“อืม ส่งหลักฐานได้”
“ดิฉันจะพูดและอธิบายครั้งเดียวหวังว่าทุกคนจะได้รับความกระจ่างและคนเลวต้องได้รับโทษ...1 เราพบหลักฐานสำคัญในปากผู้ตายนั่นคือสร้อยซึ่งเป็นขอทายาทเจริญทรัพย์หรือจำเลย...”
“แต่เราไม่ได้รับหลักฐานชิ้นนั้น” พูดไม่รู้เรื่องหรือไงบอกว่าจะพูดครั้งเดี๋ยว
“นั้นเพราะอะไรฉันว่าถามตำรวจที่รับหลักฐานชิ้นนั้นไปดีกว่านะคะเขาก็อยู่ที่นี่ด้วยพอดี แต่ช่างเถอะขอพูดก่อนแล้วกัน นี่เป็นภาพถ่ายระหว่างทำการชันสูตรค่ะ” ฉันส่งเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ของศาล
“อืม...งั้นเธอจะบอกว่ามีคนทำลายหลักฐานสินะ”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องการตรวจสอบ แต่ที่ฉันมาพูดเพราะจะมายืนยันว่าจำเลยทั้ง 5 คนคือร้ายจริงเพราะสร้อยที่เราเจอเป็นของตระกูลเจริญทรัพทย์จริงเพราะพึ่งนำเสนอข่าวไปไม่กี่อาทิตย์ก่อนและยังพบคราบอสุจิ ถ้าจำเลยทั้ง 5 ยืนยันว่าตัวเองไม่ผิดก็กรุณาตรวจอสุจิด้วยเพื่อหลักฐานอ้างอิงค่ะ ข้อมูลการชันสูตรของจริงอยู่ในนั้นทั้งหมดหวังว่าผู้พิพากษาจะพิจรณาคดีด้วยความเป็นธรรมนะคะ”
“อืม ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล”
“ค่ะ” ฉันเดินออกมานั่งที่เดิมที่จ่าสินยังคงนั่งอยู่ไม่ไปไหน
“หมอทำอะไรของหมอ?” เขากัดฟันถามฉัน
“นี่...ไม่ใช่ครั้งแรกอย่าแสร้งว่ากลัวตอนนี้เลย” พรึ่บ! ฉันลุกขึ้นก่อนเดินออกจากห้องพิจรณาคดีเพราะฉันทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วผลจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับผู้พิพากษาคนนั้นแล้ว
Rrr
“...”
(พบศพแถวถนน R ซอย Y โกดัง 2 ครับ) มันคือเวลาพักผ่อนของฉันนะแต่ว่าหมอนิติเวชมีแค่ไม่กี่คนงานมันเลยล้มมืออย่างงี้ไง
“...”
(หมอตาว...)
“รู้แล้ว”
(ครับ!)
เมื่อวางสายไปแล้วฉันก็มองหาร้านสะดวกซื้อสักหน่อยเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าก่อนเจอศพก็ขอกินอะไรรองท้องหน่อยแล้วกัน
“หมอค่ะ...” เสียงของวิญญาณมาลาลัย
“...” ฉันได้แต่มองนิ่งๆเพราะตอนนี้อยู่กลางแจ้งคนเยอะเดียวคนจะหาว่าฉันเป็นบ้าไปซะก่อน
“ขอบคุณมากนะคะ...แล้วก็ระวังตัวด้วย”
“อืม”
“คนพวกนั้นอันตรายมีอำนาจ”
“แล้วเธอจะขอให้ฉันช่วยทำไมทั้งที่อันตราย?” ช่วยก็คือช่วยจบทำไมต้องยืดเยือ
“เอ่อ ขอโทษ...แล้วก็ขอบคุณระวังตัวด้วยนะ!”หายไปแล้ว...คงรู้ว่าอารมณ์ฉันเริ่มไม่ดีแล้วฉันต้องรีบไปที่เกิดเหตุต่ออีก
“เดี๋ยวนังบ้า!!” พรึ่บ! เพี๊ยะ!
ฉันหันไปตามแรงกระชากก่อนจะโดนตบซะเต็มแรงเริ่มรู้สึกที่กลิ่นเลือดที่คุ้งอยู่ในปาก...อ่า ปากแตกสินะ และคนที่ตบฉันคือแม่ขอให้ไฮโซที่ตอนอยู่ศาลเอาแต่นั่งเชิ่ดชูคอคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น
“...” ฉันมองหน้านิ่งเพราะรู้ว่าอะไรทำให้คุณนายร้อยล้านต้องอารมณ์เสียแบบนี้
...เพราะลูกชายติดคุกไงเนื่องจากฉันยื่นหลักฐานไป
“แกมองหน้าฉันทำไมหะ!อยากตกงานสินะถึงกล้ายื่นหลักฐานแบบนั้น!!”
“คนเลวก็ต้องติดคุก...”
“แต่ลูกชายฉันไม่สมควรไปอยู่ที่ต่ำๆแบบนั้น” เธอกัดฟันพูดอย่างโมโหตัวสั่นเทาไปหมด
“ก็ทำตัวต่ำเองนิ...” ฉันหันหลังเดินออกมาไปที่รถและเดินทางไปที่ผู้ช่วยดิวบอก ฉันว่าอีกไม่นานไอ้ไฮโซนั่นก็คงได้ออกมาแน่ๆ มีหลักฐานแล้วไงมีเงินดิสำคัญกว่า
“อีนังบ้า!!!!!”
ถนน R ซอย Y โกดัง 2
เมื่อฉันมันถึงก็พบรถตำรวจ รถพยาบาล รถหน่วยสืบสวนต่างๆเต็มไปหมดงานใหญ่สินะ เห้อ~ ฉันเดินเข้าไปเพื่อจะไปดูศพว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่...
“คนนอกห้ามเข้า” เจ้าหน้าที่กันฉันเอาไว้
“...” ฉันเลยต้องใส่บัตรประจำตัวและยื่นให้ดู
“อ่อ เชิญครับ”
ฉันเดินเข้ามาตรวจสอบสถานที่พร้อมกับใส่ถุงมือยางไปด้วยมันเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกายฉันไปแล้ว ศพผู้ชายชุดดำที่อยู่เกลื่อนกลาดเต็มพื้นไม่มีบาดแผลคาบขาวที่มุมปาก
กินยาพิษ?
ฉันเข้าไปดมดูใกล้ๆเพราะต้องการรู้ถึงชนิดของยา...
หมับ!!
“ที่นี่ห้ามเด็กเข้า..” แต่ยังไม่ทันถึงศพก็มีคนมาดึงฉันออกเป็นผู้ชายคนสูงท่าทางจะเป็นลูกครึ่ง บัตรคล้องคอเขียนว่า ‘ร้อยตำรวจเอกโซนิค ชาร์ฟ’ ฉันไม่ติดหรอกว่าเขาจะเป็นใคร
แต่ติดนิดเดียว...
“เด็ก?” ถึงฉันจะสูงแค่ 160 ก็เถอะ แต่หาว่าเป็นเด็กมันมากไปไหม?
“ใช่...ออกไปนี่ไม่ใช่ที่เด็กเล่น” เขาบอกนิ่งๆ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ได้พูด
“ฉันไม่ใช่เด็ก...”
“สูงแค่อกฉันยังจะมาเถียง..”
“นั่นหมอตาวเป็นนิติเวชไม่ใช่เด็กผู้กอง” เสียงจากด้านหลังทำให้ฉันหันไปมองเขาคือ ‘สารวัตนินกร’
“อ้าวเหรอ!โทษทีก็เธอตัวเตี้ยไปหน่อย”
“จิ!”
ไอ้บ้า!