ผมรีบตื่นนอนแต่เช้าเพื่อออกไปรอคุณฝนที่ท่าเรือ ผมลงเรียนหลักสูตรดำน้ำนี้มา 6 เดือนกว่าแล้วตั้งแต่ที่ได้รู้จักเธอ ถึงผมจะสามารถดำน้ำลึกได้แล้วแต่ผมก็ยังอยากจะเรียน แค่ได้ใกล้ชิดคนคุณฝนก็เท่านั้น ผมตั้งใจแล้วว่า 2 วันนี้ผมจะขอคุณฝนเป็นแฟนให้ได้
“มาแล้วหรอคะ...”
“ครับ..วันนี้คุณฝนจะพาผมไปเรียนดำน้ำที่ไหนหรอครับ...?”
“ยังค่ะ ฝนต้องรอเพื่อนอีกคนก่อน พอดีเพื่อนฝนอยากมาเรียนดำน้ำกับฝนด้วยนะคะ เดี๋ยวรอเพื่อนฝนสักครู่นะคะ...”
“ครับ.”
เพื่อนคุณฝนคงจะเป็นผู้หญิงสินะ ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกไม่ชอบใจก็เถอะที่ไม่ได้ไปกับเธอ 2 คน แต่ไม่เป็นไร
“มาแล้วค่ะ.”
ผมหันไปมองตามเสียงที่เธอบอกถึงกับอ้าปากค้าง
“นี่ปีเตอร์ค่ะ เพื่อนของฝนเอง....”
ไม่ใช่เพื่อนผู้หญิงแต่เป็นเพื่อนผู้ชายที่หล่อเอามากๆเลย หน้าตาหุ่นอย่างกะนายแบบ
“สวัสดีครับ ผมปีเตอร์ครับ...”
“สวัสดีครับ ผมชายแดนครับ”
“ปีเตอร์มาอยู่เมืองไทยได้ 3 เดือนแล้วค่ะ อยากมาเรียนดำน้ำกับฝนหลายครั้งแล้วพอดีวันนี้ว่างก็เลยมา คุณชายแดนไม่ถือสานะคะถ้าฝนจะพาปีเตอร์ไปด้วยอีกคน เพราะยังไงซะคุณชายแดนก็ดำน้ำเป็นอยู่แล้ว...”
“คุณชายแดนดำน้ำเป็นหรอ แล้วทำไมถึงต้องมาเรียนกับยูอีกละ...?”
เพื่อนของคุณฝนหันไปถามคุณฝนด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษ
“ถามคุณชายแดนสิ ไอก็ไม่รู้เหมือนกัน..”
คุณฝนหันมามองหน้าผมแต่จะให้ผมพูดยังไงละ
“ผมมาเรียนเดือนละครั้งนะครับ แต่มีเวลาเรียนแค่ 1-2 วันเองยังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ผมเลยอยากเรียนเบื้องต้นให้คล่องก่อน...”
“...”
คุณฝนยิ้มให้ผมแล้วก็หันไปยิ้มกับเพื่อนของเธอ
“ผมก็นึกว่าคุณชายแดนจะจีบฝนซะอีก..?”
“คุณชายแดนเขามีคู่หมั้นแล้วนะปีเตอร์ เขาจีบฝนไม่ได้หรอก..”
“คู่หมั้นคืออะไร ไอไม่เข้าใจ..?”
เพื่อนเธอถามเป็นภาษาอังกฤษด้วยความสงสัย
“ภรรยาในอนาคตของคุณชายแดนเขานะ...”
เธอตอบเขากลับเป็นภาษาอังกฤษ แล้วหันมามองหน้าผมแล้วก็ยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนที่จำเดินนำไปที่เรือ
“ไปกันเถอะ มัวแต่ยืนคุยเดี๋ยวก็ไม่ได้ดำน้ำกันพอดี.”
คุณฝนเดินนำพวกเรา 2 คนไป โดยมีคุณปีเตอร์เดินตามไปอีกคน ผมมองตามหลังของทั้ง 2 คนที่พูดคุยกันด้วยความสนุกสนานตลอดการเดินทางก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เรื่องที่เธอพูดบนท่าเรือ เธอรู้อยู่แล้วเรื่องคู่หมั้นผม ผมไม่ได้เต็มใจอยากหมั้นหรือคิดอยากแต่งงาน และเธอก็รู้ว่าผมชอบเธอเพราะผมแสดงออกขนาดนี้ และเรื่องที่ผมอยากจะถอนหมั้นคู่หมั้นของผมใจจะขาดอีก แต่ทำไมเธอต้องพูดแบบนี้ด้วย
“ยูต้องหายใจทางปากนะ ห้ามหายใจทางจมูกเด็ดขาดไม่งั้นหน้ากากยูจะเป็นฝ้า อะลองใส่ดู..”
เธอสอนคุณปีเตอร์ให้ทำตามที่เธอบอกโดยที่ผมนั่งมองดูด้วยความหมั่นไส้
“คุณชายแดนใส่เป็นแล้วใช่ไหมคะ..?”
“ครับ ผมใส่เป็น”
“ดีค่ะ..”
เธอพูดจบก็หันหน้าหนีไปดูคุณปีเตอร์ต่อโดยที่ไม่สนใจผมอีกเลย และตลอดการดำน้ำเธอก็เอาแต่คอยดูเพื่อนเธอไม่ห่าง
“ค่อยๆหย่อนขาลงไปนะ ยูลงไปก่อนนะเดี๋ยวจะมีพี่อีกคนอยู่ใต้น้ำกับยู เดี๋ยวไอตามลงไป...”
เธอพูดจบก็ปล่อยให้คุณปีเตอร์ลงไปในน้ำช้าๆ กับพี่เจ้าหน้าที่อีกคนที่มาด้วยกัน เธอหันมาหาผมที่กำลังนั่งอยู่
“คุณชายแดนพร้อมไหมคะ..?”
เธอกำลังใส่เสื้อดำน้ำจากตอนแรกที่ใส่แค่ครึ่งตัว เธอรูทซิปชุดดำน้ำจนเสร็จกำลังจะหยิบหน้ากากดำน้ำขึ้นมาใส่
“คุณรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ แต่คุณก็ยังทำเหมือนไม่รู้..”
“ฝนไม่รู้ค่ะ ว่าคุณพูดถึงอะไร..?”
“ที่ผมมาเรียนดำน้ำกับคุณทุกเดือน คุณไม่รู้จริงๆหรอว่าผมรู้สึกยังไง คุณแกล้งทำเป็นไม่รู้มากกว่า.?”
“เราลงน้ำกันดีกว่านะคะ ฝนต้องลงไปดูปีเตอร์”
เธอกำลังจะเดินหนีผมไปที่บันไดเรือ แต่ผมคว้าแขนเธอไว้ก่อน
“ผมชอบคุณนะครับคุณฝน..”
“....”
“ผมชอบคุณมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ยิ่งได้คุย ได้รู้จักผมก็ยิ่งชอบคุณมากขึ้นเรื่อยๆ”
“คุณจะชอบฝนได้ยังไง ในเมื่อคุณยังไม่รู้จักฝนดีพอเลยนะคะ..”
“ผมชอบที่ตัวคุณเป็นคุณ ผมไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคุณเป็นใครหรือมาจากไหนนี่ครับ...”
“แต่คุณมีคู่หมั้นแล้วนะคะ..”
“ผมจะถอนหมั้นกับเธอ อีกแค่ 2 เดือนเธอก็จะกลับมาแล้ว ผมจะถอนหมั้นกับเธอแล้วเราจะคบกัน..”
“ฝนว่าเราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังดีกว่านะคะ.”
เธอจะเดินหนีผมแต่ผมรู้สึกขัดใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ฟังความในใจผมแล้วเธอยังจะเดินหนีผมอีก
“คุณฝน.”
“โอ๊ย!.คุณชายแดน ปล่อยฝนนะคะ...”
ผมดึงตัวเธอให้เข้ามาใกล้แล้วกอดเธอจนแน่นดันตัวเธอไปชิดกับหลังคาเรือ
“ผมชอบคุณจริงๆนะครับ..”
“แต่คุณมีคู่หมั้นแล้วนะคะ ปล่อยฝนค่ะ...”
ผมเอาตัวเองดันตัวเธอไว้ไม่ให้ขยับ หน้าผมชิดกับใบหน้าเธอมากจนเธอต้องหันหนี แล้วใช้มือดันอกผมให้ออกห่าง
“แค่คุณบอกว่ารู้สึกยังไงกับผม ผมยินดีที่จะขอถอนหมั้นคู่หมั้นผมวันนี้เลยก็ได้...”
“แล้วคุณไม่กลัวพ่อแม่คุณจะโกรธหรอคะ..?”
“ผมไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ผมแคร์แค่คุณคนเดียว.”
“คู่หมั้นคุณถ้าเธอรู้เธอคงจะเสียใจมาก..”
“ผมไม่สนว่าเธอจะรู้สึกยังไง เพราะผมไม่ได้ชอบเธอ คนที่ผมชอบคือคุณคนเดียว...”
.....
ชายแดนใช้จังหวะที่เธอหันหน้ามาสบตาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากบางของเธออย่างดูดดื่ม เธอพยายามดิ้นขัดขืนและพยายามใช้มือดันตัวเขาให้ออกห่างแต่ก็ไม่เป็นผล เขาจับใบหน้าเธอล็อกไว้ด้วยอุ้งมือทั้ง 2 ข้างประคองไว้แน่นไม่ให้เธอขยับหนี
“อื้มมม....”
เขาเริ่มได้ใจมากขึ้นเพราะเธอไม่ได้ขัดขืนอะไร
แกร๊ก...
ทั้ง 2 คนรีบเด้งตัวออกห่างจากกันทันที เพราะได้ยินเหมือนเสียงใครสักคนกำลังจับราวบันไดเรืออยู่
“คุณฝนครับ ผมว่าวันนี้เราคงต้องกลับกันแล้วละครับ..ใต้ทะเลคลื่นแรงมากเลย”
เธอหันไปมองหน้าชายแดนแล้วตัดสินใจบอกผู้ช่วยของเธอที่มาด้วยกัน
“ได้ค่ะ แล้วปีเตอร์ละคะ..?”
“ไออยู่นี่...ยูบอกจะตามลงไป ไอก็รอตั้งนาน”
“เอ่อ..”
“แต่ดีแล้วที่ยูไม่ได้ลงไป ไอมองอะไรไม่เห็นเลย คลื่นใต้น้ำแรงมาก..”
“งั้นเรารีบกลับกันเถอะ สงสัยคืนนี้พายุจะเข้า..”
ทุกคนพยักหน้าให้ และต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปนั่งคนละจุด ชายแดนคอยแอบมองเธอตลอดเวลา แล้วก็แอบยิ้มที่เธอดูจะเต็มใจที่เขาทำแบบนี้และคิดว่าเธอก็คงจะมีใจให้เขาอยู่บ้าง