วันต่อมา…
@งานเดินแบบการกุศล
“ตื่นเต้นเหรอ” เสียงผ้าแพรเอ่ยถามรุ่นน้องคนสนิทที่ยืนเม้มปากแน่นอยู่คนเดียวขณะที่กำลังรอเปลี่ยนชุด
“ค่ะ” ลลินจึงหันตอบกลับตามความจริงทันที ทำเอาผ้าแพรที่ได้ยินหัวเราะออกมากับท่าทางชวนเอ็นดูของคนตัวเล็ก
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ก็แค่เดิน ๆ ไป”
“แต่ถ้าลินล้มขึ้นมา”
“ยิ่งประหม่า มันก็จะยิ่งทำให้เกิดขึ้นได้นะ พยายามนับลมหายใจตัวเอง แล้วจะดีขึ้น” คนดูแลงานเอ่ยแนะนำ ซึ่งลลินที่ได้ยินก็ไม่รอช้าที่จะทำตามที่รุ่นพี่คนสนิทบอก โดยหลังจากที่อาการประหม่าเริ่มดีขึ้น
“ฟู่ววว! ช่วยได้เยอะจริง ๆ ด้วยค่ะพี่แพร ลินต้องเก็บความรู้นี้ไว้แล้ว เวลาประหม่าต้องนับลมหายใจ…”
“ฮ่า ๆ เอาเลย เก็บไว้ใช้ได้เลย” ผ้าแพรหัวเราะบอก ก่อนจะปลีกตัวออกไปจัดการดูแลความพร้อมต่าง ๆ ภายในงานต่อ ส่วนลลินก็ถึงคิวที่จะต้องเปลี่ยนชุดพอดี โดยในขณะที่ร่างเล็กกำลังเปลี่ยนชุดอยู่
“อุ๊ยน้ำหวาน ทำไมชุดเธอ…” เสียงใครบางคนพูดคุยกันอยู่บริเวณด้านนอก ลลินที่จำได้เหมือนว่าจะเป็นเสียงของไฮโซสาวคนหนึ่งกับน้ำหวานรุ่นพี่ที่เธอรู้จักก็ไม่ได้อะไรยังคงสวมใส่ชุดที่ถูกจัดเตรียมไว้ตามปกติ
“สวยใช่ไหมล่ะ”
“เก๋ เด่นมาก…”
“แน่นอนสิ ฉันให้ดีไซเนอร์ชื่อดังช่วยแก้ให้เลยนะ”
“จริงเหรอ”
“อืม หมดไปเกือบสองแสน” น้ำหวานยิ้มเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจในชุดของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะเธอทุ่มสุดตัวที่จะแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่เดินด้วยกัน โดยทีมงานหลายคนที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเดินเข้าไปให้ความสนใจกับไฮโซคนดังที่นำชุดไปปรับแต่งเพิ่มเติมจนสวยโดดเด่นกว่าทุกคน
“คุณน้ำหวานนี่สุดยอดมาก ๆ เลยนะคะ” ทีมงานคนหนึ่งเอ่ยชมเชย ขณะที่ไฮโซสาวอีกคนเอ่ยถาม
“นำชุดไปแก้ได้ด้วยเหรอคะ”
“ใช่ค่ะคุณมิลล์ คุณผ้าแพรบอกว่า สามารถนำไปแก้ไขได้ค่ะ แต่ต้องแก้ไขให้ทันวันงานจริง” น้ำหวานยิ้มตอบ
“อ๋อ แบบนั้นเองสินะคะ มิลล์ไม่รู้ว่าสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้” หญิงสาวตอบกลับอย่างนึกเสียดาย ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไป ขณะที่น้ำหวานนั้นยังคงยิ้มก้มลงมองยังชุดที่จะต้องสวมใส่เดินในวันนี้ด้วยสีหน้าพึงพอใจมาก ๆ ที่กำลังจะเป็นจุดเด่นของทุกคนอย่างไม่รู้เลยว่า…มีใครอีกคนนั่งอยู่นั้นปรายตามองยังท่าทีพวกนั้นอยู่นิ่ง
กระทั่งหลายนาทีผ่านไป
“เปลี่ยนชุดกันครบหรือยังคะ” เสียงผ้าแพรเดินเข้ามาถาม ทีมงานที่ยืนคอยดูแลคิวห้องเปลี่ยนชุดจึงเอ่ย
“เปลี่ยนไปได้เกินครึ่งแล้วค่ะ แต่ว่า…”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“คุณลลินยังไม่ออกมาเลยค่ะ”
“จริงเหรอ เข้าไปนานหรือยัง”
“หลายนาทีแล้วนะคะ”
“แล้วได้เรียกน้องไหม”
“เอ่อ…” ทีมงานสาวส่ายหน้าช้า ๆ อย่างไม่กล้าพอที่จะเคาะเรียกลูกสาวนักการเมืองทรงอิทธิพล ผ้าแพรที่เห็นแบบนั้นจึงเดินเข้าไปยังห้องริม
ก๊อก ๆ
“ลลิน เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงหวานถามรุ่นน้องคนสนิทน้ำเสียงห่วงใย
“ค…คะ?”
“เป็นอะไรไหม เห็นทีมงานบอกว่าเข้าไปสักพักแล้ว”
“เอ่อคือ…”
“มีอะไร เปิดประตูที” ผ้าแพรที่ได้ยินน้ำเสียงอึกอักจากด้านในห้องอดไม่ได้ที่จะสอบถามน้ำเสียงห่วงใย ร่างเล็กที่อยู่ภายในจึงจำต้องค่อย ๆ เปิดประตูเดินออกมา
“พี่แพร…” เจ้าของใบหน้าเรียวใสโผล่ออกมาแต่ใบหน้า
“มีอะไร?”
“คือว่า…ลินว่าหน้าอกมัน…”
“มันทำไม เดินออกมาสิ จะได้รู้” สิ้นเสียงผ้าแพรเอ่ย ลลินก็ตัดสินใจเดินออกจากห้องเปลี่ยนชุดไป เผยให้เห็นร่างเล็กในชุดเดรสน่ารักปนเซ็กซี่ที่ชวนมองอยู่ไม่น้อย
“มันมีอะไร ก็ดูปกติ…”
“…อ้อ หน้าอกรัดไปใช่ไหม” ผ้าแพรถามหลังจากที่เห็นเนินอกขาวเนียนของน้องคนสนิทที่แทบทะลักออกมาจากการรัดแน่นของชุด ซึ่งไม่เพียงแค่ผ้าแพรที่รู้สึกตกใจ เพราะหญิงสาวหลายคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็ต่างจ้องมองยังหุ่นซ่อนรูปของคนตัวเล็กที่ไม่เคยสวมใส่ชุดเปิดอกหรือรัดรูปแบบนี้มาก่อน
“ทำยังไงดีคะ ลินว่ามันโป๊ไป…” เจ้าของใบหน้าเรียวใสมองหน้าถามรุ่นพี่สาว ขณะที่หนึ่งในไฮโซสาวที่เห็นกลับเอ่ย
“แบบนี้กำลังสวยต่างหากล่ะคะน้องลิน เนี่ย กำลังน่ามองเลย” ยิ่งได้ยินแบบนั้น คนตัวเล็กรีบหันไปมองยังผ้าแพรแววตาอ้อนวอน
“อืม เดี๋ยวหาผ้ามาคลุมให้” ผ้าแพรจำต้องบอกพร้อมกับพาร่างเล็กของรุ่นน้องเดินออกไปพลางถาม
“แล้วชุดตรงหน้าอกมันแน่นไปไหม”
“ก็…นิดหนึ่งค่ะ”
“หายใจสะดวกหรือเปล่า เดี๋ยวปลดตะขอลงอีกหน่อย ตอนแรกไม่ได้วัดซะด้วย ไม่คิดว่าจะซ่อนรูปขนาดนี้” ผ้าแพรอดไม่ได้ที่จะเอ่ยและจ้องมองไปยังเนินอกขาวเนียนขนาดคัปซีของรุ่นน้องตัวเล็ก
“พี่แพร อย่ามองสิคะ”
“เขินอะไรเนี่ย”
“ไม่เอา ลินไม่อยากให้มอง” คนตัวเล็กที่เขินอายรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอกใหญ่ซ่อนรูปเกินตัวของตัวเอง
“หึ เมื่อก่อนก็อาบน้ำด้วยกันออกบ่อย”
“แต่ตอนนั้นเราห้าหกขวบกันนะคะพี่แพร ลินแค่สองสามขวบเองด้วย”
“ฮ่า ๆ” เสียงผ้าแพรหัวเราะเอ่ยออกมาก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปหยิบผ้าคลุมที่เตรียมไว้สำหรับกรณีพิเศษยื่นให้กับรุ่นน้องคนสนิท ทว่าขณะที่สองคนกำลังยืนพูดคุยกันตามประสา
“คุณแพรคะ คุณแพร…” ทีมงานคนหนึ่งสาวเท้าวิ่งเข้ามาเอ่ยเรียกร่างสวย ทำให้ผ้าแพรหันไปมองสีหน้างุนงง รวมถึงลลิน
“…เกิดเรื่องแล้วค่ะ”
“มีอะไร”
“คือว่า…คุณแพรรีบไปดูเถอะนะคะ เหมือนว่าคุณเทียริน่ากับคุณน้ำหวานจะมีปัญหากัน” สิ้นเสียงทีมงานบอก สองคนที่ได้ยินก็รีบพากันเดินตรงกลับไปยังห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ทันที ก่อนจะได้ยินเสียงเทียริน่าเอ่ยถามน้ำหวานที่นั่งอยู่พร้อมกับโยนชุดของเธอที่ขาดวิ่นลงตรงหน้าหญิงสาว
“ฝีมือเธอใช่ไหม?”
“อะไรของเธอ!” น้ำหวานรีบเงยหน้าถามคนที่เข้ามาใหม่ทันที
“เธอเป็นคนตัดชุดฉันใช่ไหม” เทียริน่าถาม ขณะที่น้ำหวานลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคนที่มากล่าวหาตัวเอง
“ฉันไม่ได้ทำ! มีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาฉัน”
“ก็ฉันเห็นเธอเดินออกมาจากตรงที่ชุดฉันแขวนอยู่” ทันทีที่เทียริน่าพูดจบ หลายคนที่ได้ยินก็ต่างจ้องมองยังไฮโซสาวด้วยความเชื่อในสิ่งที่เทียริน่าบอก
“ฉันไม่ได้ทำ! ฉันยังไม่ได้เดินเข้าไปตรงชุดเธอเลยด้วยซ้ำ”
“แล้วมันจะขาดได้ยังไง ดูก็รู้ว่าเป็นรอยกรรไกร”
“แล้วฉันจะไปรู้หรือไง!” น้ำหวานตะโกนตอบกลับ ทว่าก็ต้องชะงักไปกับสายตามากมายที่มองมายังตัวเอง มือสวยกำเข้าหากันแน่นด้วยความไม่ชอบใจกับทุกสายตาที่มองมา
เธอไม่ได้เป็นคนทำจริง ๆ …
“อยากเด่นก็เข้าใจอยู่นะคะถึงขั้นไปแก้ชุดมา แต่การที่มาแกล้งคนอื่นด้วยวิธีแบบนี้ มันเกินไปหรือเปล่า” ไฮโซสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มพยักหน้าเห็นด้วย
“จริง ทำไมทำแบบนั้นกันนะ”
“นิสัยเด็กมาก”
“อิจฉาอะไรขนาดนั้น”
“ก็บอกว่าฉันไม่ได้ทำไง!” น้ำหวานเอ่ยตอบกลับทุกคนเสียงดังพลางเริ่มหอบหายใจหนักด้วยความโกรธ หนึ่งในคนที่ยืนอยู่จึงหันไปพูดกับผ้าแพรที่เป็นคนดูแลงาน
“แบบนี้คุณแพรควรจัดการอะไรหน่อยนะคะ เราคงทำใจเดินร่วมกับคนนิสัยแบบนี้ไม่ได้”
“…” ผ้าแพรก็นิ่งหันมองยังน้ำหวานที่ยืนอยู่ น้ำหวานที่เห็นแบบนั้นจึงทนรับแรงกดดันไม่ไหว
“ได้! ฉันไม่เดินแล้วก็ได้! งานกระจอก ๆ แบบนี้ คิดว่าฉันอยากเข้าร่วมนักหรือไง” พูดจบ ไฮโซสาวก็สาวเท้าเดินออกไปด้วยแรงอารมณ์โกรธจัดจากการถูกว่าร้ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ ซึ่งหลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
“ถ้างั้นเดี๋ยวแพรเอาชุดสำรองใหม่ให้คุณเทียแทนนะคะ ต้องขอโทษด้วย…”
“เอาชุดคุณน้ำหวานมาใส่แทนเลยสิคะ” เสียงหนึ่งในกลุ่มไฮโซเอ่ยแนะขึ้น ทำเอาผ้าแพรชะงักหันมองยังชุดของน้ำหวานที่วางอยู่
“ถ้าจะไม่ใช้คงเสียดายแย่ เวลาเดินน่าจะเป็นที่สนใจได้ไม่ยาก” อีกคนพูดเสริม ผ้าแพรที่นึกตามจึงพยักหน้าตอบอย่างเห็นด้วย
“ได้ค่ะ งั้นคุณเทียลองนำไปใส่ดูก่อนนะคะ หากใส่ได้ ก็ใส่ชุดนี้เดินได้เลยค่ะ”
“แล้วจะไม่เป็นปัญหาเหรอคะ” เทียริน่าถาม
“คะ?”
“ชุดนี้ดู…เหมือนถูกแก้ไขมา”
“อ๋อ เป็นชุดติดสัญญาของทางเราค่ะ ต่อให้นำออกไปแก้ไข ก็ยังเป็นสิทธิ์ของงานอยู่” ผ้าแพรยิ้มตอบกลับ เทียริน่าที่ได้ยินจึงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหยิบชุดสวยที่ได้มาใหม่เดินเข้าไปยังห้องเปลี่ยนชุดด้วยสีหน้าพึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น