“ขอโทษนะครับ ที่ให้รอนาน”
ทางด้านเพชรภีมที่พึ่งกลับมาถึงคลินิก เขาก็เดินเข้าไปหาสาวสวย เป้าหมายคนใหม่พร้อมกับกระดาษในมืออีกตามเคย เขาให้เธอกรอกทุกอย่างจนเสร็จแล้วก็จัดการสำเร็จรักเธอบนเตียง จนหญิงสาวแทบหมดเรี่ยวหมดแรง
คุณหมอหนุ่มที่ดึงรูดเครื่องป้องกันทิ้งแล้วเอาอันใหม่มาสวม ก่อนจะหยุดยืนมองผลคะแนนของผู้หญิงคนนี้
“ 5 เหรอ? ถือว่าไม่เลวเท่าไหร่”
เขาพูดขึ้นเมื่อเธอได้คะแนนเกือบสูงที่สุดเท่าที่เขาเคยทดสอบมาเลยก็ว่าได้ คุณหมอหนุ่มใช้มือกำรูดลำเอ็นที่พึ่งหดตัวไปเพราะปลดปล่อยออกมาแล้วรอบนึงอีกครั้ง และเพียงไม่กี่นาทีมันก็ผงาดสู้ขึ้นมาอีก
“อื้อออ คุณหมอคะ? ขอมุกมาหาอีกได้ไหม?...”
ร่างบางที่นอนอ่อนระทวยอยู่บนเตียงคนไข้ของเขาถามขึ้น เมื่อเธอชอบในบทรักอันเร่าร้อนและยาวนานของเขาเหลือเกิน เพียงแค่เขาชายตามองเธอก็แทบแดดิ้นรีบปีนขึ้นมาบนกองไฟที่เขาสุมขึ้น
“ได้สิ...พรุ่งนี้ ที่นี่เวลาเดิม...”
เพชรภีมบอกขึ้นเมื่อเขายังต้องการเธออยู่ ถ้าเธอยังทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นในเกมรักแบบนี้ได้ เธอก็จะยังคงได้อยู่บนเตียงนี้ต่อไป
“ซี๊ดดดดดด อ๊าาาาา เข้ามาสิคะ อ๊ะ! ซี๊ดดด!” เสียงสูดปากดังขึ้นเมื่อเขากำลังจ่อความใหญ่โตถูไถไปที่ร่องรักสาวของเธออีกครั้ง
สวบ!!! ปึก!
“อ๊าาาา อื้อ...”
เพชรภีมที่เห็นว่าเธอเริ่มดิ้นรนอยากให้เขาสอดใส่ และเขาก็ไม่ให้เธอได้รอนานดุนดันลำเอ็นใหญ่เข้าไปในร่องสาวทันทีจนชนเข้ากับท้องน้อยของเธอ
ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!
จากนั้นเขาก็ไม่ลีลาอีกต่อไป จับสองขาเรียวอ้ากว้างแล้วกดกระแทกรัวเร็วและหนักหน่วงเมื่อร่องรักสาวกำลังบีบรัดเอ็นร้อนของเขา ยิ่งแน่นเขายิ่งเพิ่มแรงกระแทกจนเตียงคนไข้เกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นไม่หยุด ทุกอย่างที่วางไว้รอบข้างหล่นกระจายเต็มพื้นแต่เขาไม่สนใจที่จะหยุด เมื่อนานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้สนุกและสุขสมอย่างนี้
เอี๊ยด! อ๊าด! เอี๊ยด! อ๊าด! เอี๊ยด! อ๊าด!
เขาจับเธอพลิกนอนคว่ำแล้วกระหน่ำรักจนเธอหมดเรี่ยวแรงสติที่มีหายไปทันทีที่ได้ปลดปล่อยออกมาครั้งสุดท้าย ส่วนคุณหมอหนุ่มเองก็ตามเธอมาติดๆ
“อ๊าก!! อ๊าาาา อู้วววว”
เขาครางออกมาเมื่อเสร็จสมไปอีกรอบก่อนจะกวาดตามองห้องที่ของตกรกเต็มพื้น แล้วค่อยๆดึงลำกายใหญ่ออกมาจากร่องของเธอ
บ๊อก!
เพชรภีมเดินเข้าไปทำความสะอาดร่างกาย ก่อนจะกลับออกมาเก็บของพวกที่หล่นลงพื้นกลับขึ้นมาไว้ที่เดิม เขาเดินไปหยิบกระดาษที่เขาให้เธอทำก่อนขึ้นเตียงมาดูอีกครั้ง
“ใครกันที่จะได้คะแนนเต็ม...”
เขาอดคิดขึ้นมาไม่ได้ เมื่อนี่เป็นคะแนนที่บ่งบอกว่าผู้หญิงจะสามารถทำให้เขามีความสุขกับเซ็กได้มากขนาดไหน เต็ม 10 แทบไม่เคยมีใครได้เต็มเลยสักครั้ง เพราะถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นได้คะแนนเต็มจากแบบประเมินนี้ที่เขาเป็นคนคิดค้นและวิจัยขึ้นมาละก็ แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคนที่มีบทรักอันยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน และเธอจะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาต้องการ
“เดี๋ยวนี้มาบ่อยนะ มีอะไรดีๆรึเปล่า บอกหน่อยสิวะ”
หมอวีระที่เดินมาเจอเพชรภีมเข้าพอดีอดถามขึ้นไม่ได้ เพราะตั้งแต่ที่มีหัวหน้าแผนกศัลยกรรมคนใหม่เข้ามา คุณหมอเพชรภีมก็เข้าโรงพยาบาลแทบทุกวัน จนคนที่นี่อดแซวกันไม่ได้
“พูดมาก รู้แล้วยังจะมาถามอีก เห็นหมอตะวันไหม?”
“ฮั่นแน่...โน่นนนน อยู่ที่แผนกโน่น เฮ้อ หล่อไม่พอเขาเลยไม่เลือก เซ็ง ไปล่ะ”
พอรู้ว่าคุณหมอสาวอยู่ไหน เพชรภีมก็เดินตรงดิ่งไปหาเธอทันที เมื่อนี่ก็ร่วมสองอาทิตย์แล้วที่เขาเทียวไปเทียวมาระหว่างที่โรงพยาบาลกับคลินิก จนใครๆต่างก็รู้ว่าเขากำลังตามจีบคุณหมอตะวันอยู่ และก็เหมือนเธอจะยอมเล่นด้วย เพราะไม่เคยปฏิเสธการชวนของเขาเลยสักครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วย
“พร้อมรึยังครับ ผมมีร้านอาหารอร่อยมาแนะนำ”
“ค่ะ ไปเลยก็ได้”
เขาเดินเข้าไปหาเธอแล้วบอกขึ้น ก่อนจะพากันเดินออกไปที่รถ เมื่อเพชรภีมอาสาพาไปทานข้าวเที่ยงทุกวันจนเป็นเรื่องชินตาของคนที่พบเห็น
“ทำไมคนนี้ควงนานจัง ไม่เห็นเหมือนเธอเลย” หมอสาวคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองคุณหมอนารินทร์ อดีตคู่นอนคืนเดียวของเพชรภีม
“คงจะกล้าทิ้งอยู่หรอก! นั่นลูกเจ้าของโรงพยาบาลนะยะ!”
“เอ่อ ลืมคิดไป”
สองสาวได้แต่มองตามอย่างนึกอิจฉา เพราะปกติแล้วเพชรภีมไม่เคยควงหรือสนใจใครเกินสามวัน แต่นี่เขาเทียวไล้เทียวขื่อคุณหมอตะวันร่วมสองอาทิตย์แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะเขี่ยทิ้งเลยทำให้อดตั้งคำถามกันไม่ได้
ส่วนพอลรภี เขาไม่ได้คิดเล่นๆกับตะวันเลยไม่คิดจะเร่งรัดหรือรวบหัวรวบหางเธอ เพราะถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาแล้วทำให้เธอตีตัวออกห่างหรือพอได้เธอแล้วเขาอาจจะหมดความตื่นเต้นเหมือนผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยผ่านมา มันอาจเสียหายหรือเดือดร้อนไปถึงครอบครัวเขาก็เป็นได้ เขาเลยค่อยเป็นค่อยไปกับเธอ แต่ก็ไม่เคยคิดงดเว้นที่จะลากสาวๆคนอื่นขึ้นเตียงอยู่ดี
“ฝัน ตกลงแกจะไปฝึกงานที่ไหน? ได้ที่ฝึกแล้วรึยัง?”
“ฉันเหรอ? ยังไม่รู้เลย แต่เล็งไว้ที่นึงน่ะ ไม่รู้จะได้รึเปล่า?”
“ที่ไหนเหรอ?”
“ยังไม่บอก ให้ได้ก่อนแล้วฉันจะบอก”
“ย่ะ! แน่ใจนะไม่ไปกับฉัน หรือจะฝึกต่อที่นี่ก็ยังได้ พ่อแก...”
“หยุดเลย! ฉันไม่ฝึกที่นี่หรอก”
“อือๆๆๆ ลืมไป”
ตามฝันที่หมายมั่นปั้นมือเอาไว้แล้วว่าเธอจะขอไปฝึกงานกับเพชรภีม เมื่อเขาเป็นคุณหมอที่มีชื่อเสียงมากด้านการรักษาเกี่ยวกับจิตเวชถึงแม้เขาจะมีเชื่อเสียบางเรื่องก็ตามที แต่ถ้าให้เทียบกับความสามารถที่เขามี ทุกอย่างเขากินขาด เธอเลยเลือกที่จะไปเรียนรู้งานกับเขา และอีกอย่างที่ทำให้เธอคิดว่าเขาจะรับเธอเข้าฝึกงานเพราะเธอรู้มาว่าเขาชอบพี่สาวของเธอ เธอจะให้พี่สาวของเธอฝากงานให้ รับรองได้ฝึกงานกับเขาแน่
“ครับ? เอ่อ คลินิกของผมไม่ได้เปิดรับเด็กฝึกงาน...”
“นะคะ แค่คนเดียว...เด็กคนนี้เรียนเก่งมากแถมขยันอีก ลองปั้นดูสักคนนะคะหมอภีม”
และก็เป็นไปตามแผนของตามฝันเมื่อแค่เธอขอร้องพี่สาว หมอตะวันก็มาขอร้องเพชรภีมต่อทันทีเช่นกัน ทำเอาคุณหมอหนุ่มแทบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเขาไม่คิดจะเปิดรับเด็กฝึกงานไร้ประสบการณ์มาก่อน
“เอ่อ คะ...ครับ...ผมเห็นแก่คุณหมอตะวันผมรับไว้ก็ได้ แต่แค่คนเดียวนะครับ”
“ขอบคุณมากเลยค่ะคุณหมอภีม แล้วตะวันจะเลี้ยงอาหารอร่อยๆคืนนะคะ”
พอเห็นท่าทียิ้มกว้างของเธอ เพชรภีมก็ใจอ่อนทันทีเช่นกัน เขารับเด็กฝึกงานไปคงไม่เสียหาย เดี๋ยวให้พยาบาลสอนงานเอาก็ได้ เพราะถ้าจะให้เขาสอนคงยาก แค่เวลาจะกินข้าวเขายังแทบไม่มี คงสอนงานให้ไม่ได้
“เย้ๆๆๆๆ ขอบคุณนะคะพี่ซัน จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ!”
เสียงโห่ร้องอันดีใจดังลั่นบ้าน เมื่อพี่สาวเอาข่าวดีมาบอก ตามฝันกระโดดโลดเต้นไปมาเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจ ก่อนจะวิ่งมาหอมแก้มซ้ายขวาของพี่สาว ที่ยิ้มกว้างมองน้องสาวของเธออย่างมีความสุขไปตามๆกัน
“อะไรกันสองพี่น้อง เสียงดังไปจนถึงนอกบ้าน”
“คุณแม่! กลับมาแล้วเหรอคะ ก็พี่ซันน่ะสิคะ หาที่ฝึกงานให้ฝันได้แล้ว เย้ๆๆๆ”
“ตามใจน้องอีกแล้วสิท่า ดูซิ เสียคนหมด โรงพยาบาลของเราออกใหญ่โต ยังอยากไปฝึกที่คลินิกเล็กๆอีก”
“โธ่ คุณแม่คะ ฝันต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์นี่คะ แล้วคุณหมอเก่งๆจริงๆก็หายาก ถ้าได้เรียนกับหมอคนนี้นะคะ รับรองอนาคตของฝันสดในแน่ๆเลยค่ะ”
“จ้า แม่นักช่างฝัน ไม่น่าตั้งชื่อให้ว่าฝันเลยจริงๆ”
คุณรันนา มารดาของตะวันและตามฝันพูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจเมื่อลูกสาวทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
หนึ่งเดือนต่อมา ตามฝันก็ได้รายงานตัวเข้าไปฝึกงานที่คลินิกของเพชรภีมอย่างที่เธอตั้งใจเอาไว้ เธอเข้าไปเรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แต่ทุกอย่างที่ว่ากลับมาจากนางพยาบาลสองคนที่คอยช่วยงานในคลินิกไม่ใช่จากเพชรภีมโดยตรงเลยสักครั้ง
“หมอฝันคะ พี่ว่ากลับบ้านได้แล้วล่ะคะ เดี๋ยวคนไข้พิเศษของคุณหมอภีมจะมาแล้ว”
“อ้อ ค่ะ...”
และนี่ก็อีกอย่างที่เธออดตั้งคำถามไม่ได้ เมื่อเขามีคนไข้พิเศษตอนเย็นทุกวันแต่เธอกลับไม่เคยได้อยู่เพื่อเรียนรู้กับเขาเลย
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะฝัน...หรือว่าฝึกงานหนักไป?”
หลังจากที่เลิกงาน ตามฝันก็นัดเพื่อนมาเจอกันเพื่อระบายความในใจ เมื่อเพื่อนของเธอแต่ละคนก็มีแต่อวดเรื่องที่ทำงานว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เห็นจะมีแค่เธอที่แทบไม่มีอะไรจะอวดทั้งๆที่ตอนเธอบอกว่าได้ฝึกงานกับเขามีแต่คนอิจฉาแท้ๆ
“หนักก็ดีสิ...ฉันแทบไม่ได้ทำอะไร ต้อนรับลูกค้า ทำเอกสารแล้วก็กลับบ้าน...เบื่อจะตายอยู่แล้ว” ตามฝันพูดออกมาตามความจริง
“เหรอ? เห็นว่าคลินิกนั้นดังจะตายนี่...หรือว่าเพราะแกพึ่งเริ่มฝึก เขาเลยไม่ให้เข้าห้องตรวจด้วย?”
“ฉันมีเวลาฝึกแค่ปีเดียว...ไม่ฝึกตอนนี้จะให้ไปฝึกตอนไหนล่ะ งั้นฉันไปนะ ขอบใจแกมากที่มาฟังฉันบ่น”
พอบ่นจนพอใจแล้ว ตามฝันก็เลยขอตัวกลับ เพราะต้องเตรียมตัวทำงานในวันพรุ่งนี้ เธออยากบ่นเรื่องนี้ให้พี่สาวของเธอฟังแต่เธอกลัวว่าพี่สาวจะเสียใจเพราะอุตส่าฝากงานให้เลยไม่กล้าพูดให้ฟัง