หม่าอวิ๋นเซียงจำต้องนั่งร่วมโต๊ะกับอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ นางกินข้าวไปพลางลอบชำเลืองมองเขาไปพลาง ท่าทางยามพลั้งเผลอของเขาช่างเหมือนพี่ชายผู้นั้นของนางมากจริงๆ ใจนางเชื่อไปถึงเจ็ดส่วนแล้วว่าเขากับเสี่ยวเกอเกอเป็นคนคนเดียวกัน จ้าวจื่อเทียนแสร้งทำเป็นไม่เห็นนัยน์ตาหงส์ที่ลอบมองตน ตักน้ำแกงไก่ตุ๋นเกาลัดมากิน เอ่ยชมว่า “ฝีมือการทำอาหารของแม่นางไม่เลวเลย รสชาติดียิ่ง” “ขอบคุณที่ท่านไม่รังเกียจฝีมืออันต่ำต้อยของข้า” นางเอ่ยอย่างถ่อมตน “จะต่ำต้อยได้อย่างไร ข้าว่าคงไม่ง่ายนักกระมังที่แม่นางจะลงมือทำอาหารให้ผู้อื่นกินเช่นนี้” เขาแย้งพลางคีบหมูตุ๋นซีอิ๊วให้นาง ความจริงแล้วการพูดคุยระหว่างกินข้าวเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่ง แต่เขาอยากคุยกับนางมากขึ้นอีกนิด เรื่องมารยาทนั่นช่างมันปะไร ใครจะสน หม่าอวิ๋นเซียงเม้มปากยิ้ม ถูกอย่างที่เขากล่าวมา นอกจากท่านปู่แล้วตนไม่มีความคิดจะทำอาหารให้ใครกินหรอก อา