู้น่า แค่ลองเล็งดูเฉย ๆ ว่าจับถนัดมือหรือเปล่า” ผมย่นคิ้วผ่านแว่นตากันลม แสร้งทำเสียงรำคาญทั้งที่ผมไม่รู้เลยสักนิดว่ามันจะต้องเติมโน่นนี่นั่นก่อนใช้งานด้วย เนวิลล์ส่งปืนกลับให้ผมถือทันทีที่เติมสารพัดสิ่งที่เขาว่าเสร็จ ก่อนที่แพทริกจะโบกมือเรียกทุกคนในทีมมารวมตัว แล้วตกลงอะไรกันเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมในการฝึกครั้งนี้เพราะร็อบบ์ไม่ได้มาร่วมฝึกกับเรา ได้ยินแว่ว ๆ ว่าเขาถูกท่านนายพลทำโทษโดยการกักบริเวณอะไรสักอย่าง “แผนเดิม แยกไปหน่วยใครหน่วยมัน จัดการให้เรียบแล้วมาเจอกันที่มุมตึกก่อนทางออก ข้างหลังนั่นจะมีซอมบี้เยอะกว่าที่อื่น ซึ่งหมายความว่ามีเครื่องยิงลูกบอลมหากาฬอยู่ ตรงนั้นเราจะลุยไปพร้อม ๆ กัน” คนอื่นพยักหน้าเหมือนกับรู้ว่าควรจะทำยังไงอีกต่างหาก มีแต่ผมนี่แหละที่ยังงงอยู่ ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าแผนเดิมที่หมอนี่ว่าหมายถึงอะไร ผมเพิ่งจะลงสนามเป็นครั้งแรกนะ! “นายรู้เรื่องมั้ยเนี่ย” เหมือนเนวิลล์จะดูออกว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรกับชาวบ้านเค้า พอแยกย้ายกันปุ๊บ เขาก็ถามผมขึ้นทันที “รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ ไปเจอกันตรงนั้นใช่มั้ย ได้ ไม่มีปัญหา” ผมทำเหมือนรู้เรื่องด้วยไม่อยากเสียหน้าให้เขามาสอน เนวิลล์หรี่ตาลง มองผมผ่านกระจกแว่นตากันลมสีใส “แน่ใจนะ” “นายคิดว่าฉันเอาชีวิตรอดจากซอมบี้มาได้เพราะโชคช่วยอย่างเดียวหรือไง” พอถูกถามอย่างไม่เชื่อ ผมก็แสร้งอ้างขึ้นมา เขามองผมนิ่ง ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะปริปากออกมา “ตามฉันไว้ก็แล้วกัน สนามนี้ยังใหม่สำหรับนาย เพิ่งเข้ากองทัพไม่ใช่เหรอนายน่ะ” ผมไม่พูดอะไร ยอมทำตามแต่โดยดี ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่ตายตั้งแต่ลงสนามได้ไม่กี่นาที “เอ้า ทีมต่อไปพร้อมแล้ว ก็แบกก้นใหญ่ ๆ ของพวกนายมาเข้าประจำที่ได้!” เสียงครูฝึกร้องเรียกทันทีที่สนามพร้อมสู่การลงพื้นที่ ทุกคนในทีมต่างแยกออกเป็นหน่วยตามที่แพทริกสั่งการ พอเสียงสัญญาณดังขึ้น ทุกคนก็วิ่งเข้าไปในสนาม แน่นอนว่าผมอยู่รั้งท้ายขบวนของหน่วย วิ่งตามเนวิลล์ที่จ้ำไปไวเป็นจรวดจนขาผมแทบพันกัน แพทริกและแอนนาเบลวิ่งเข้าไปหลบหลังถังใบใหญ่ ขณะที่เนวิลล์หลบอยู่หลังถังขยะอีกฝั่งในด่านแรก ผมเกือบจะวิ่งเลยเขาไปแล้วถ้าเขาไม่คว้าคอเสื้อผมเอาไว้ได้ก่อน “วิ่งทะเล่อทะล่า เดี๋ยวก็ได้ตายเป็นคนแรกหรอก” เขาดุผมเสียงเขียว “ใครว่าวิ่งทะเล่อทะล่า ฉันแค่วิ่งไปดูลาดเลาก็เท่านั้น” ผมสวนคืน สายตาของเนวิลล์บอกชัดเจนว่าไม่เชื่อที่ผมพูดสักนิด “เตรียมพร้อม” จู่ ๆ เนวิลล์ก็พูดขึ้น ก่อนที่ผมจะเห็นแพทริกยกนิ้วโป้งขึ้นเป็นสัญญาณให้จู่โจม เท่านั้น พวกเขาก็โผล่พรวดออกจากที่กำบัง รัวกระสุนลูกบอลสีเขียวสะท้อนแสงใส่เป้าซอมบี้ที่เด้งขึ้นมาอีกฟากอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหลบลูกบอลกระสุนสีแดงที่ยิงกลับมาด้วยเครื่องยิงไปด้วยอย่างคล่องแคล่ว ด่านแรกผ่านไปอย่างง่ายดายเพียงไม่กี่นาที ก่อนที่แอนนาเบลจะส่งสัญญาณว่าพื้นที่เคลียร์ ให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เมื่อเครื่องยิงลูกบอลหยุดทำงานหลังจากเป้าซอมบี้ถูกกำจัดครบเป็นที่เรียบร้อย [1] มาร์กเกอร์ (Marker) หรือตัวทำเครื่องหมาย มักถูกใช้เรียกปืนสำหรับเล่นเกมกีฬาเพนท์บอล (Paintball) [2] เพนท์บอล (Paintball) หรือยุทธกีฬา เป็นเกมกีฬาการไล่ล่าอย่างหนึ่งที่ใช้ลูกบอลสีซึ่งมีลักษณะเป็นลูกบอลเล็กๆ ขนาดประมาณหัวแม่โป้งมือเป็นกระสุน ซึ่งเมื่อยิงออกไปกระทบของแข็ง เจลาตินที่ครอบหมึกไว้ก็จะแตกออก ทำให้สีที่บรรจุอยู่ข้างในกระเด็นออกไปติดตามที่หมาย ส่วนปืนมักจะถูกเรียกว่าตัวทำเครื่องหมาย หรือ Marker จะขับแรงดันกระสุนโดยใช้แรงจากแก๊สคาบอนไดออกไซด์ หรือถังอัดอากาศที่ติดอยู่กับท้ายปืน ซึ่งสามารถปรับแรงหนักเบาได้ เกมกีฬานี้ถือกำเนิดขึ้นที่อเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก นิยมใช้ในการฝึกของเหล่าทหาร ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยอื่นๆ โดยอาจมีการจำลองพื้นที่และสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ในการแข่งขันโดยทั่วไปจะใช้การชิงธงเป็นหลัก หรือกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้หมด หรืออาจนับจำนวนผู้เล่นที่เหลือหลังเวลาหมด หรือภารกิจอื่นๆ ตามแต่จะตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม