“แล้วมีสถานที่ที่อยากไปหรือเปล่าล่ะหนูดา”
“เอ่อ... ดาแล้วแต่คุณหญิงย่าค่ะ”
“น่ารักจริงๆ เลยหนูดาของย่า”
ยิ่งคุณหญิงย่าแสดงความชื่นชมอารดาออกนอกหน้า พาทิศก็ยิ่งไม่พอใจ
“ผมไปได้หรือยังครับคุณหญิงย่า”
“แกจะรีบไปไหนล่ะ จะว่าไปทำงานก็คงไม่ใช่ เพราะแกลาพักร้อนไว้ตั้งเจ็ดวัน หรือว่าจะแวบไปหาแม่แววดาวอีก”
“ผมจะไปเคลียร์งานที่บริษัทน่ะครับ เสร็จแล้วจะรีบกลับครับ”
“อย่าให้ย่ารู้เชียวนะว่าไปหาแม่แววดาวน่ะ”
“ผมไม่กล้าหรอกครับ เพราะผมรู้ดีว่าคุณหญิงย่าหูตากว้างกว่ามหาสมุทรเสียอีก”
ชายหนุ่มประชดประชัน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินออกไปจากห้องอาหารอย่างหัวเสีย
คุณหญิงสุปรานีถอนใจออกมาอย่างหนักอกหนักใจ เมื่อเห็นท่าทางแข็งกระด้างของหลานชายคนโปรด
“ย่าผิดเองที่ตามใจแกมาตั้งแต่เด็ก”
หลังจากบ่นพึมพำโทษตัวเองเสร็จแล้ว ก็หันมาลูกสะใภ้ของตัวเอง
“หนูดาเป็นยังไงบ้างลูก”
อารดากะพริบตาไล่หยาดน้ำตาหลายครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคุณหญิงย่า เรียวปากอิ่มเต็มสีแดงระเรื่อฝืนคลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ
“ดา... โอเคค่ะคุณหญิงย่า”
“ย่ารู้นะว่าหลานชายของย่าทำตัวไม่ดีกับหนูดาเอาไว้เมื่อคืน... ย่าขอโทษนะลูก”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะคุณหญิงย่า ดา... รักพี่เอก ดาเต็มใจอดทนค่ะ”
“สักวันเจ้าเอกจะต้องเห็นความดีของหนูดา เชื่อย่านะลูก”
เพราะหล่อนเชื่อแบบนี้ไง...
เพราะเชื่อว่าความดีของตัวเองจะสามารถเอาชนะหัวใจของพาทิศได้ หล่อนจึงยอมแต่งงานกับเขาตามที่คุณหญิงย่าขอร้อง
“ค่ะคุณหญิงย่า”
หล่อนฝืนยิ้ม แต่ดวงตากลมโตกลับไม่สามารถซ่อนเร้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้
“ดา... ขอตัวก่อนนะคะคุณหญิงย่า”
“อืม ไปพักผ่อนเถอะ แล้วก็เตรียมตัวไปฮันนีมูนนะหนูดา เดี๋ยวย่าจะจัดการจองที่พักสวยๆ เอาไว้ให้”
“ขอบคุณค่ะคุณหญิงย่า”
คุณหญิงสุปรานีมองตามร่างบอบบางของ
อารดาที่เดินออกไปจากห้องอาหารด้วยสายตาห่วงใย และก็อดนึกหมั่นไส้หลานชายไม่ได้
“ย่าก็หาผู้หญิงดีๆ ให้ ดันไปชอบกินพวกของต่ำตม ไอ้หลานไม่รักดี”
“คุณหญิงคะ ดูคุณเอกจะหลงผู้หญิงคนนั้นหัวปักหัวปำอยู่นะคะ” แม่บ้านคนสนิทเอ่ยขึ้น
“ก็ใช่น่ะสิ นี่ฉันกำลังหาวิธีแยกเจ้าเอกออกจากแม่นั่น ว่าแต่แม่นิ่มเถอะ มีคำแนะนำเด็ดๆ อะไรบ้างไหม”
“เมื่อคืนอิฉันดูละครหลังข่าวมา เห็นแม่ยายเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่ให้ลูกเขยกิน เพราะลูกเขยไม่ยอมนอนกับลูกสาวของตัวเอง กลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานน่ะค่ะ”
คุณหญิงสุปรานีชะงักไปเล็กน้อย ในสมองกำลังนึกถามคำบอกเล่าของคนสนิท
“วิธีนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ”
“คุณหญิงจะทำเหมือนแม่ยายในละครหลังข่าวเหรอคะ”
“ฉันคิดว่า ถ้าข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก ยังไงเจ้าเอกมันก็ต้องเกรงใจหนูดาขึ้นมาบ้างแหละ หรือถ้าฟลุ๊คนะ มันอาจจะเลิกกับแม่แววดาวอะไรนั่นเลยก็ได้” ความหวังเกิดขึ้นภายในหัวใจของคุณหญิง
สุปรานี
“คุณดาเธอน่ารัก อิฉันเชื่อว่าคุณเอกจะต้องรักเธอในเร็วๆ นี้แหละค่ะ”
“มันต้องเป็นแบบนั้นแหละ ฉันมองหลานชายฉันไม่ผิดหรอก”
หลังจากเคลียร์งานที่บริษัทเสร็จแล้ว พาทิศก็พาแววดาวที่มานั่งรออยู่ที่บริษัทออกมารับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน
แววดาวจงใจทำตัวน่าสงสาร แกล้งทำเป็นบีบน้ำตา เรียกคะแนนความเห็นใจจากพาทิศตลอดเวลา เพราะหล่อนรู้จักพาทิศดี ว่าเขาเป็นคนแพ้น้ำตาผู้หญิง และใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงเสมอ
“แวว... ร้องไห้ทำไมครับ”
พาทิศรีบยื่นกระดาษทิชชูส่งให้กับแววดาวที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
“แวว... รู้สึกไม่ดีเลยค่ะ”
“ทำไมรู้สึกไม่ดีล่ะครับ ในเมื่อตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกัน”
“ถึงเราจะอยู่ด้วยกัน แต่แววก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นชู้รักเลยค่ะเอก ทั้งๆ ที่แววมาก่อน แล้วเราสองคนก็รักกันมาตั้งนานแล้ว แต่สุดท้ายแววกลับไม่มีสถานะอะไรเลย...”
“แวว... เราคุยกันแล้วนี่ครับ แค่ปีเดียวเอง พอผมเป็นอิสระ เราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
“แต่แวว... แววก็ยังกลัว... กลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจไปรักผู้หญิงคนนั้น...”
“ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ ผมจะไปรักผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอกอย่างอารดาได้ยังไงล่ะครับ เชื่อใจผมนะแวว”
“ก็ได้ค่ะ แววจะเชื่อใจคุณ... แต่... แววขอหลักประกันสักหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ คุณอยากได้อะไรบอกผมมาได้เลย”
“แววขอสักห้าล้าน... ได้ไหมคะ”
ความประหลาดใจเกิดขึ้นบนใบหน้าของพาทิศไม่น้อย
“ผมเพิ่งให้คุณไปสองล้านเองนะแวว”
“เห็นไหมล่ะคะ แค่แววขอห้าล้าน คุณก็ไม่ให้แล้ว นี่แค่แต่งงานไปคืนเดียวเองนะคะ แล้วถ้าเกิดคุณแต่งงานไปสักสองสามเดือน แววคงไม่เหลือค่าอะไรให้คุณจดจำอีกแน่เลยค่ะ”
เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้แววดาวต้องมาเป็นเหมือนตัวสำรอง ทำให้พาทิศตกลง
“ได้ครับ ผมจะโอนเงินให้คุณห้าล้าน”
“จริงนะคะเอก”
สีหน้าเศร้าสร้อยของแววดาวถูกความตื่นเต้นดีใจกลบทับทันที
“จริงครับ หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมจะโอนให้เลย”
“ไม่ต้องเร็วขนาดนั้นก็ได้ค่ะ เอาไว้หลังจากเราทำอะไรสนุกๆ กันบนเตียงเสร็จแล้ว ค่อยโอนให้แววก็ได้ค่ะ”
เมื่อก่อนพาทิศจะยิ้มรับกับสิ่งที่แฟนสาวพูดเสมอ เพราะเขาชื่นชอบเรื่องบนเตียงมาก แต่ตอนนี้กลับต้องปฏิเสธออกไป
“ผมต้องรีบกลับบ้านน่ะแวว”
“อะไรนะคะ ทำไมต้องรีบล่ะคะ”
“คุณหญิงย่าจะให้ผมไปฮันนีมูนกับอารดาน่ะ ผมต้องไปเตรียมเก็บกระเป๋า”
“ไปฮันนีมูนกันด้วยเหรอคะ น่าอิจฉาจังเลยค่ะ”
“เอาไว้เราค่อยไปกัน หลังจากผมกลับมาก็ได้ครับ ผมจะพาแววไปเที่ยวตามที่แววต้องการเลย” พาทิศพยายามที่ปลอบใจแฟนสาว
“แวว ขอไปด้วยได้ไหมคะ”
“คงไม่สะดวกหรอกแวว คุณรอผมอยู่ที่นี่นะ ผมไปแค่สองสามวันก็กลับแล้ว”
“แต่แววไม่ไว้ใจค่ะ แววอยากไปด้วย ให้แววไปด้วยนะคะเอกขา...”
พาทิศพยายามจะทำใจแข็ง แต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะสายตาออดอ้อนของแววดาวได้
“งั้นขอผมไปคุยกับอารดาก่อน แล้วผมจะโทรบอกนะ”
“ไม่รู้ล่ะ แววอยากไป คุณต้องพูดกับเมียหลวงของคุณให้สำเร็จนะคะ ไม่อย่างนั้นแววไม่ยอมจริงๆ ด้วย”
“ครับ ผมจะทำให้สำเร็จ”
“เอกน่ารักที่สุดเลยค่ะ... แววรักเอกจัง”
แววดาวก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อซ่อนรอยยิ้มสะใจให้มิดจากสายตาของพาทิศ
“ฉันจะทำให้แกอกแตกตายให้ได้ นังอารดา”