กลางคืนแสงจันทร์งามเด่น ผิดจากยามกลางวันที่แสงตะวันเจิดจ้าแสบตา ใต้ต้นไม้ ห่างจากกลุ่มผู้คุ้มกัน ซิงเยว่ยืนนิ่งมองภาพในมือเงียบๆ “นี่คือภาพเหมือนของแม่เจ้า พ่อวาดเองกับมือยามที่นางยังมีชีวิตอยู่ พ่อพกพาไว้กับตัวตลอดเวลา” ซ่งเสวียนชิงเอ่ยยิ้มๆ มีแววขมขื่นในดวงตา “พ่อไม่รู้ว่าสิบปีที่ผ่านมาเจ้าต้องเผชิญอะไรมาบ้าง และเหตุใดถึงตกระกำลำบากจนต้องเป็นทาสในเรือนผู้อื่น แต่นับจากนี้พ่อจะชดเชยให้เจ้า กลับไปอยู่จวนของเราเถิด” ซิงเยว่เหม่อมองไร้วาจา นางลูบคลำภาพนั้นแผ่วเบาอย่างต้องการซึมซับบางสิ่ง นางยังจำอะไรมิได้สักอย่าง มีเพียงภาพฝันเลือนราง กับความรู้สึกเจ็บปวดเสมือนจริง ครั้นได้คุยกับซ่งเสวียนชิงใกล้ๆ และได้ดูภาพวาดนี้ถนัดตา ภาพฝันที่แค่เลือนรางกลับเด่นชัดขึ้นทีละน้อย กระนั้นนางยังคงจำสิ่งใดมิได้อยู่ดี ทั้งตัวตนทั้งผู้คนที่ผ่านมาและผ่านไปทั้งหมดในชีวิต ยามนี้เป้าหมายของซิงเยว่ มากกว่าการ