บทที่7 ในที่สุด

2201 คำ
ศศิลัลน์ที่ตรงดิ่งมาหาพี่เขยเพราะพี่สาวฝากความมาไม่ทันพูดจบประโยคก็ต้องนิ่งชะงักเพราะสายตาเจ้ากรรมเหลือบไปเห็นใครอีกคน ความรู้สึกคุ้นเคยรอบกายทำให้หญิงสาวต้องหันไปมองเต็ม ๆ ตาก่อนจะผงะจนถอยหลัง เป็นเวลาเดียวกับที่ลภณดนัยหันมามองต้นเสียงพอดี รอบ ๆ ตัวมีความเคลื่อนไหวทว่าคล้ายกับมีเพียงเขาและอีกฝ่ายยืนอยู่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจของหญิงสาวฉุดให้ลภณดนัยหวนนึกไปถึงอดีต คิดถึงตอนที่โอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขนและพรมจูบไปทั่วใบหน้า และคิดถึงตอนที่ตื่นมาพบกับความว่างเปล่ามีเพียงเงินและกระดาษแผ่นเล็กที่มีข้อความทิ้งเอาไว้ว่า ‘ค่าเสื้อ’ พร้อมกับการหายไปของเสื้อเชิ้ตตัวโปรด เป็นเธอคนนั้น...ที่หลอกหลอนในความคิดของเขามาหลายปี เป็นเธอคนนั้น...ที่ขโมยเสื้อเขาไปใส่และทิ้งค่าเสื้อไว้ให้สามพัน แล้วก็หายไปจากชีวิตของเขา เป็นเธอคนนั้นจริง ๆ “ลัลน์มาพอดีเลย เฮ้ยเลย์ นี่ลัลน์ น้องเมียฉันเอง น้องเขาทำงานที่NTLสาขานี้แหละ” เขมทัตที่ไม่รู้อะไรส่งเสียงขึ้นพร้อมกับทำหน้าที่แนะนำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน “ส่วนนี่เลย์เพื่อนพี่ เป็นสถาปนิกที่สำนักงานใหญ่น่ะ” “เอ่อ...พี่ลดาบอกว่าหิวแล้ว ลัลน์มาบอกแค่นี้ขอตัวก่อนนะคะ” มีแต่ต้องรีบชิ่งเท่านั้นที่ศศิลัลน์คิดได้ ทว่าไม่ทันจะหนีไปก็เหมือนกับคนบนฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะร่างเล็กที่เธอซุกซ่อนเอาไว้วิ่งเข้ามาปรากฎตัวตรงหน้าซะแล้ว “กุนยุง กุนยุงมาได้ยังไง” หนูน้อยลลินน์ร้องทัก สายตาไม่ได้หันไปทางลุงเขยบ่งบอกว่าคุณลุงที่หมายถึงไม่ใช่ลุงเขยแต่เป็นอีกคนหนึ่ง หัวใจของศศิลัลน์เต้นไม่เป็นจังหวะ มือเย็นเฉียบไปหมด ในหัวมีแต่คำถามว่ายัยหนูลลินน์ไปรู้จักอีกฝ่ายได้ยังไง เขา...เคยเจอลูกแล้วเหรอ!? “กุนแม่ขา นี่งายกุนยุงเย ลูกชายกุนยายภัส” ไม่ปล่อยให้คนเป็นแม่ข้องใจนานยัยหนูก็แถลงไขในทันที แต่คำอธิบายของหนูน้อยกลับทำให้ทั้งศศิลัลน์และลภณดนัยชะงักไปตาม ๆ กัน ศศิลัลน์แทบจะลืมหายใจกับคำอธิบายของยัยหนู หมายความว่าคุณหญิงภัสตราคือคุณย่าของลูกสาวเธออย่างนั้นเหรอ? นี่เธอเดินเข้าไปหาคุณย่าของลูกสาวทั้งที่พยายามซุกซ่อนอย่างนั้นเหรอ! คนซุกซ่อนตกใจจนแทบลืมหายใจ แต่คนที่ได้ยินหนูน้อยเรียกคนในความทรงจำว่าแม่ตกใจยิ่งกว่า สมองที่เคยปราดเปรื่องราวกับหยุดทำงานไปชั่วขณะ แม่อย่างนั้นเหรอ? ยัยหนูที่เขาและคุณแม่เอ็นดูเรียกศศิลัลน์ว่าคุณแม่อย่างนั้นเหรอ? ตาคู่คมจ้องมองยัยหนูสลับกับคนเป็นแม่ที่มองอย่างไรก็ไม่มีความคล้ายก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแว่บเข้ามาในหัว...น้องลินน์เหมือนคุณพ่อของเขามากกว่า และ...เขาเองก็เหมือนคุณพ่อ นี่หมายความว่า... “ศศิลัลน์ คุณ...” ไม่ทันให้ชายหนุ่มได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นหญิงสาวก็ฉวยอุ้มยัยหนูและก้าวจากไปในทันที...เธอกลัวจับใจว่าจะเป็นเหมือนในฝันร้าย เธอยอมไม่ได้เด็ดขาด ไม่รู้ว่าละครชีวิตเรื่องนี้มีใครเป็นคนกำกับ ทั้งที่คิดว่าการเจอกันอีกครั้งนั้นต้องยากเย็น แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย วันนี้เธอสวนกับเขาโดยไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคนที่เจอกันในงานแต่งงานจะกลายเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับลูกที่เธอซุกซ่อนเอาไว้ หรือนี่จะถึงเวลาที่เธอต้องถูกเอาคืนที่ไปพรากพ่อพรากลูกกันนะ ศศิลัลน์อยากจะหายไปจากตรงนี้ให้ได้ไวที่สุด อยากจะเอายัยหนูไปซ่อนไว้ในที่ที่ห่างไกลและสงบที่ไหนสักที่ด้วยความหวงแหน แต่ก็ทำได้เพียงสาวเท้ายาว ๆ เดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยง “ลัลน์ จะไปไหน” แม้แต่เสียงเรียกของเขมิกาศศิลัลน์ก็ยังไม่หันกลับมามอง ลภณดนัยที่ตามออกมาไม่ทันจะตามต่อก็ถูกวีรกรดึงเอาไว้ “นี่มันอะไรกันครับพี่เลย์” “นั่นสิเลย์ นี่มันอะไรกันวะ” เขมทัตที่เห็นทุกอย่างแต่ก็ยังไม่เข้าใจก็ตามมาติด ๆ อยู่ ๆ น้องสาวภรรยาก็อุ้มลูกหนีออกมาแบบนี้ในหัวเขาสับสนไปหมด ลภณดนัยไม่ตอบ สายตายังคงมองตามคนที่เอาแต่หนีก่อนจะหันไปถามเขมทัต “น้องลินน์อายุเท่าไหร่” “สามขวบกว่า ๆ ค่ะ” เป็นเขมิกาที่ตอบ แต่คำตอบที่ได้มาก็ทำให้ความมั่นใจของชายหนุ่มมากขึ้น นาทีนี้เองที่เขมิกาได้มองลูกชายเพื่อนแม่อย่างถี่ถ้วนจนมีความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัว ลูกสาวของเพื่อนเธอ...เหมือนลภณดนัยมาก “พะ พี่เลย์” ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อของยัยหนูลลินน์ผุดเข้ามาในความคิดของเขมิกา แต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไรชายหนุ่มก็สลัดแขนจนหลุดและวิ่งออกไปซะก่อน เขมิกามองเจ้าบ่าวสลับกับพี่ชาย พอทุกคนได้ตั้งสติก็เหมือนจะคิดเหมือนกันขึ้นมา...นี่มัน เรื่องใหญ่เลยนะ ทางด้านลภณดนัยที่วิ่งตามออกไปทำได้เพียงมองหา แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เจอหญิงสาวหรือแม้แต่หนูน้อยลลินน์เลยแม้แต่น้อย ในใจทั้งโกรธทั้งสับสนและตื่นเต้น ตื่นเต้นที่คิดว่ายัยหนูที่เขาเอ็นดูคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง สับสนว่าใช่อย่างที่เขาคิดจริง ๆ หรือเปล่า และโกรธที่เธอกล้าปิดบังและซุกซ่อนลูกเอาไว้ นั่นลูกทั้งคนเลยนะ เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกัน Rrrr. ทั้งที่คิดว่าจะตามหาคนจนไม่สนใจแม้แต่สายเรียกเข้าที่เข้ามาไม่หยุด แต่เพราะลางสังหรณ์บางอย่างทำให้ชายหนุ่มต้องยอมกดรับสายทั้งที่สายตายังคงสอดส่องมองหา “ฮัลโหลครับ” “เลย์...แม่เราดูอาการไม่ดีเลย มาพาแม่กลับไปแอดมิชเถอะ” ปลายสายอย่างแม่เลี้ยงขวัญฤทัยไม่รอช้า บอกสิ่งสำคัญในทันทีจนชายหนุ่มต้องตัดใจวิ่งกลับเข้าไปภายในโรงแรมด้วยความเป็นห่วงผู้เป็นแม่ ตาคู่หวานที่ร้อนผ่าวข่มความกลัวและความอยากจะร้องไห้เอาไว้มองคนร่างสูงที่วิ่งกลับเข้าไปด้านในก่อนจะอุ้มยัยหนูออกจากที่ซ่อน เธอไม่รู้ว่าจะหนีไปไหนได้นอกจากแอบซ่อนตัวอยู่แถว ๆ นี้ แม้ใจอยากจะพาหนูน้อยหนีไปในที่ไกล ๆ แต่ทั้งแม่และพี่สาวเธออยู่ที่นี่ เธอไม่สามารถทิ้งใครไปได้ แต่เธอควรจะทำอย่างไรดี “กุนแม่ขา หนีกุนยุงทำมาย กุนยุงเป็นคนม่ายดีเหยอ” “ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่คนไม่ดี แต่...” แต่เธอจะบอกลูกสาวได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี แต่เป็นคนที่หนูน้อยควรจะเรียกว่าพ่อ “ฮึก แม่ไม่ดีเองน้องลินน์ แม่ไม่ดีเอง” หญิงสาวไม่เพียงพูดแต่ยังสะอื้นออกมา ไม่ใช่เขาไม่ดี แต่เป็นเธอเองที่ไม่ดี เป็นเธอเองที่เมาจนเกิดเรื่องเลยเถิด และเป็นเธอเองที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินมาอย่างนี้ “โอ้ ๆ ไม่ย้องนะ น้องลีนอยู่นี่” ยัยหนูปลอบใจ เลียนแบบมาจากตอนที่คนเป็นแม่ปลอบใจตัวเอง ทั้งยังกอดรอบคอของคุณแม่ยังสาวเอาไว้ ศศิลัลน์กอดรัดหนูน้อยวัยสามขวบกว่า ๆ เอาไว้อย่างหวงแหน พยายามคลายความกลัวในใจเอาไว้ก่อนจะชวนหนูน้อยกลับบ้าน ผู้เป็นแม่คงต้องวานให้พี่สาวไปส่งที่บ้านและอ้างว่ารู้สึกไม่สบายเท่าไหร่เลยต้องขอกลับก่อนเพื่อไม่ให้ใครสงสัย...เธอต้องไปตั้งหลักซะก่อน อีกฟากหนึ่ง คุณหญิงภัสตรามีอาการไม่สู้ดีหลังจากที่มองแขกเหรื่อในงานที่ค่อนข้างมีจำนวนมากทำให้ต้องถอดใจกลับมาโรงพยาบาล หลังจากจัดการเรื่องเข้าพักโรงพยาบาลให้คนเป็นแม่เรียบร้อยลภณดนัยก็มานั่งใจลอยอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของผู้เป็นแม่ที่ได้รับการดูแลจากพยาบาลอยู่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดอะไร ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรด้วยซ้ำไม่ว่าจะสี่ปีก่อน หรือว่าเมื่อครู่ เธอเลือกที่จะหนีแทนที่จะเผชิญหน้ากับเขา คนใจลอยเค้นสมองคิดย้อนกลับไปในอดีต เพราะพี่รหัสของเธอเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของเขาศศิลัลน์จึงวนเวียนมาอยู่ในสายตาของเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอกลับไม่กล้าสบตาเขาสักครั้ง และดูเป็นคนอ้ำอึ้งไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ หลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับเขาด้วยซ้ำไป หรือศศิลัลน์ไม่ถูกชะตากับเขาหลังเกิดเรื่องเธอถึงได้หายไป แม้แต่มีลูกก็ไม่ยอมบอกเขา หรือว่าเขาเป็นคนไม่ดี ชายหนุ่มคิดย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน หรือแม้แต่ก่อนหน้านั้น ในฐานะรุ่นพี่เขามั่นใจว่าเขาวางตัวดีกับรุ่นน้องทุกคน ไม่เคยทำให้รุ่นน้องคนไหนต้องอึดอัดใจเลยด้วยซ้ำ ตอนยังทำงานที่บริษัทเก่ากับศศิลัลน์และน้อง ๆ อีกหลายคนที่มาฝึกงานเขาก็ไม่ได้ร้ายอะไรเท่าไหร่ อาจจะดุบ้างเพื่อให้รุ่นน้องได้เรียนรู้ที่จะใส่ใจรายละเอียดของงานมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของตัวน้องเองในอนาคต แต่เขาก็ไม่เคยตำหนิจนใครร้องไห้เลยสักครั้ง หรือดุเกินไปก็เลยไม่ดีพอให้ศศิลัลน์คุยดี ๆ “เลย์ ตาเลย์” เสียงของคุณหญิงภัสตราดังแว่วมาในหูฉุดให้คนใจลอยกลับมาอยู่กับร่องกับรอย ชายหนุ่มลุกไปข้างเตียงคนเป็นแม่ในทันที “ครับ คุณแม่อยากได้อะไรเหรอครับ” “ไม่ได้อยากได้อะไร แต่เราน่ะเป็นอะไร” ถึงจะป่วยแต่ก็ใช่ว่าคุณหญิงภัสตราจะไม่เห็นท่าทีเหม่อลอยของลูกชายคนโต จะพูดให้ถูกก็คือไม่มีท่าทีไหนของลูก ๆ ที่จะรอดพ้นสายตาแม่อย่างเธอไปได้ “คิดว่าปิดแม่ได้เหรอ จะพูดหรือให้แม่คาดคั้น” “ผมแค่คิดว่า...” ไม่รอให้คนเป็นแม่คาดคั้นชายหนุ่มก็เกริ่นขึ้นก่อนจะบอกเล่าสิ่งที่ตนคิด “ผมดูเป็นคนใช้ไม่ได้หรือเปล่า...ก็เท่านั้น” “ใช้ไม่ได้อะไร ถ้าเลย์ใช้ไม่ได้ ตาพระลักษณ์นี่ป่นปี้เลยนะ” ในฐานะแม่ลูกแต่ละคนเป็นอย่างไรเธอทราบดีที่สุด แม้ว่าลภณดนัยไม่ใช่ลูกชายที่ดีเลิศจนใคร ๆ อิจฉา เป็นแค่ปุถุชนคนหนึ่ง แต่ลูกชายของเธอคนนี้ก็ดีกว่าลูกชายอีกสองคน ถ้าลภณดนัยใช้ไม่ได้ ลภัทรพลหรือพระลักษณ์ลูกชายคนเล็กนี่ไม่ใช่ว่ายิ่งกว่าใช้ไม่ได้เหรอ ก็รายนั้นน่ะทั้งมั่วผู้หญิง เจ้าชู้ไปเรื่อยจนบางทีรถไฟชนกันสนั่น ลอยไปแล้วก็ลอยมาไม่คิดจะลงตรงไหนสักที่ ทั้งยังกวนอารมณ์แม่อยู่เสมอ ลภณดนัยที่วัน ๆ สนใจแต่งานไม่มีข่าวเสียหายจะเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ได้ยังไงกัน “เลย์น่ะใช้ได้ที่สุดแล้ว...ไหนไปเจอเรื่องอะไรมาถึงได้คิดแบบนี้ บอกแม่มาสิ” “...” ไม่มีคำตอบส่งมา ชายหนุ่มไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ ถ้าเขาบอกว่าเขาเสียความมั่นใจเพราะศศิลัลน์ เรื่องที่พูดคุยกันจะต้องไปถึงเรื่องของน้องลินน์ แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าน้องลินน์เป็นลูกของเขาแต่ไม่ได้หมายความว่าศศิลัลน์จะยอมรับ ถ้าถามหาหลักฐานยังไงเขาก็แพ้ จะดีกว่าถ้าเขามีหลักฐานมัดตัวศศิลัลน์แล้วค่อยบอกเล่าผู้เป็นแม่ เขาต้องหาคำตอบเสียก่อนว่าทำไมถึงได้ถูกทิ้ง...แม่จะได้ไม่เกลียดแม่ของลูกเขา แต่อีกใจเขาก็ลังเลอยากจะบอกเล่าว่ายัยหนูที่คุณแม่นึกถูกชะตาคนนั้นเป็นลูกสาวของเขา เป็นหลานของท่าน ทั้งเขาและท่านถึงได้ตกหลุมรักตั้งแต่ได้สบตาครั้งแรก อยากพูดถึงความน่ารักของยัยหนู และเผื่อแผ่ไปให้พ่อ น้องชาย และน้องสาวได้รับรู้ไปด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม