ตอนที่ 9 ไม่มีวันอกหัก

1187 คำ
คฤหาสน์ ทินกร “อาหารเย็นพร้อมแล้วปืน คุณน้ามายให้มาตาม” “อือ เสร็จพอดี” ปืนกันส่งยิ้มให้เพื่อนสาวคนสนิทพลางเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูเข้ากระเป๋ากางเกงยีน แล้วสาวเท้าเดินกลับเข้าบ้าน ซึ่งผู้เป็นพ่อ ผู้เป็นแม่ รวมถึงผู้ให้กำเนิดของเพื่อนสาวคนสนิทนั่งรอในห้องอาหาร ส่วนพอร์ชขอตัวกลับไปก่อนเพราะติดธุระสำคัญ “ทานเยอะ ๆ นะหนูชมพู” พิรดากล่าวกับหลานสาวที่เห็นหน้ามาตั้งแต่ยังเป็นทารก เธอนั่งตรงข้ามกับสามีและด้านข้างคือเมษาภรรยาของแทนที่นั่งข้างกับสามี ส่วนลูกชายนั่งข้างแทนตรงข้ามกับหลานสาว “ค่ะคุณน้า ชมพูคิดถึงอาหารไทยฝีมือคุณแม่กับคุณน้าที่สุดเลยค่ะ” พิรดาและเมษาหันมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กับคำตอบชมพู “หนูชมพูจะกลับมาอยู่ไทยถาวรเมื่อไหร่?” ทินกรกล่าวถาม ชมพูที่กำลังจะอ้าปากตอบกลับต้องหุบลงเป็นเส้นตรงเมื่อผู้เป็นพ่อเอ่ยแทรกขึ้น ซึ่งเธอไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ “คงอยู่ที่นู่นถาวรครับ ผมยกบริษัทสาขาสองให้ชมพูดูแลต่อจากผม” “กูไม่ได้ถามมึงไอ้แทนอย่าเสือกตอบแทนหลานกูดิ!” แทนตีหน้ามึนไหวไหล่อย่างไม่สะท้านกับสายตาอำมหิตที่มาเฟียใหญ่จ้องมอง ทินกรเห็นอย่างนั้นก็ส่ายหน้าเอือมระอาแล้วกล่าวถามความเห็นจากหลานสาวอีกครั้ง “จริงอย่างที่พ่อหนูว่าไหม?” “คงต้องอย่างนั้นแล้วค่ะคุณอา” “ดูเธออยากอยู่ไทยมากกว่าอยู่เมกานะ” ปืนกันที่สังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวจึงเอ่ยออกไป ทำให้ผู้เป็นอาตวัดสายตามองมาอย่างคาดโทษทันที แต่เขาก็ไหวไหล่พลางตักอาหารเข้าปากแทน ทำไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่ตัวเองพูด ส่วนชมพูก็นั่งทานข้าวอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้เอ่ยอะไรกระทั่งรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จ “...” “เรียนเป็นยังไงบ้างปืน?” ขณะเดินออกมาสวนหน้าบ้านรับบรรยากาศอันสดชื่นในยามค่ำคืน ที่ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป “ก็เรื่อย ๆ แหละ เทอมหน้าก็ฝึกงานแล้วแม่ง!โคตรขี้เกียจ” “หึ แค่สามเดือนเองเร็วจะตาย” “เธอล่ะจะอยู่เมกาถาวรจริง ๆ เหรอ?” ปืนกันหยุดเดินแล้วหันไปสบตากับเพื่อนสาวคนสนิทแววตาจริงจังกว่าทุกครั้ง ชมพูพ่นลมหายใจพลางหลุบตามองต่ำครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นตอบ “อืม! ฉันไม่อยากขัดใจพ่อน่ะ” “บางอย่างขัดใจบ้างก็ได้นะ ฝืนไปก็ไม่มีความสุข ชีวิตเป็นของเธอ...เธอมีสิทธิ์ทำตามที่ใจต้องการ” “หึ ๆ นั่นสิเนอะ ลองดูก่อนสักปีถ้าไม่สนุกจริง ๆ ค่อยกลับไทย” “อือ ฉันจะรอวันที่เธอกลับมา” “อื้ม!” ปืนกันมองตามหลังเพื่อนสาวคนสนิทที่เดินนำไปยังเก้าอี้นั่งในสวนแววตาหม่นลงเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าเดินตามไป หลายวันต่อมา @สนามแข่งรถ BG ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ผมเข้าไปได้ไหมครับนายน้อย?” ขณะที่เพลงเศร้ากำลังบรรเลงไปอย่างได้อารมณ์ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำลายความขุ่นมัวในใจ ตามด้วยเสียงของลูกน้องคนสนิท ปืนกันที่อยู่ในท่าเอ็นหลังพิงพนักเก้าอี้ เหยียดท่อนขาพาดบนโต๊ะทำงาน ส่งเสียงในปากอย่างรำคาญก่อนจะเอ่ยตอบออกไปพลางแกว่งแก้ววิสกี้ในมือวน ๆ “เข้ามา” ประตูห้องทำงานถูกผลักเข้ามาในทันที เดเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานแล้วโค้งศีรษะทำความเคารพนายน้อย ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ต้องแจ้งออกไป “นายใหญ่ฝากมาว่าให้นายน้อยไปส่งสินค้าแทนคืนนี้ครับ” ปั่ก! “อือ มึงไปเอาเหล้ามาให้กูอีกขวดดิ” ปืนกันเอาขาลงจากโต๊ะทำงานแล้ววางกระแทกแก้วเปล่าลงบนโต๊ะทำงาน “ผมว่านายน้อยพอก่อนไหมครับ เดี๋ยวคืนนี้จะไปส่งของไม่ไหวเอานะครับ” เดเอ่ยออกไปอย่างหวังดี เนื่องจากขวดวิสกี้ที่นายน้อยดื่มหมดไปแล้ววางเรียงกันบนโต๊ะทำงานถึงสองขวดด้วยกัน แม้ว่าผู้เป็นนายจะคอแข็งมากก็ตาม แต่หากดื่มไปอีกขวดสติคงลดลงมากพอสมควร “ไปเอามาให้กู” เสียงลอดไรฟันที่เปล่งออกมาจากปากนายน้อยพร้อมกับแววตาน่ากลัวจ้องเขม็งอย่างกดดัน ทำให้เดไม่กล้าขัดใจ ทำได้เพียงโค้งศีรษะน้อมรับคำสั่งแล้วเดินออกไป โดยที่ภายในใจเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ตลอดสี่วันที่ผ่านมานายน้อยเอาแต่ดื่มจนเมามาย หนำซ้ำยังไม่ไปเรียน ทำตัวเสเพลราวกับคนอกหัก “...” ลูกน้องคนสนิทออกไปได้ไม่ทันไรบานประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเข้ามาอย่างถือวิสาสะ “เอาเวลามานั่งกินเหล้าไปเรียนดีกว่าไหม กูขี้เกียจเอางานมาให้มึงแล้ว” ไตรบ่นพร้อมกับวางใบงานวิชาต่าง ๆ ของวันนี้ไว้บนโต๊ะให้กับเพื่อนสนิท แล้วเลื่อนเก้าอี้ออกกระแทกตัวนั่ง ปืนกันหลุบตามองกระดาษเอสี่บนโต๊ะนิ่งครู่หนึ่ง “มึงมีอะไรจะพูดอีกไหม?” “ถามแบบนี้จะไล่กู?” “กูอยากอยู่คนเดียว” “พูดอย่างกับคนอกหักงั้นแหละ ไหนจะไอ้เพลงเศร้าพวกนี้อีก” “กูไม่มีวันอกหัก” “อย่ามั่นหน้าให้มากนักไอ้สัส มึงมัวแต่นั่งดื่มอยู่อย่างนี้แพ้พนันพวกกูไม่รู้ด้วยนะ อีกไม่กี่วันจะครบอาทิตย์อย่างที่มึงเคยประกาศไว้แล้วหนิ ได้กินอาจารย์คนสวยยังวะ ได้แค่จูบไม่นับนะโว้ย!” ปืนกันฟังอยู่เงียบ ๆ พลางดันปลายลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มไปมาอย่างวิตกไม่น้อย จากสถานการณ์เมื่อหลายวันก่อน เขาสามารถทำให้อาจารย์สาวคล้อยตามได้ไม่ยาก หากเดินหน้ารุกเต็มกำลังอีกหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังวางใจไม่ได้ “อย่าให้เสียชื่อปืนกันสามวันปิดจ๊อบก็แล้วกัน ถึงครั้งนี้ไม่นับก็เถอะ” ประโยคของเพื่อนสนิททำให้ปืนกันรู้สึกกดดันและหนักใจไม่น้อย ซึ่งเรื่องผู้หญิงไม่เคยมีครั้งไหนที่ต้องคิดแผนการให้เปลือกสมองมากเท่าอาจารย์สาวที่จืดชืดไร้รสชาติมาก่อน แต่ระหว่างบทสนทนาลูกน้องคนสนิทก็นำวิสกี้มาเสิร์ฟแล้วเดินออกไป “พูดจบแล้วก็กลับไป” “มึงไล่กูสองครั้งแล้วนะไอ้สัส!” ไตรแหวใส่แต่เมื่อเจอกับสายตาจริงจังของเพื่อนสนิทที่มองมาแสดงถึงความต้องการอยู่คนเดียวจริง ๆ จึงเลือกที่จะยอมไปแต่โดยดี “เออไปก็ได้วะ เอ่อ!ไอ้ปืนกูลืมบอกมึงไปเรื่องหนึ่ง” “อะไร?” “อาจารย์ภีมดูเหมือนชอบเหยื่อมึงเลยว่ะ เห็นตามวอแวมาสองสามวันแล้ว” ปืนกันกัดฟันกรอกพลางกำหมัดแน่นอย่างหัวเสียทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวจากเพื่อนสนิท อารมณ์เศร้าก่อนหน้านั้นถูกอารมณ์โกรธเข้าแทรกในทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม