เช้าวันต่อมา
กัญญดาที่กำลังเข้าเรียนได้รับข้อความมากมายจากคุณภาม แม้แต่โปรไฟล์ก็ยังกร้าวใจสุดๆ
มีการแนะนำชื่อคุณหมอ ชื่อโรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายเบื้องต้นมาเสร็จสรรพ
มันดีนะที่ได้มีทางลัด คนแบบเธอไม่เคยได้ทางลัด ไม่เคยมีคนช่วย ทุกอย่างในชีวิตล้วนเกิดจากการช่วยเหลือตนเอง วันนี้พอได้มาก็ทั้งดีใจและระแวงไปพร้อมๆ กัน
“ใครอะ...แฟนเหรอ...” เมขลาชะเง้อมองภาพโปรไฟล์ผู้ชายที่เพื่อนกำลังกดดู
“ไม่ใช่...” เธอปิดหน้าจอ ไม่คิดว่าใครจะมาเห็นตอนเธอกำลังส่องรูปเขา
“หล่อดีนะ แด๊ดดี้มากมาย...ถ้าเป็นแฟนก็บอกเลยว่าต้องตามคุมนะ ไม่งั้นคนหล่อๆ แบบนี้หลุดมือสาวน้อยแบบพวกเราแน่ๆ” เมขลาหัวเราะคิกคัก เธอเองก็มีแด๊ดดี้ของตัวเองเหมือนกัน
“ก็กัญบอกว่าไม่ใช่ไง”
“งั้นเขาก็มาจีบใช่ไหม”
“ก็...นิดนึงมั้ง” เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาแค่หยอกๆ ไปเป็นเด็กป๋าหรือเปล่า
“แต่พิจารณาดูก็ดีนะ หล่อเชียว” เมขลาแย่งโทรศัพท์เพื่อนมาขยายรูปดู “หล่อจริงๆ ด้วย”
“แล้วเขาจะไม่มาหลอกพวกเราเหรอ”
“ก็คิดซะว่าคบๆ กันฆ่าเวลาสิ สมัยนี้แล้ว...ไม่มีใครแต่งงานกับผู้ชายคนแรกหรอกจริงไหม” มือเล็กส่งโทรศัพท์คืนเพื่อน ไม่อยากจะเชื่อว่ากัญญดาจะทำตัวเป็นแม่แก่ทั้งที่ก็ทำงานกลางคืน
“แต่เราไม่ใช่แนวนั้น”
“ค่ะ แม่พลอยแห่งยุค แต่เราจะบอกอะไรให้นะ ผู้ชายน่ะยิ่งแก่ยิ่งแซ่บเรื่องบนเตียง ครางกันครึ่งค่อนคืน ถึงจนน้ำเปียกเตียง...หนุ่มๆ น่ะไม่ได้เรื่อง สู้ไม่ได้สักราย”
แค่ได้ยินก็ถึงกับแก้มร้อนผ่าว ไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนๆ จะไปไกลถึงดาวพลูโตแล้ว แต่เธอแค่ในโลกยังเดินไปได้แค่รอบๆ บ้านกับมหาวิทยาลัยเท่านั้น
วันต่อมา
กัญญดาก็พาพ่อไปพบแพทย์ตามที่ได้นัดหมาย พอไปใช้เงินตัวเองแทนการใช้สิทธิ์ เธอถึงเพิ่งจะรู้ว่าแม้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลที่นั่งรอเป็นวันๆ ก็ยังต้องจ่ายหลายพันอยู่ดี
ก็มะเร็งไม่ใช่หวัดนี่เนอะ กดจนเงินในธนาคารเหลือแค่หลักร้อย นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปต่อยังไง
เธอมาทำงานด้วยความเหม่อลอย พอชะเง้อมองหาก็พบว่าเขาไม่ได้มาสอง-สามวันแล้วเห็นจะได้
จริงๆ เธอจำได้แม่นยำแหละว่าเขาหายไปสามวันแล้ว แต่ก็แค่ไม่กล้ายอมรับว่ามองหาเขาทุกวัน นับตั้งแต่วันที่เขาหายไป
แล้วจังหวะที่กำลังชงเหล้าให้ลูกค้า ก็รู้สึกว่ามีคนกำลังจ้อง พอหันไปก็เป็นเขาที่ชูแก้วให้
เขามาแล้ว แล้วใจเธอก็เต้นแรงเพียงแค่คิดว่าวันนี้เขาจะเรียกเธอไปไหม แล้วก็จริงดั่งคาด เขาเรียกเธอเข้าไป
“เป็นไงบ้าง หมอที่ผมแนะนำ”
“ดีค่ะ คุณหมอท่าทางจะเก่ง...” ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้มือสั่น
“ถ้าหนูติดขัดเรื่องอะไร ก็ปรึกษาผมได้”
เธอมองคนที่ละเลียดเหล้า ตอนนี้นึกออกแค่อย่างเดียวคือนึกสงสัยว่าทำไมเขาหายไปตั้งหลายวัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าถาม
“อ๋อ...ขอบคุณค่ะคุณภาม” เป็นอีกครั้งที่เธอกระพุ่มมือไหว้
“วันนี้ผมคงต้องกลับก่อน”
กัญญดาเหวอไปเลย ไม่คิดว่าเขาจะมาแค่กินเหล้าแก้วเดียว อยากถามอีกแล้วว่าทำไมเขารีบกลับ ไม่นั่งเอ้อระเหยจนถึงร้านเกือบปิดอย่างที่แล้วๆ มา แต่เธอเป็นแค่เด็กชงเหล้าคงไม่กล้าไปละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของลูกค้า
“อันนี้ผมทิปให้หนูนะ” เขาขยับมายัดแบงก์พันลงไปในมือเล็ก จริงๆ ช่วงนี้เขากำลังทดลองอะไรบางอย่าง และก็ยังลุ้นๆ นะว่ามันจะได้ผลไหม
“คุณจะกลับแล้วเหรอคะ”
“ใช่...จริงๆ ว่าจะไม่มาเลย แต่ก็เป็นห่วง อยากมาถามหนู...ถ้าไลน์ไปก็กลัวหนูจะหาว่าผมจีบ”
เสียงห้าวที่กระซิบมาที่ซอกหู มันช่างเซ็กซี่อย่างเหลือร้าย แล้วยังกลิ่นกายบุรุษเพศที่ชัดเจนนี่ มันเกินจะต้านทาน อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างไม่รักดี
“พรุ่งนี้คุณจะมาไหมคะ” ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะหลุดปากถามออกไปตรงๆ
คำถามที่ไม่ได้ผ่านสมองกลั่นกรอง
“ถ้าหนูอยากให้มา ผมก็คงจะมานะ”
“แต่คุณติดธุระ...เหรอคะ” เป็นอีกครั้งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะถาม
“หนูอยากให้มา ก็ไลน์มา แต่ถ้าหนูเงียบ...ผมก็คงไม่มาพรุ่งนี้” เขาจงใจพูดประโยคกำกวม เขาจีบเธอมาได้สักพัก เธออาจจะไม่รู้ตัว แต่นับจากนี้เขาจะรุกให้แรงขึ้น ทำให้เธอสะท้านกับความดันทุรังของคนแบบเขา
เสน่ห์ที่สาวน้อยไม่มีทางจะต้านทาน และด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า เขามั่นใจว่าจะต้องกำชัยในไม่ช้า
เธอเป็นม้าสาวที่ปราดเปรียวและรักอิสระ ส่วนเขาก็เป็นพรานหนุ่มที่พร้อมจะเอาม้าสาวมาปราบพยศ มาฝึกให้เชื่อง