Chapter 5
ชุนนั่งมองหญิงสาวที่ได้เสื้อเชิ๊ตตัวโคร่งสีขาวห่มคลุมกายเปลือยเปล่า มันดูหลวมเพราะตัวของหล่อนเล็กกว่าเขามาก แต่ก็ยังดีที่มันใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ดีกว่าให้หล่อนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาทั้งคืน
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน เมื่อต่างฝ่ายต่างเอาแต่นั่งจ้องตากัน จนชุนคิดว่าเขาควรจะทำความรู้จักหล่อนให้มากกว่านี้ ถึงแม้เขาจะยังงง ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม
“เอาละ เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า เธอชื่ออะไรเหรอ”
“ข้าชื่อปาหนัน"
"ปาหนัน...ชื่อเพราะจัง"
หล่อนยิ้มให้กับคำชม ก่อนจะถามกลับบ้าง
"แล้วท่านล่ะชื่ออะไร"
"ชุน"
"ชุน..."
หล่อนออกเสียงตาม พลางทำหน้าเหมือนกับว่าชื่อนั้นออกเสียงยากและหล่อนก็ไม่คุ้นเคยกับภาษาแปลก ๆ อีกด้วย
"ข้าไม่ค่อยคุ้นเคย...ในอดีตชาติที่ข้ามีชีวิตอยู่ ข้าไม่เคยเห็นมีใครตั้งชื่อแบบนี้"
"ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันแค่อยากรู้ที่มาที่ไปของเธอมากกว่า"
หล่อนทำหน้าเศร้า ก่อนก้มหน้านิ่งคล้ายไม่อยากเอ่ยถึงอดีตของตน
"ปาหนัน...เธอเป็นใคร มาจากไหน"
"ข้าถูกหมอผีหนุ่มฆ่าตาย เขาสะกดวิญญาณของข้าเอาไว้ด้วยวิชาแห่งกามราคะ เพียงเพราะว่าข้าไม่ได้ตอบรับรักเขา”
'นี่เรา...คุยกับผีจริง ๆ เหรอเนี่ย...มึงฝันอยู่หรือเปล่าวะไอ้ชุน'
ชุนชักเริ่มกลัว เสียววาบไปทั้งแผ่นหลัง ความที่กลัวผีอยู่เป็นทุนเดิมทำให้เหงื่อกาฬเริ่มไหลซึมตามไรผม
คล้ายอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ หล่อนจึงสบตาแล้วคลี่ยิ้มมาให้
"ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำอะไรท่านหรอก เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้า"
กลัวก็กลัว อยากรู้ก็อยากรู้ เขาจึงทำใจแข็งนั่งคุยกับผีต่อ
“แล้ว...เอ่อ...เธอมาสิงอยู่ในตุ๊กตาได้ยังไง”
“เรื่องมันยาวเหลือเกิน เอาเป็นว่าวิญญาณของข้าเดิมอยู่ในโยนีเทียมที่ท่านนำไปเก็บไว้”
“โยนี?"
"ที่ท่านนำไปเก็บไว้ในลิ้นชักนั่นไง"
"จิ๋มกระป๋องจากไอ้น่านเหรอ”
ชายหนุ่มคุยกับตัวเองเบา ๆ สีหน้าที่งุนงงทำให้หล่อนรีบอธิบายต่อ
“สิ่งนั้นมีชิ้นส่วนในร่างกายข้าปนอยู่ด้วย วิญญาณข้าจึงสถิตย์อยู่ที่นั่น”
'นี่มันเรื่องเล่าสยองก่อนนอนรึยังไง'
ชุนแค่คิดในใจ เพราะไม่มีใครบอกเขาได้ว่าจริงหรือเรื่องแต่ง หากแต่เหมือนหล่อนจะอ่านใจเขาออก
"ท่านจะไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน แต่ข้าพูดความจริง ข้าบำเพ็ญสมาธิมานาน ข้าพูดโกหกไม่ได้"
“แล้วเธอก็ย้ายร่างมาสิงอยู่ในตุ๊กตายาง”
“นั่นเพราะข้าบำเพ็ญสมาธิมานาน ประกอบกับข้าได้รับเสียงสวดมนต์ทุกวัน วิญญาณของข้าจึงถูกปลดปล่อย”
ชุนยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะเขาคิดว่าในยุคที่เทคโนโลยีเจริญขนาดนี้ จะมีเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้เกิดขึ้นมาได้
แต่อีกใจหนึ่งก็คิดแย้ง เพราะเขาเห็นกับตาว่าหล่อนกลายร่างมาจากตุ๊กตายางจริง ๆ และเขาเพิ่งมีอะไรกับหล่อนมาหมาด ๆ คิดแล้วก็ขนลุก ที่เขาร่วมรักกับผีที่กลายร่างมาเป็นคน
ภูต...ผี...ปีศาจ...เขาจะให้หล่อนเป็นอะไรดี อะไรก็ได้ที่ฟังแล้วไม่ทำให้ขนหัวลุกมากไปกว่านี้
“ที่ข้ามาอยู่ในตุ๊กตาของท่าน ก็เพราะข้าต้องหาที่อยู่ใหม่ ที่จะทำให้ข้าสามารถกลายร่างเป็นคนได้ง่าย”
“กลายเป็นคนงั้นเหรอ...”
“ใช่ และข้าจะต้องสมสู่กับผู้ชายที่เกิดวันเดียวกับข้า...ข้าถึงจะกลายร่างเป็นคนได้”
ชายหนุ่มนั่งเงียบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอ อดคิดไม่ได้
'หวังว่าคงจะไม่ใช่มึงหรอกนะไอ้ชุน...'
“แต่...”
“แต่อะไร”
“ข้าจะกลายร่างเป็นคนได้เฉพาะช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น ซึ่งถ้าข้าอยากกลายร่างเป็นคนได้ตลอดเวลา ข้าจะต้องร่วมรักกับผู้ชายที่เกิดวันเดียวกัน จนกว่าจะครบตามจำนวนที่หมอผีบ้านั่นสะกดไว้”
มาถึงตรงนี้เขาหยิกตัวเองอีกครั้ง พยายามคิดว่านี่คือความฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็จะมลายหายไป
เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า กำลังเผชิญอยู่กับอะไรกันแน่ ได้แต่มองหน้าสวยหวานแล้วคิดในใจ
'หมอผีมันสาปเธอเป็นอะไรกันแน่ ปีศาจหื่นกามงั้นเหรอ'
"ข้าถึงได้บอกว่าท่านเป็นคนที่ปลุกข้าให้ตื่นขึ้นมา"
“ทะ...เธอกำลังจะบอกว่า ที่เธอกลายร่างได้ก็เพราะมีอะไรกับฉัน ซึ่งบังเอิญที่ฉันเกิดวันเดียวกับเธองั้นเหรอ”
หล่อนพยักหน้าแทนคำตอบ นั่นทำให้ชุนรู้สึกว่าในหัวหมุนคว้างอย่างไม่เคยเป็น กระอักกระอ่วนอยู่ในอกจนอยากอาเจียนออกมา
"ปาหนัน...เธอเป็นอะไรกันแน่?"
เช้าวันใหม่ท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสอีกครั้งหลังจากที่ฝนพรำมาตลอดทั้งคืน
ชุนลุกจากที่นอนแล้วบิดกายซ้ายสลับขวาเพื่อไล่ความง่วงให้หมดไป ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบเห็นความผิดปกติภายในห้อง
เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดทำงานหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่เขาวางระเกะระกะ ตอนนี้ทุกอย่างถูกเก็บและจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เขารีบหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ มาตลอดทั้งคืน แต่แล้วก็ต้องใจหายวาบ เมื่อสิ่งที่เขาเห็นคือตุ๊กตายางที่นอนนิ่ง เสื้อสีขาวของเขายังคงอยู่บนร่างกายนั้น
เขานั่งนิ่งตั้งสติมองดูตุ๊กตายางที่ไร้ลมหายใจ ไม่อาจคุยโต้ตอบกับเขาได้อีก รู้สึกแปลก ๆ อยู่ในหัวใจ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจ ราวกับว่าเมื่อคืนเขาแค่ฝันแล้วตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริง
ไม่มีคนที่ชื่อปาหนัน ชีวิตจริงของเขาคือขวัญข้าวแต่เพียงผู้เดียว
ชุนยังคงไปทำงานตามปกติ แต่ทว่าวันนี้เขารู้สึกว่าเวลาช่างเดินช้าเหลือเกิน ชายหนุ่มนั่งเหม่อลอยภายในร้านกาแฟเพียงลำพัง ปกติจะมีน่านนทีมานั่งด้วย แต่วันนี้เขาเลือกที่จะนั่งหลบมุมอยู่เงียบ ๆ คนเดียว
'ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นอย่างที่ปาหนันพูด แสดงว่าเราได้เสียกับ...กับผีงั้นเหรอ...บรื๊อออ'
แค่คิดก็ขนลุกซู่ ในใจของเขาสับสนยิ่งนัก คนอื่นคงคิดว่าเขาบ้าถ้าเกิดว่าเขาเล่าเรื่องนี้ให้ใครต่อใครฟัง
ชายหนุ่มนั่งครุ่นคิดจนกระทั่งได้เวลาเริ่มงานช่วงบ่าย เขาจึงรีบสลัดความคิดเหล่านั้นออกจากสมอง เพื่อที่จะได้ทำงานต่อโดยไม่ฟุ้งซ่าน
“พี่ชุนคะ...”
เสียงนุ่มหูที่ดังแว่วมาทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดเดินแล้วหันไปมอง
“อ้อ... น้องขวัญ...”
“ขวัญนึกว่าพี่ชุนไม่ได้มาทำงาน เพราะเมื่อเช้าไม่เห็นที่ร้านกาแฟ”
“เอ่อ...พอดีเมื่อเช้าพี่มาสายน่ะ เลยไม่ได้แวะเข้าไป”
“เอ่อ...คือว่า...ขวัญ...ขวัญอยากบอกว่าเรื่องที่พี่ชุนพูดเมื่อคืนน่ะ”
“ฮั่นแน่ แอบคุยอะไรกันตรงนี้ครับ ดูมีพิรุธนะเนี่ย”
เสียงน่านนทีที่ร้องทักดังขึ้นมา ทำให้ขวัญข้าวหยุดทุกคำพูดไว้แค่นั้น
“ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้น่าน”
ชุนเข่นเสียงรอดไรฟันด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจนัก เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนรักเข้ามาขัดจังหวะ
“คุยอะไรกันอยู่เอ่ย”
“ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ยครับคุณน่านนที”
ชุนสวนกลับอย่างหัวเสีย...เมื่อขวัญข้าวเห็นน่านนทีเข้ามาคุยหล่อนจึงยิ้มให้ ก่อนจะขอตัวแล้วเดินจากไป ปล่อยให้สองหนุ่มยืนคุยกันต่อ
เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเลิกงาน นั่นคือเวลาที่ชุนรอคอย ซึ่งเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบออกจากที่ทำงานเพื่อที่จะรีบกลับบ้าน...บ้านที่เขาคิดว่ามีใครบางคนรออยู่ โดยเขาได้แวะซื้อสิ่งของบางอย่างจากห้าง สรรพสินค้าติดมือกลับไปด้วย
ชุนหันซ้ายแลขวาหลังจากที่เขารีบเดินตรงมายังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งทุกอย่างดูเงียบสงบเหมือนอย่างเช่นทุกวัน
“ปาหนัน แล้วเธอจะปรากฏตัวมาให้ฉันเห็นอีกทีตอนไหนกันนะ”
เขาเดินตรงไปยังที่นอน รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก
“ไอ้ชุน มึงเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย อยู่ดี ๆ ก็เรียกร้องหาผี แล้วขวัญข้าวของมึงล่ะ”
ชุนเตือนสติตัวเองอีกครั้งเมื่อดึงตัวเองขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ตอนนี้ความรู้สึกของเขาเริ่มสับสน จากที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ความรักที่ดูเหมือนว่ากำลังจะสมหวัง ทว่าอยู่ ๆ ก็มีหญิงสาวนิรนามที่เขาร่วมหลับนอนด้วยปรากฏตัวขึ้นมา หล่อนเข้ามาอยู่ในมโนสำนึกแห่งความรับผิดชอบชายหนุ่มเอนกายลงนอนข้างตุ๊กตายางที่ไร้ชีวิต ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจากงานอันแสนปวดหัว