8 ไม่มีข้อเสีย

1302 คำ
หลังจากทุกคนแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยพร้อมเดินก็ต่างพากันยืนประจำตำแหน่งคิวที่ถูกจัดเตรียมไว้ ก่อนจะทยอยพากันเดินออกไป “ฟู่วว~” เสียงร่างเล็กในชุดเดรสเปิดอกมีผ้าคลุมลอบถอนหายใจระงับความประหม่าที่มี ก่อนจะยกยิ้มหวานเดินตรงออกไปยังเวทีที่อยู่ตรงหน้าอย่างสดใสตามประสา ลลินพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดกับตัวเอง ซึ่งถึงใบหน้าหวานน่ารักจะแสดงท่าทีประหม่าออกมา ทว่าก็สามารถเดินออกมาได้เป็นอย่างดี กระทั่งการเดินในรอบของร่างเล็กจบลง “เย้~” เจ้าของใบหน้าใสยิ้มหวานออกมาด้วยความโล่งใจที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดขึ้นบนเวที โดยในขณะที่ลลินกำลังยืนอยู่ด้านหลังเวทีขนาดใหญ่ “สวยมากเลยเนอะ” ไฮโซสาวหลายคนก็ต่างเอ่ยออกมาเป็นเสียงเดียวกันหลังจากที่เทียริน่าเดินออกไปด้วยชุดที่โดดเด่นเหมาะสมกับร่างสวยของหญิงสาว “คนส่งชุดจริง คือสวยมาก” ทั้งทีมงานและไฮโซสาวต่างเอ่ย ลลินที่ได้ยินจึงหันไปมองยังเทียริน่าที่เดินสง่าอยู่อย่างเป็นที่สนใจของคนมากมาย “สวยจริง ๆ ค่ะ ^^” ริมฝีปากสีหวานยิ้มบอกด้วยความเห็นอย่างจริงใจ “ทุกคนคะ เดี๋ยวเชิญเดินขึ้นไปบนเวทีกันอีกครั้งนะคะ” ผ้าแพรเดินเข้ามาพูดกับไฮโซสาวที่ยืนกันอยู่ รวมถึงลลิน ทำให้ทุกคนที่ได้ยินจึงต่างเดินกลับไปยังบนเวทีขนาดใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเทียริน่านั้นยังคงโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจสำหรับทุกคน กระทั่ง… ตึก ตึก เสียงสองเท้าหนักของชายวัยกลางคนเดินถือดอกไม้สีหวานตรงเข้ามา “คุณพ่อ~” ลลินที่เห็นพ่อตัวเองเดินเข้ามาก็ยิ้มหวานเอ่ย พิเชษฐ์จึงยิ้มตอบกลับลูกสาวพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ให้ตามคิวที่ผ้าแพรจัดเตรียมเอาไว้ โดยมันเป็นซีนเปิดตัวนักการเมืองคนดังที่ทำให้หลายคนได้รับรู้ได้ถึงความรักความอบอุ่นที่สองพ่อลูกมีต่อกัน “ขอบคุณนะคะ” เสียงหวานบอกคนเป็นพ่อตาใส ทุกคนที่เห็นจึงหันไปสนใจยังสองพ่อลูกคนดัง จนกลบความโดดเด่นของเทียริน่าไปหมด ร่างสวยที่เคยถูกหลายคนจับตามองก็ได้แต่ลอบมองสองพ่อลูกคนดังนั้นด้วยแววตามีความไม่พอใจซ่อนอยู่ ในตอนนั้นเอง "น้องลลินนี่เกิดมาพร้อมความเพียบพร้อมจริง ๆ เนอะ..." ไฮโซสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลเทียริน่าเอ่ยพูดกับเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านข้าง “จริง พ่อก็คือตระกูลนักธุรกิจเก่งกันอยู่แล้วก่อนผันตัวมาเป็นนักการเมือง ส่วนแม่ตระกูลผู้ดีเก่าแก่” “แต่ไม่ใช่แค่เพราะชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนะ น้องเองก็วางตัวดีมาก ไม่หยิ่งเลย แม้จะมาจากครอบครัวที่ดีขนาดนั้น เป็นกันเองมาก” “จริง น้องน่ารักจริงนะ ตอนแรกคิดว่าแอ็บ แต่พอเจอจริง ๆ คือเป็นคนน่ารักจริง ๆ เลย” “นั่นสิ แล้วดูใจดีตลอดเวลา ไม่เคยเห็นโมโหหรือโกรธใครเลยนะ” “เนอะ คนอะไรจะเพียบพร้อมขนาดนี้ ไม่มีข้อเสียเลย” ไฮโซสาวยังคงยืนพูดคุยเอ่ยชื่นชมไปยังร่างเล็กที่ยืนถูกนักข่าวหลายสำนักขอถ่ายรูปอยู่กับพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มหวานสดใส เทียริน่าที่เห็นและได้ยินทุกอย่างจึงจ้องมองยังภาพตรงหน้านิ่งด้วยแววตาเริ่มฉายออกมาถึงความไม่พอใจที่มีต่อหญิงสาวตัวเล็กที่มาแย่งการเป็นจุดสนใจของเธออยู่เป็นประจำด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ที่เพิ่มพูนขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเต็มอก “ไม่มีข้อเสียงั้นเหรอ…” ด้านลลิน “ท่านครับ ใกล้ถึงเวลานัดกับท่านวิชวลแล้วครับ” เสียงผู้ช่วยคนสนิทเดินเข้ามาเอ่ยบอกกับพิเชษฐ์ที่กำลังยืนพูดคุยอยู่กับลูกสาวตัวเล็กของตัวเอง ชายวัยกลางคนที่ได้ยินแบบนั้นจึงพยักหน้าเชิงรับรู้ ก่อนจะหันกลับไปพูดคุยกับร่างเล็กที่ยืนอยู่ “พ่อต้องไปก่อน” “ค่ะ” ลลินที่รู้ถึงหน้าที่ของพ่อตัวเองก็ยิ้มหวานตอบ “ลินกลับยังไง กลับบ้านไหม เดี๋ยวพ่อให้คนมารับ” “ไม่ค่ะ วันนี้หนูกลับคอนโด” “ไม่กลับบ้านเลยนะ” “ลินมีส่งเอกสารฝึกงานอีกค่ะ ต้องรีบส่งภายในวันพรุ่งนี้ก่อนเข้ารับการฝึกงาน” “…” “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” “เอาคืนพ่อหรือเปล่า?” “คะ?” “พ่อก็ชอบไม่มีเวลาให้เรา เราเอาคืนพ่อใช่ไหม” “ไม่ใช่ซะหน่อยค่ะ” พูดจบ คนตัวเล็กก็โผกอดพ่อตัวเองด้วยท่าทีออดอ้อน “เพราะช่วงนี้ลินต้องเร่งส่งเอกสารฝึกงานจริง ๆ แต่ถ้าลินเริ่มว่างแล้ว ลินจะกลับไปนอนที่บ้านด้วยกันนะคะ ^^” เจ้าของใบหน้าเรียวใสเงยหน้าบอกพ่อตัวเองตาหยี ทำเอาพิเชษฐ์ที่เห็นแบบนั้นจำต้องยอม “อืม แบบนั้นก็ได้” เมื่อได้ยินคำพูดจำยอมของคนเป็นพ่อ ลลินก็ยิ้มหวานออกมาในทันที ทว่า “แล้ววันนี้จะกลับยังไง” “เอ่อ…” “?” “แท็กซี่ค่ะ” สุดท้ายเรียวปากสวยจำต้องตอบกลับตามตรง นักการเมืองคนดังที่ได้ยินจึงจ้องมองยังใบหน้าเล็กของคนเป็นลูกสาวแววตาเข้ม “ลลิน…” “ลินกลับได้ค่ะพ่อ มันไม่ไกล” “ไม่ต้อง เดี๋ยวพ่อให้คนขับรถมารับ” “ไม่เอาค่ะ” “ลลิน” “กว่าคนขับรถจะมาถึงที่นี่ มันก็จะยิ่งดึกนะคะ พ่อจะให้ลินนั่งรออยู่ที่นี่เหรอคะ รถก็ติดด้วยนะ” หญิงสาวรีบหาข้ออ้าง ซึ่งมันมีน้ำหนักพอสมควร พิเชษฐ์ที่ได้ยินก็ชะงักนิ่งเอาแต่จ้องมองลูกสาวตัวเองอยู่อย่างนั้น กระทั่งผู้ช่วยคนสนิทเดินเข้ามาเอ่ยย้ำ “ท่านครับ ต้องรีบไปแล้ว “คอยโทรหาพ่อด้วย” สุดท้ายนักการเมืองคนดังก็จำต้องหันเอ่ยบอกลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองน้ำเสียงห่วงใย “ได้ค่ะ” เรียวปากสีหวานจึงรีบยิ้มกว้างรับคำ ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะสาวเท้าเดินออกไปยังประตูทางออกห้องโถงใหญ่โดยมีดวงตากลมของคนเป็นลูกที่มองตามแผ่นหลังพ่อตัวเองไปด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมกับหมุนตัวเดินกลับเข้าไปยังห้องแต่งตัวเพื่อทำการเปลี่ยนชุดเช็ดล้างเครื่องสำอาง ทว่าทันทีที่สองเท้าเดินกลับเข้าไปภายในห้อง “ยังไม่กลับอีกเหรอคะ” ร่างบางเอ่ยถามหญิงสาวที่ยังนั่งอยู่ภายในห้องที่ผู้คนต่างทยอยกันกลับหลังงานจบ “ค่ะ พอดีว่าจะรอให้รถหายติดอีกหน่อย” “อ๋อ~” ลลินยิ้มหวานตอบกลับอย่างรับรู้พลางเดินเข้าไปยังภายในห้องแต่งตัวเพื่อทำการเปลี่ยนกลับมาเป็นชุดเดิมของตัวเอง ซึ่งหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ ร่างบางก็เดินเข้าไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขนาดเล็กที่พกมาทำการเช็ดล้างเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าเรียวใสด้วยความเบามือ แต่ด้วยความที่ร่างเล็กนั้นสายตาสั้นเกือบหนึ่งร้อย ทำให้มีความเก้กังอยู่ไม่น้อย จนทำให้คนที่นั่งอยู่หันถาม “ให้ฉันช่วยไหมคะ” “คะ? อ อ้อ ไม่เป็นอะไรค่ะ เดี๋ยวฉัน…” ไม่รอให้เจ้าของใบหน้าใสลูกสาวนักการเมืองชื่อดังตอบปฏิเสธ ร่างสวยที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นหยิบสำลีแผ่นบาง “ให้ฉันช่วยดีกว่า” ว่าแล้ว มือเรียวก็ชุบสำลีด้วยคลีนซิงสำหรับทำความสะอาดหน้าค่อย ๆ ลูบเข้าไปทำความสะอาดให้กับคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเบามือ ในตอนแรกลลินก็รู้สึกตกใจปนเกรงใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อเห็นท่าทีตั้งใจช่วยของอีกคน คนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างปล่อยให้ช่วยอย่างเต็มใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม