วันรุ่งขึ้น
ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อรีบออกมาที่ท่าเรือ เพราะวันนี้ผมยังต้องเรียนดำน้ำกับคุณฝนอีกเป็นวันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าผมจะต้องขอเธอเป็นแฟนให้ได้
“คุณชายแดนมาพอดีเลย...”
“ครับ แล้วนี่คุณฝนยังไม่มาหรอครับ...?”
“วันนี้เราคงจะไปดำน้ำกันไม่ได้ เพราะเมื่อคืนนี้พายุเข้าและเช้านี้อากาศก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วยนะครับ..”
“แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงครับ.?”
“ผมจะทำเรื่องค*****นให้คุณชายแดน เพราะเมื่อวานนี้ก็เห็นว่าไม่ได้เรียนกันเลยเพราะใต้น้ำคลื่นแรงด้วยใช่ไหมครับ.?"
“ผมว่าเอาไว้บ่ายๆก็ได้นะครับ เราค่อยออกไปเรียนกันก็ได้”
“ไม่ได้หรอกครับ เพราะวันนี้ทั้งวันอากาศน่าจะเป็นแบบนี้...”
“แล้วคุณฝนละครับ...?”
“ฝนน่าจะพาเพื่อนไปเที่ยวในเมืองแล้วนะครับ..”
“อ้าว!..ทำไมคุณฝนถึงไม่มแจ้งผมเองละครับ”
“ต้องขอโทษทีนะครับ..”
ผมรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่คุณฝนทำกับผมแบบนี้ เธอไม่ยอมมาบอกผมด้วยตัวของเธอเอง แถมยังหนีไปเที่ยวกับเพื่อนโดยที่ไม่สนใจผมอีก
ผมนั่งอยู่ในออฟฟิศของพี่เจษตั้งแต่เช้า เพื่อรอดูว่าคุณฝนจะกลับมาเมื่อไหร่ ผมไม่รู้จะติดต่อเธอยังไงพยายามขอเบอร์ส่วนตัวจากพี่เจษแล้วเขาก็ให้มาแต่เบอร์ออฟฟิศ ที่พี่เจษแจกให้ใช้คนละเครื่องแต่ถ้าเป็นวันหยุดเธอก็จะปิดเครื่องไม่รับสายใคร
“คุณชายแดนครับ ผมว่าฝนคงไม่กลับมาที่นี่แล้วละ คุณชายแดนไม่ต้องรอฝนแล้วละครับ...”
พี่เจษเดินเข้ามาหาผมเพราะเห็นว่านี่ก็บ่ายแล้วที่ผมยังนั่งอยู่ไม่ไปไหน
“พี่เจษไม่มีเบอร์ส่วนตัวเบอร์อื่นของคุณฝนจริงๆหรอครับ...?”
“ไม่มีจริงๆครับ ปกติผมก็ติดต่อผ่านเบอร์นี้ของฝนตลอด...”
“ไลน์ละครับ พี่เจษมีไลน์ของคุณฝนไหม..?”
“ไม่มีหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะโทรคุยกันมากกว่า”
ผมรู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมคุณฝนถึงดูเป็นคนลึกลับขนาดนี้ ทำไมพี่เจษถึงไม่มีเบอร์ส่วนตัวเธอไม่มีไลน์ของเธอ
ผมพยายามติดต่อหาคุณฝนตลอดทั้งวัน แต่เธอก็ไม่เปิดเครื่องเลย ผมรู้สึกหงุดหงิดมากที่ติดต่อเธอไม่ได้ ออกไปเดินรอบๆหาดหวังว่าจะได้เจอเธอ หรือไปตามที่ต่างๆทั่วภูเก็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวผมก็ไม่เจอเธอกับเพื่อนเลย
“คุณฝน คุณหายไปไหนของคุณนะ...”
ผมกลับมาถึงโรงแรมในตอนกลางคืน ก่อนที่ผมจะเดินมาถึงโรงแรมผมก็แวะไปที่ออฟฟิศเพื่อดูว่าคุณฝนกลับมาหรือยังแต่ก็ไม่เจอเธอ ผมกลับมานอนคิดทั้งคืนว่าเธอหายไปไหน ทำไมพี่เจษถึงไม่มีข้อมูลที่อยู่ของเธอ เพราะตามที่อยู่ที่พี่เจษบอกผม ผมก็ไปหามาแล้วแต่เธอไม่ได้อยู่ที่นั้น ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเธอถึงหายไปง่ายๆแบบนี้
Miss Call >> จากแม่
กริ๊งงงง กริ๊งงงง
“แกกลับมาจากภูเก็ตหรือยัง..?"
"ยังครับ.."
"รีบกลับมาบ้านได้แล้ว พ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยกับแก..”
“เรื่องอะไรครับ...?”
“ไม่ต้องถาม รีบกลับมาให้ด่วนที่สุด...”
ผมวางหูอย่างรู้สึกแปลกใจ เกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆแม่ผมถึงได้เสียงแปลกๆ หรือว่าจะเป็นเพราะยัยอ้วนนั่นไปฟ้องแม่ที่ผมขอถอนหมั้นกับเธอ
....
กรุงเทพฯ
ผมคิดมาตลอดทางว่าที่แม่เรียกผมกลับบ้านมาด่วนคงจะหนีไม่พ้นเรื่องยัยอลิสแน่ๆ เพราะตั้งแต่วันที่ผมขอถอนหมั้นกับเธอแล้วบอกว่าผมรักคนอื่นอลิสก็เงียบหายไปเลย
“มาแล้วหรอ.?.”
"พ่อกับแม่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ..?"
“แกไปขอถอนหมั้นหนูอลิสหรอ.?”
ผมยังไม่ทันได้นั่งพ่อก็ถามผมเสียงเข้มเลย
“อลิสคงมาฟ้องพ่อกับแม่แล้วสิ..?”
“แกมีสิทธิ์อะไรไปขอถอนหมั้นน้อง..?”
“สิทธิ์ที่ผมโตพอที่จะเลือกคู่ครองของตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่ให้พ่อแม่มาเลือกให้ผม...”
ผมพูดตอบด้วยคำพูดนิ่งๆ เพื่อต้องการจะอธิบายให้ท่านฟังด้วยเหตุผล
“แดน...ทำไมลูกพูดแบบนี้..?”
“ผมไม่ได้รักอลิสครับ ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว”
“เธอเป็นใคร มีหัวนอนปลายเท้ายังไงไหนแกบอกมาสิ...?”
พ่อถามผมเสียงเริ่มไม่พอใจ
“....”
ผมนิ่งไป เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอมีหัวนอนปลายเท้ามาจากที่ไหน นอกจากชื่อที่ผมเรียกเธอ
“หนูอลิสเขาเสียใจมากที่แดนขอถอนหมั้นไปแบบนั้น อลิสจึงขอเลื่อนกลับไทยมาเร็วขึ้นเป็นปลายเดือนนี้ แล้วจะมาคืนแหวนหมั้นพร้อมทั้งของหมั้นทุกอย่างด้วยตัวอลิสเอง...”
แม่หันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจนัก
“ถ้าแกโตพอ แกก็เป็นคนไปบอกกับพ่อแม่แล้วก็หนูอลิสเองก็แล้วกัน ว่าแกจะขอถอนหมั้นหนูอลิสเขา...”
พ่อพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูโมโห แะพ่อก็ไม่ยอมมองหน้าผมเลย
“ในเมื่อแดนเลือกผู้หญิงคนนั้น พ่อกับแม่ก็จะไม่ขัด...แต่แดนต้องไปบอกหนูอลิสด้วยตัวของแดนเอง”
“ครับ...ผมจะบอกกับอลิสพร้อมทั้งคุณอาทั้ง 2 ด้วยตัวของผมเอง...”
“แกคิดดีแล้วนะ...?”
“ครับ ผมคิดดีแล้ว”
“อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน...”