ตอนที่ 8
แสงแวววาวผุดขึ้นในดวงตาเข้มแวบหนึ่ง แม้ไม่ชอบใจ แต่ปรมัตถ์ก็ยังยิ้มเหมือนกับไม่รู้สึกรู้สาได้
“มีแฟนสวย ๆ น่ารัก ๆ จะกอดกันหน่อย จูบกันนิด หอมกันหน่อย ไม่เห็นจะแปลกนี่ครับ อีกอย่างเราก็ผัวเดียวเมียเดียว ไม่ได้ไปแย่งชิงลักกินขโมยกินของใคร ทำไมจะต้องอายด้วย” ปรมัตถ์กดจมูกลงบนแก้มนุ่มเต็ม ๆ
“อีกอย่างผมกับ...คุณชื่ออะไรยังไม่ได้บอกเลย” กระซิบถามแผ่วเบา
“เนตร…ฉันชื่อดาราเนตร เทเวศร์”
“ผมกับเนตรกำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ในเมื่อคุณเป็นญาติเนตร ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย วันสองวันนี้คงว่าพอมาเป็นพยานในการจดทะเบียนสมรสให้เราสองคนได้นะครับ”
ใช่เพียงแค่พีชาริกาที่ตกตะลึงตาค้างอ้าปากค้างจนแมลงวันแทบจะบินเข้าไปวางไข่ได้ สะบัดส่ายศีรษะแรง ๆ อย่างรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ยิน ในอกมันเดือดปุด ๆ จนแทบจะระเบิดออกมา
แม้กระทั่งดาราเนตรเองก็ตกตะลึงจนตาโต อ้าปากค้าง
เธอเพียงแค่ตกลงรับพิจารณาเขา ไม่ได้หมายความว่ารับ...มาทำหน้าที่สามีชั่วคราวสักหน่อย ไม่มีความจำเป็นจะต้องจดทะเบียนสมรสที่จะนำเอาความยุ่งยากมาให้ในภายหลัง
หญิงสาวหันหน้ามองคนพูดที่ยิ้มใส่ตาเธอ
“อยากพูดเองเออสิคุณ ฉันไม่ได้คิดจะจดทะเบียนกับคุณด้วยนะ อย่ามาตู่” ดาราเนตรกระซิบบอกเสียงลอดไรฟัน อยากจะกางเล็บออกแล้วข่วนให้อีตาบ้าข้างกายที่ยิ้มกริ่มอยู่นี่ให้หน้าลายเหมือนกับลายของเสือเลย ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่ เธอควรจะเป็นคนคุมเกมไม่ใช่หรือไง
“เอาน่าคุณ มีสามีทั้งที ก็จดทะเบียนให้มันถูกต้องเสียเลย ไอ้ผมนะไม่เท่าไหร่ ผู้ชายยังไงก็ได้ แต่เนตรนะสิที่รัก เดี๋ยวพวกคิดอกุศลมันจะเอาไปนินทาลับหลังเอาได้ ว่าลักลอบได้เสียกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่เห็นมีตัวตน พาลหาเรื่องให้ต้องปวดหัวเช้าสายบ่ายเย็น”
“นี่คุณ!”
“รู้จ้ะเนตร ผมรู้ว่าเนตรร้อนมาก ดูสิ หน้าตาแดงเชียว ผมว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า ผมเองก็เหนื่อยและเพลียกับการเดินทางอยากจะอาบน้ำเย็น ๆ ให้ชุ่มปอดเหมือนกัน”
ปรมัตถ์เปิดประตูรถกดล็อกเปิดประตูอีกฝั่ง ช้อนร่างดาราเนตรไปวาง ก่อนจะวิ่งไปเก็บกระเป๋ามาโยนไปที่เบาะด้านหลัง แล้วก้าวขึ้นไปนั่ง ก่อนจะยกมือโบกลาสาวสวยที่สวยแต่รูป หากนิสัยกลับไม่น่าคบ
“ขอตัวก่อนนะคุณ” ปรมัตถ์รีบพารถที่ไม่ได้อยู่บนถนนเคลื่อนกลับขึ้นมา เขารีบขับออกไปอย่างแรงและเร็วจนฝุ่นกระจาย
กว่าที่ดาราเนตรจะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไร รถก็จอดอยู่หน้าบ้านพอดี ใบหน้าหญิงสาวหงิกงอตวัดค้อนใส่ชายผู้ฉวยโอกาส ดูสิ...เธอโกรธอยู่นะ ส่งสายตาขุ่นเขียวให้ แต่อีตาบ้านี่กลับยิ้มรับหน้าตาเฉย หงุดหงิดอยากจะกางเล็บแหลม ๆ นี่ข่วนให้หน้าลายกลายเป็นแมวเหมียวมากเลย
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหรือไง” จมูกโด่งได้รูปยู่ย่นใส่คนที่นั่งใกล้ๆ อีกระลอกก่อนจะหันกายไปเปิดประตูรถ ทว่า...
“ว้าย!” ดาราเนตรถลาเซไปด้านหลัง แต่ไม่ล้มลงให้เจ็บตัว เพราะท่อนแขนกำยำสอดรัดกายกลมกลึงเอาไว้ได้
ใบหน้าไม่ถึงกับหล่อเหลามาก แต่ยิ่งพิศมองกลับพบเสน่ห์ชวนค้นหาอยู่ใกล้จนดาราเนตรสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดแก้มนุ่ม ทำให้หัวใจสั่นสะท้านไหว
“ปะ...ปล่อยฉันนะตาบ้า อย่าคิดมากเอาเปรียบฉันอีกนะ ไม่งั้นโดนดีแน่” ดาราเนตรขู่เสียงเข้ม เธอกระทุ้งศอกใส่อกกว้างแรง ๆ หวังให้แขนที่รัดกายหลุดออกไป ไหนจะเสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาในโสตประสาท ทำให้เธอถึงสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว ความคิดหมุนวนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ใหญ่ แก้มนุ่มก็ร้อนผ่าวขึ้นมา
“ทำไมต้องปล่อยด้วย” ชายหนุ่มถามเสียงนุ่มทุ้ม แนบริมฝีปากข้างกกหู พลางจับมือที่พยายามจะประทุษร้ายร่างกายเขามาแนบชิดหน้าท้องแบนราบเรียบ
“ทำตัวให้ชินกับสัมผัสของผมไว้นะดีแล้ว เดี๋ยวพอเราจดทะเบียนกันเสร็จ ผมไม่ปล่อยให้คุณนอนหนาวบนเตียงอยู่คนเดียวแน่นอนครับคุณหนูดาราเนตร”
“เหรอ...” ดาราเนตรลากเสียงยาว ถือโอกาสที่อีกฝ่ายกำลังสนใจกับกายหอมกรุ่น กระทุ้งศอกเข้าที่อกกว้างเต็มแรง ก่อนจะหันไปฝาดฝ่ามือบนใบหน้าคร้ามแกร่งจนหันไปอีกฝั่ง
“นี่คือผลตอบแทนที่คุณทำบ้า ๆ กับฉัน” พูดจบดาราเนตรก็วิ่งหนีโดยเร็ว
ผู้ชายแต่ละคนนิสัย...เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ต้องหาเรื่องเข้าใกล้ชิด เพราะอย่างนี้เธอถึงไม่อยากแต่งงาน
ปลายลิ้นใหญ่กระทุ้งข้างแก้มที่ถูกตบ แหม...ฤทธิ์มากจริงนะแม่คุณ เขาชักอยากแล้วสิ เวลาอยู่บนเตียง จะเร่าร้อนเหมือนฤทธิ์ที่แสดงตอนนี้หรือเปล่า
ชายหนุ่มยกมือขึ้นจับใบหน้าฝั่งที่ถูกตบ เขามองตามร่างเล็กที่วิ่งเข้าไปในบ้านเหมือนแมวกำลังจ้องตะครุบหนูตัวร้าย
“จะรีบไปไหนละคุณเนตร รอว่าที่สามีก่อนสิครับ” ปรมัตถ์เดินตามไปอย่างไม่เร่งร้อน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไวพอคว้าแขนกลมกลึง ออกแรงดึงเล็กน้อยร่างเล็กก็ถลาปลิวกลับมากระแทกเข้ากับอกกว้าง
“ปล่อยฉันนะไอ้หมูสกปรก ได้คนตัวเหม็น” ดาราเนตรกรีดร้อง พลางผลักดันกายแกร่งให้ถอยห่าง แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากแขนที่กอดกระชับจนกระดูกแทบจะแตกหัก
“ไม่ปล่อยจ้ะว่าที่เมียที่รัก ตกลงกันแล้วห้ามผิดคำพูดนะ” ปรมัตถ์ลอยหน้าลอยตาตอบอย่างไม่สนใจเพลิงโทสะจากคนตัวเล็ก ก็เขาตัดสินใจแล้วนี่น่า น่ารักขนาดนี้ ยังฤทธิ์มากจนอยากจะปราบพยศแบบนี้ จะปล่อยไปได้ยังไงกัน ดาราเนตรจะต้องเป็นเขาของ!
ปรมัตถ์แนบจุมพิตลงบนแก้มนวลหอมกรุ่น ไถลเรื่อยไปจนถึงกลีบปากอิ่ม แต่ถูกอีกฝ่ายยกมือมากันไว้ แล้วเบี่ยงหน้าหนีและใช้มือผลักดันจนหน้าเขาหงายขึ้นมองฟ้าอีก
‘อีตาบ้า ยังไม่ได้ตกลงปลงใจเสียหน่อย มาขี้ตู่ได้ไงนี่ฮึ’
ดาราเนตรเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมา ตอนแรกที่ทำลงไปเธอคิดว่าสามารถคุมสถานการณ์ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น
“ใครบอกว่าฉันยอมจดทะเบียนด้วย ฉันต้องการแค่สามีชั่วคราวเท่านั้นแหละยะ” หญิงสาวเน้นคำว่าชั่วคราวเต็มปากเต็มคำ
“แล้วรู้เอาไว้เสียด้วยนะ คุณจะได้ทำหน้าที่สามีบำบัดความใคร่ให้ฉันอย่างมากสุดก็แค่สามเดือนเท่านั้นยะ และเมื่อกี้ฉันก็บอกคุณไปแล้วด้วย คุณยังไม่ผ่านด่านที่ฉันคิดไว้ ยังต้องทดสอบอีกเยอะ”
ใบหน้านวลเชิดขึ้นสูง ทั้งที่ในหัวใจเต้นตึกตักรัวเร็ว เพราะมือชายที่เธอยังไม่รู้จักชื่อไม่ยอมหยุดนิ่ง เคลื่อนไหวพลิ้วไปเหมือนกับสายลมพัดผ่าน แต่แปลกที่ไม่รู้สึกขยะแขยงและขลาดกลัว แล้วยังจะมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
“อื้อฮือ...คุณนี่สุดยอดเลยคุณหนูเนตร ใจถึงจริง ๆ ว่าแต่ไม่กลัวคนอื่นเขาจะว่าเอาหรือไงครับ มีแฟน...คบกับก้นหม้อไม่ทันจะดำเลยเลิกกันแล้ว ถ้าโชคร้ายอีกนิดก็มีเบบี๋ติดท้องด้วย มันดูไม่จืดเลยนะคุณ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ใบหน้าเข้มมีรอยยิ้ม มีเสน่ห์จนคนในอ้อมแขนถึงกับมองตาโต ก่อนแก้มนุ่มจะแดงระเรื่อขึ้นอย่างน่ามอง
“แต่เสียใจด้วยนะคร้าบคุณดาราเนตร ผมไม่คิดที่จะเป็นสามีชั่วคราวของใคร ถ้าเป็นหมายถึงเป็นสามีจริง ๆ และเป็นตลอดไปด้วย” ปลายนิ้วยาวลากไล้จากปลายคางมนเรื่อยไปจนถึงกลีบปากนุ่มอวบอิ่มกดรั้งคลึงเคล้นเล่นอย่างอยู่ไม่สุข
“เอาน่าคุณ การมีสามีไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจเลยนะ แล้วไม่ใช่ว่าจะยกยอตัวเอง ผมรับรองเลยว่าอยู่ด้วยกันแล้วคุณจะหลงรักผมโดยไม่รู้ตัวเชียวละ”