ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ลับร่างชายหนุ่มคนสุดท้ายที่เดินออกจากห้องทำงานของเพื่อนรัก จารุชาก็รีบเดินปรี่ไปหาอย่างเร็วรี่ด้วยอยากรู้คำตอบ โดยไม่แม้แต่จะเคาะประตูบอกให้รู้
“เป็นไงบ้างยายเนตร พอมีใครบอกเข้าตาแกบ้าง” ว่าแล้วหญิงสาวร่างอวบค่อนไปทางเจ้าเนื้อก็นั่งลงบนโต๊ะทำงาน พลางมองเพื่อนตาไม่กะพริบเพราะความอยากรู้ แต่ยายเพื่อนตัวดีกลับไม่ยอมพูดอะไรเลย
“ว่าไง ไหนบอกมาเร็ว ๆ สิ ฉันอยากรู้นะ”
ดาราเนตรเบะปาก สีหน้าเบื่อหน่ายพร้อมส่ายศีรษะอย่างระอาใจ ไม่มีใครเข้าตาเลยสักคน แม้กระทั่งคนสุดท้ายตอนที่เห็นหน้าตาก็ให้รู้สึกว่าใช้ได้อยู่ รูปร่างสูงใหญ่ ท่วงท่าเดินเหินมีสง่าราศี การศึกษาก็ดีอยู่ ใบรับรองทางการแพทย์ที่ยื่นส่งมาก็บ่งบอกถึงสุขภาพทางร่างกายอันสมบูรณ์แข็งแรง พอที่จะเป็นพ่อพันธุ์ได้ แต่...
พอได้คุยนะสิ เสียงก็ดังลั่นอย่างกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน ชอบคุยโวโอ่ตัวเองจนน่าเกลียด ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเป็นคนหยิบโหย่ง ไม่เอาการเอางาน หนักไม่เอาเบาไม่สู้เสียมากกว่า
“อะไร ผู้ชายเกือบสิบคนไม่เข้าตาแกสักคนเลยหรือเนตร” จารุชาถามอย่างข้องใจ
ในสายตาเธอ ก่อนหน้าคนที่จะออกไปเป็นคนสุดท้าย พอใช้ได้ เท่าที่คุยกัน ก็รู้สึกว่าจะเป็นคนอัธยาศัยดี ใจเย็น สุขุม น่าจะพอทำให้ดาราเนตรนั้นตกลงใจที่จะเลือกเป็นคนอยู่เคียงข้างในระยะเวลาสั้น ๆ พอให้ได้เจ้าตัวน้อยสมใจ
“ไม่เลย ไม่เข้าตาเลยสักคน” ดาราเนตรตอบอย่างหนักใจ เวลาก็งวดเข้ามาทุกที แต่เธอยังหาคนที่จะมาเป็นพ่อพันธุ์ปั๊มลูกไม่ได้เลย ครั้นจะให้เลือกโดยไม่คิด มันก็ไม่ได้อีก ก็คนที่เลือกคือคนที่จะต้องมีอะไรกับเธอนี่นา แล้วจะให้เลือกแบบไม่คิดได้ยังไงกันละ
เฮ้อ…หงุดหงิดโว้ย! อยากจะบ้าตายแล้วนะนี่
“แล้วแกจะเอาไง ยอมแต่งงานกับคนที่คุณตาเลือกไหม”
“ไม่!” ดาราเนตรตอบปฏิเสธทันควัน ใบหน้านวลผ่องที่ตอนนี้ดำคร่ำเครียดและบึ้งตึงโน้มลงมาตรงหน้าเพื่อนสาว ปลายนิ้วยาวเรียวยื่นมาสะบัดตรงหน้าจารุชา
“จำไว้เลยนะยายจา แกห้ามพูดแบบนี้เด็ดขาด คนอย่างดาราเนตรไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ยังไงก็ต้องมีคนที่เข้าตาฉันแน่นอน”
“แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะ
“ก็...เอาเหอะน่า ของแบบนี้จะให้รีบได้ยังไงกันล่ะ มันต้องใช้เวลาหน่อยสิ” ดาราเนตรเน้นย้ำ เพื่อให้ตัวเองมั่นใจ จะทำอย่างที่คิดไว้ได้ทันเวลา ทั้งที่เธอนั้นไม่แน่ใจเลย
“พูดอย่างกับแกไม่ร้อนใจอย่างนั้นแหละ”
“แกจะซ้ำเติมหรือช่วยคิดให้ฉันหาคนที่ถูกใจได้กันล่ะ”
“ช่วยจ้า...คุณดาราเนตรเจ้าขา แต่อิฉันก็มิมีปัญหานี่เจ้าค่ะ”
ดาราเนตรอดหัวเราะกับท่าทางทะเล้นของเพื่อนรัก
“แล้วแกเคยเห็นสิ่งที่ฉันทำไม่ได้บ้างหรือเปล่า” ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่ง แต่ทุกอย่างที่คิดทำ มักจะสำเร็จได้อย่างใจหวังตั้งใจเสมอ
จารุชาทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “เท่าที่จำได้ นับตั้งแต่ที่ฉันคบกับแกมา ไม่เคยมีอะไรที่แกทำไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ แต่เรื่องนี้มันต่างไปนะเว้ย ที่เราทำอยู่คือเลือกผู้ชายมาเพื่อ...นอนกับแกนะเว้ย” แค่หลุดปากไปนิดเดียว ไม่คิดว่าดาราเนตรจะจริงจังกับคำพูดที่ว่า...
‘ถ้าไม่อยากแต่งงานกับคนที่คุณตาเลือกให้ แกก็หาเองสิ...พ่อของลูกชั่วคราวน่าจะหาได้ไม่ยาก”
“เออ...รู้แล้ว แกไม่ต้องย้ำมากก็ได้” ดาราเนตรสบถด้วยหงุดหงิด
“แกคิดบ้างหรือเปล่า คนที่คุณตาเลือกให้อาจจะเป็นคนดี สามารถดูแลแกและทำให้แกมีความก็ได้”
ฮึ! เสียงขลุกขลักดังจากลำคอดาราเนตร “แล้วแกไม่คิดบ้างเหรอ ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนเขาให้คุณตาฉันบังคับให้มาแต่งงานกับฉันล่ะ อีกอย่างนะจา ฉันไม่เคยเจอผู้ชายดี ๆ อย่างที่แกว่าเลยสักคน อ๋อ...ยกเว้นคุณตาฉันไว้หนึ่งคน”
จารุชาส่ายศีรษะด้วยอิดหนาระอาใจแกมเหนื่อยใจ ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูดเพื่อให้ดาราเนตรเปลี่ยนความคิด
“เชื่อเถอะยายจา ไม่ว่ายากแค่ไหน ฉันก็จะต้องทำได้แน่นอน”
มันต้องมีทางแน่นอน...สิ่งที่เธอหวัง จะต้องสำเร็จ เรื่องนี้ก็เช่นกัน...ครั้งนี้ไม่ได้ ก็ลองมันอีกครั้งสิ มันก็ไม่แน่ อยู่ดี ๆ โชคอาจจะแล่นเข้ามาหาแบบว่าไม่ต้องวิ่งตามไล่ล่าแต่ได้คนที่เธอพอจะรับได้มาทำรับตำแหน่งสามีชั่วคราวก็ได้ใครจะไปรู้ละ
ก่อนหน้านั่น 2 อาทิตย์
“แกจะเดินไปเดินมาให้ฉันปวดหัวด้วยอีกคนหรือไงกันจ้ะคุณดาราเนตรเจ้าขา” จารุชาเรียกชื่อจริงแทนชื่อเล่นของผู้เป็นเพื่อนที่เดินวนไปเวียนมาพาให้เธอเริ่มจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ
“ก็คนมันกลุ้มใจนี่หว่า แกจะให้อารมณ์ดีหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอย่างแกได้ยังไง” ดาราเนตรตอบเพื่อนเสียงขุ่น ใบหน้ารูปไข่หงิกงอบึ้งตึงจนริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อแทบจะติดปลายจมูกเล็กโด่งเป็นสันอยู่แล้ว ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอนฉายแววเจิดจ้า ทั้งโกรธและอึดอัดคับแค้นใจ เธอข่มกัดฟันจนมีเสียงดังกรอด ๆ
‘เป็นเพราะคุณตากับไอ้พินัยกรรมบ้า ๆ นั่นแท้ ๆ เชียว ที่ทำให้เธอหงุดหงิด อึดอัดใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แบบนี้ นำความมาบอกเล่าจารุชาว่าผู้เป็นตาได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ว่าให้เธอแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกไว้หรือไม่ก็ตั้งท้องภายในเวลาที่ท่านกำหนด หากนอกจากจารุชาจะไม่ช่วยคิดหาทางออกให้แล้ว ยายเพื่อนตัวดีกลับหัวเราะจนท้องคับท้องแข็ง หน้าตาแดงเป็นตูดลิงไปได้’
“แกจะให้ฉันฉีกยิ้มอย่างกับโลกนี้ไม่มีความทุกข์ได้ยังไงกัน ก็รู้อยู่ว่าพินัยกรรมทำพิษนั่นกำลังจะทำให้ฉันประสาทกิน เพราะจะต้องแต่งงานกับใครก็ไม่รู้”
ดาราเนตรตวาดใส่เพื่อนเสียงแหลมอย่างไม่กลัวว่าจารุชาจะโกรธ ก็คนมันหงุดหงิดและกลุ้มใจอยู่นี่น่า คิดจนหัวแทบจะแตกแล้วแต่มันก็มองไม่เห็นทางออกของปัญหาเลย
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงฉันก็ยังไม่เคยเห็นหน้าคาตามาก่อน ไม่เคยรู้จักมักจี่...แต่จะต้องมาแต่งงาน นอนร่วมเตียงเดียวกัน เป็นแกจะทำใจได้ไหม แล้วไอ้บ้านั่นยังจะแตะเนื้อต้องตัวฉันอีก อี๋...คิดแล้วขนลุก หยักแหยงจะตาย”
เพียงแค่พูดว่าจะมีใครมาแตะต้องร่างกายอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้ราคีคาว ดาราเนตรก็ขนลุกซู่ นึกอยากจะผูกคอตายวันละหลายรอบแล้ว ถ้าหน้าตาหล่อเหล่า หุ่นที่เห็นแล้วก็ขยี้ใจสาวแบบพระเอกละครไทยช่องน้อยสีที่กำลังมีผลงานจนโด่งดังเป็นพลุแตกอยู่ตอนนี้ก็ว่าไปอย่าง เธอพอจะทำใจได้บ้างอยู่หรอกนะ
แต่ถ้าคนที่เธอจะต้องร่วมหอลงโรงด้วยเป็นไอ้พวกโรคจิต ชอบทำให้เจ็บตัวก่อนที่จะมีอะไรด้วย หุ่นยังกับไม่เสียบผี หน้าตาอุบาทว์อย่างฟันเหยินออกมานอกปากหนา ๆ ตาปูดโปน จมูกยื่นออกมาราวกับปากเป็ดและงองุ้มอย่างกับแม่มดในนิทานล่ะ แค่กลางวันก็ยังชวนให้ขนหัวลุก เห็นตอนกลางคืนเธอไม่ช็อกตายก่อนจะได้ลูกหรือไงกัน แล้วไอ้ผู้ชายที่ต้องใช้ตัวช่วยแบบนี้นะ เชื่อได้เลยไม่ป่วยใกล้ตาย ก็หน้าตายิ่งกว่าผีเปรตแน่นอน!
‘คุณตานะคุณตา ไม่น่าหาเหามาใส่หัวให้หลานเลย ไม่ค่อยจะรักกันเธอก็ไม่ว่า แต่ดันเอาเหาตัวเท่าเป้งมาใส่หัวไว้อีกต่างหาก คิดแล้วมันกลุ้มจนหัวสมองแทบจะระเบิดแล้วนะนี่ โอ้ย! อยากจะบ้าเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป’