บทที่ 3

866 คำ
ชีวิตช่วงนี้มีแต่เรื่องหนักหน่วงเข้ามา โชคดีที่ว่าอย่างน้อยก็ยังมีลาภปากเรื่องของกิน “กุ้งสดมากเลยค่ะ พี่ภามซื้อจากร้านไหนคะเนี่ย” กุ้งเผา เมนูโปรดเมนูเดียวตลอดชีวิตของขวัญ “แถว..” ภามบอกพิกัดร้านอาหารซีฟู้ดที่อยู่แถวคอนโดมิเนียมกีรติ เล่นเอาซะของขวัญกินต่อไม่ลง “อ้าว! ทำไมหยุดกินล่ะ ไหนว่าอร่อยไง” “ก็อร่อย แต่ขวัญขี้เกียจแกะเปลือก” เธอวางกุ้งที่แกะเปลือกออกไปเกินครึ่งตัวลงบนจาน เปลี่ยนจากอาหารทะเลเป็นไวน์ที่อยู่ในแก้วแทน “กินทั้งเปลือกก็ได้ ไม่ต้องแกะ” เฮอะ! แทนที่จะบอกว่าเดี๋ยวพี่แกะให้ แต่อีตาพี่ภามดันบอกให้เธอกินมันเข้าไปทั้งเปลือก ใช่สิ.. เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เขารักนี่ “เป็นอะไร?” ของขวัญเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งกอดอก ใบหน้าจิ้มลิ้มแสดงออกชัดว่าเด็กนี่กำลังงอน “เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” ภามมองเธอแล้วหัวเราะ เขาหยิบกุ้งเผาในจานไปแกะเปลือกออกจนเหลือแต่เนื้อน่ากิน ก่อนจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วเอามาจ่อที่ปากเธอ “อะไรคะ” “กินสิ” “นี่พี่ภามป้อนขวัญเหรอ” ฝันที่เกินฝัน ไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นจริง เธอรีบงับกุ้งตรงหน้าแล้วเคี้ยวทั้งรอยยิ้ม “อร่อยจังเลย ขอบคุณนะคะ” คนตัวเล็กยิ้มแฉ่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลทอประกายคล้ายว่าดีใจเสียเต็มประดา ก็แค่ป้อนกุ้งเองไหม ทำอย่างกับว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งไปได้ “กับแค่เรื่องเล็กน้อย ดีใจเว่อร์อะไรขนาดนั้น” “เล็กน้อยสำหรับพี่ภาม แต่เป็นเรื่องสุดฟินของขวัญนี่คะ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่พี่ภามป้อนขวัญ” ที่ผ่านมาอย่าว่าแต่ป้อนกันเลย ขนาดนั่งร่วมโต๊ะกับเธอ ภามยังไม่อยากจะทำ “ก็เราไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกัน” “ใช่ค่ะ ซึ่งพี่ภามก็เคยบอกขวัญด้วยว่าทำไม” “ทำไมเหรอ” เขานั่งแกะกุ้งไปพลาง นั่งฟังของขวัญพูดไปพลางโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่คิดว่าจะมีอะไร แต่พอของขวัญพูดออกมา สองมือที่กำลังทำหน้าที่ของมันก็พลันชะงักค้าง “พี่ภามเคยบอกขวัญว่าเห็นหน้าขวัญแล้วกระเดือกข้าวไม่ลง” อดีตเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เขาจะกลับไปแก้ไขได้ที่ไหนกัน มีเพียงปัจจุบันเท่านั้นที่ทำได้ จริงอยู่ที่แต่ก่อนเขาเคยร้ายใส่ของขวัญ และแน่นอนว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าไม่ใช่หรือยังไง อย่างน้อยเขาก็ยอมให้เด็กนี่ในบางเรื่องอย่างที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำ “ปีนี้ขวัญอายุเท่าไหร่แล้วนะ” เขามองภาพสะท้อนภรรยาในกระจกเงา เธอนั่งหวีผมเหมือนอย่างที่ชอบทำอยู่ทุกวัน เป็นภาพที่เห็นจนชินตาและอาจซึมซับเข้าไปในหัวใจ จนน่ากลัวว่าจะทำใจไม่ได้หากวันหนึ่งวันใดไม่มีผู้หญิงที่ชื่อของขวัญนั่งอยู่ตรงนี้ “ยี่สิบห้าค่ะ” ทั้งที่ของขวัญอายุยี่สิบห้าแล้วแท้ๆ ทว่าพอไม่มีเครื่องสำอางบนใบหน้า เธอกลับไม่ต่างจากเด็กมัธยมปลาย สดใสเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอกัน ซึ่งจะว่าดีก็ดี แต่สำหรับเขาที่ชอบผู้หญิงอายุไม่ห่างกันนัก ด้วยคิดว่าคุยกันรู้เรื่องมากกว่า นิ่งกว่า และมีความเป็นผู้ใหญ่สมวัย จึงรำคาญของขวัญในบางครั้งที่เธอทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต กระนั้นในข้อเสียก็พอมีข้อดีอยู่บ้าง บ้านที่เคยเงียบเหงา พอของขวัญย้ายเข้ามาอยู่ ที่นี่ก็มีชีวิตชีวาต่างไปจากเดิมราวฟ้ากับเหว อาจรำคาญหูไปบ้าง แต่สำหรับเขามันดีกว่าการที่ต้องอยู่คนเดียว “อยู่ด้วยกันมาตั้งสามปีแล้วเนอะ ตั้งแต่ขวัญเรียนจบมหา’ ลัย จะว่าไปเวลาก็ผ่านไปเร็วดีเหมือนกัน พี่ยังคิดว่าเราพึ่งแต่งงานกันอยู่เลย” “แต่คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่พึ่งแต่งงานกันต้องหวานหยดติ๋งๆ นะคะพี่ภาม” ซึ่งคู่เธอกับภามห่างไกลคำว่าหวานไปมาก “แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ อีกไม่นานเราจะหย่ากันแล้วนี่นา ผัวเมียที่กำลังจะเป็นคนอื่นก็แบบนี้แหละ จะให้หวานกันได้ยังไง” “ยังไม่เลิกคิดเรื่องหย่าอีกเหรอ” เขามองหน้าภรรยาผ่านกระจก เธอไม่ได้ดูเศร้าหรือเสียใจสักนิด มิหนำซ้ำยังยิ้มกว้างอีกต่างหาก ต่างจากเขาที่ฝืนยิ้มไม่ออก “ขวัญเคยบอกว่ารักพี่มาก” “แต่พี่ภามไม่เคยรักขวัญ ขวัญจะบอกอะไรให้นะพี่ภาม การที่เรารักใครสักคนข้างเดียวไม่สนุกหรอก ที่สำคัญขวัญอยากเห็นพี่มีความสุข ในเมื่อความสุขพี่ไม่ใช่ขวัญ” แต่เป็นผู้หญิงอีกคน “ขวัญก็ควรต้องปล่อยพี่ไป”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม