ตอนที่ 6.5

1943 คำ
“หืม... พอทำก็ด่าว่าเลว ไม่ทำก็หาว่าใจร้าย ท่านซายูริที่เอาใจอยากจริงแฮะ” ปลายนิ้วเลื่อนมาแตะที่แก้ม ฉันเบือนหน้าออกห่างทันที แต่คาวะก็จับโดนอยู่ดี เขาบีบแก้มฉันให้หันกลับไปเผชิญหน้ากัน “ปล่อย” “อย่าร้องไห้สิ เป็นผู้นำคนจะมาเสียน้ำตาง่ายๆ ได้ยังไง” “ไม่ต้องมาสอน ออกไปให้พ้น” “ถ้าไปแล้วซายูริจะทำยังไงกับตรงนี้เหรอ” นิ้วคาวะกดย้ำเข้ามาในช่องทางรักวูบโหวง ไร้ซึ่งการเติมเต็ม กระดกขึ้นลงอย่างไม่ปรานีปราศรัย ฉันสะกดกลั้นความเสียวที่ลุกฮือไปทั่วร่าง เม้มปากแน่นไม่ให้เสียงครางเล็ดลอด  หากแต่ข้างในกลับบีบรัดรุนแรง ตอบรับนิ้วที่กำลังรูดรั้งเข้าออกอย่างหยาบกระด้างของคาวะ ฉันสูดหายใจลึก กัดฟันฝืนความรู้สึกตัวเอง “ฉันไม่... ไม่ต้องให้คนอย่างนายช่วย” “ทำเอง?” “ไอ้บ้า! ออกไป...” คาวะเอานิ้วออกจริงๆ แต่... เขาเอื้อมไปหยิบปากการาคาแพงของคุณพ่อมาทำไม  “จะ จะทำอะไรน่ะ!” ฉันลนลานลุกขึ้นมองปากกาโลหะสีทองในมือคาวะอย่างไม่ไว้ใจ คาวะหรี่ตามองด้ามปากกาในมือก่อนกระตุกยิ้มเยือกเย็น  “ลองนี่แทนก็แล้วกัน”  “เฮือก! อะไร... ไม่นะ หยุด อย้าย๊ายยยย”  ฉันมองปากกาที่เขายกขึ้นมาให้ดูอย่างใจหายใจคว่ำ ดิ้นพราดๆ หัวใจสั่นระรัว ทั้งเกลียดทั้งกลัวแค่คิดก็รู้สึกเจ็บแล้ว คาวะผลักฉันลงบนโต๊ะ แยกเรียวขาฉันออกจากกันดันร่างหนาเข้ามาอยู่ตรงกลางเพื่อปิดช่องไม่ให้ฉันหุบขาลงได้ ก่อนจะตรึงข้อมือทั้งสองข้างของฉันด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างก็จับปากกาเข้ามาเบียดชิด ฉันร้องลั่นทันทีที่ด้ามปากกาถูไถกับเนื้อสาวที่บอบบาง “ชู่ววว อยากให้คนอื่นได้ยินเหรอ” เขากระซิบเตือนข้างใบหูยังคงเขี่ยปากกาไล้วนไม่หยุด ลมหายใจฉันสะดุดเฮือก ลืมคิดไปว่าถ้าคนอื่นรู้เข้ามันจะเป็นยังไง ฉันคงอายจนไม่กล้ามองหน้าใครในบ้านนี้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ หัวปากกาดุนดันอยู่ตรงช่องทางรักทำสติฉันแทบแตกกระเจิง ถึงปากกาจะเล็กแต่ก็แข็งมาก แม้ไม่รู้สึกเติมเต็มแต่ก็ไม่ยืดหยุ่น ลมหายใจฉันขาดเป็นห้วงๆ เมื่อเขาค่อยๆ เสียดแทงเข้ามาด้านในตัวฉันลึกขึ้น... ลึกขึ้น... “หืม เข้าไปได้ง่ายๆ เลยนะซายูริ” “อึก... หยุด อื้อเจ็บ มันเจ็บ...”  ฉันเม้มปากแน่น บิดกายด้วยความรวดร้าว กระนั้นก็ยังสั่นระริกเพราะความกระสันรัญจวนที่ยากจะปฏิเสธ  “แต่หน้าตาดูเหมือนกำลังสนุกเลยนะซายูริ...” คาวะโน้มหน้าลงมาขบเม้มยอดอกที่ชูชันของฉันด้วยอารมณ์มันเขี้ยวและรูดรั้งปากกาเข้าออกไปพร้อมกัน “อ๊า อื้อ... ไม่อื้อ~” ฉันครางเสียงหลง ความเจ็บและเสียวมีเป็นทวีคูณ มันร้อนเร่าซะจนไม่อาจระงับอารมณ์ได้ มือดิ้นจนหลุดจากพันธนาการ ยกขึ้นโอบรัดรอบคอคาวะเอาไว้อย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยว แอ่นร่างที่สั่นระริกขึ้นตอบรับสัมผัสที่ดุเดือดของคนข้างบน เผยอปากหอบหายใจกระชั้นถี่กรีดร้องด้วยเสียงที่กดต่ำอย่างกับคนเสียสติเมื่อเพลิงราคะโหมไหม้ไปทั่วร่างกาย  “คาวะ... อ๊ะอ๊า!~” ร่างกายฉันเกร็งกระตุก หลังแตะจุดสุดยอดมาหมาดๆ ก้อนอารมณ์ที่กดทับอยู่บนตัวคลายออก มือหล่นจากรอบคอคาวะลงมาวางข้างลำตัว ลมหายใจเหนื่อยหอบ เหม่อมองเพดานนัยน์ตาเลื่อนลอย  ฉันนึกอะไรไม่ออก เหมือนกำลังมองตัวเองจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด คาวะดึงปากกาที่เปียกชื้นออก มองใบหน้าที่กำลังเหม่อลอยของฉันนิ่ง นิ้วแข็งๆ ไล้ลงที่ข้างแก้ม  “อย่าเพิ่งเหม่อ คืนนี้ยังอีกยาวไกลสาวน้อย” ทันใดนั้นเอวฉันก็ถูกรวบขึ้นไปกองอยู่บนตักคาวะ เขาทิ้งน้ำตัวลงบนเก้าอี้ ถอดชุดนอนที่ดูเกะกะของฉันออกไปทางศีรษะ ฝ่ามือหยาบลูบลำตัวด้านข้างขึ้นมาจรดรักแร้ นิ้วหัวแม่มือกดวนยอดอกแข็งปั๋งของฉัน นวดคลึงด้วยจังหวะอันหนักหน่วง ฉันร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ส่งเสียงครางหวิว ปิดเปลือกตาที่เปียกชื้นแน่น ไม่อยากรับรู้อะไรอีก เป็นไปได้ก็อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้เป็นเพียงฝันร้าย ที่พอตื่นขึ้นมาทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหายไป “ซายูริ... ทำไมถึงน่ารักแบบนี้” เสียงกระซิบมาพร้อมกับจุมพิตร้อนผ่าวบนผิวแก้ม คาวะตะบมจูบลงไปตามซอกคอ เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงของเขาดังกระชั้นถี่ราวกับกำลังอดกลั้นในอะไรบางอย่าง ก่อนที่คมฟันจะขบลงตรงหัวไหล่ฉันแรงๆ “อื้อ!~” ฉันสะดุ้งปรือตาขึ้นอย่างทนไม่ไหว ความรู้สึกเจ็บแสบถูกปลอบโยนด้วยปลายลิ้นร้อนชื้น ไล้เลียตามรอยฟันที่ทิ้งเอาไว้ น่าแปลกที่อุณหภูมิในร่างกายฉันกลับสูงขึ้น ช่วงล่างบีบรัดอย่างต้องการการเติมเต็มจากคาวะ “คาวะ นะหนาว...” ฉันพึมพำทั้งที่ข้างในรู้สึกร้อนจนแทบคลั่ง แต่อากาศภายในห้องก็ยังเย็นบาดผิว ฉันไม่ได้ใส่อะไรในขณะที่เขาสวมครบทุกอย่าง ยกเว้นส่วนนั้นที่โผล่พ้นกางเกงออกมาให้ฉันนั่งถูไถเล่น “จับมันใส่เข้าไปสิ แล้วจะทำให้หายหนาว”  เสียงทุ้มกระซิบแหบพร่า ดึงมือฉันไปลูบคลำแก่นกายร้อนกรุ่นของตัวเอง ฉันรู้สึกขนลุกในแวบแรก จะดึงมือออกแต่คาวะยื้อไว้ บังคับให้ฉันจับลูบขึ้นลูบลงตามใจเขา “ทะทำไมร้อนจัง” “หึ เพราะว่ามันกำลังตื่นเต้นที่จะได้เล่นกับซายูริไง” ฉันกัดเม้มริมฝีปากล่างแน่น นึกรังเกียจคาวะที่พูดจาเสียดสี แต่ความรู้สึกที่บีบคั้นนี้กลับสร้างบรรยากาศให้เร่าร้อนขึ้นไปอีก ยิ่งมือฉันลูบไล้นานเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าแก่นกายคาวะจะแข็งขึ้งขึ้นมากเท่านั้น ทำไมมันน่ากลัว... ฉันก้มลงมองสายตาหวาดหวั่น สิ่งที่ดูใหญ่กว่าปากกาตั้งหลายเท่ากำลังประกาศความปรารถนาให้ฉันรู้ ต่อให้เขาไม่พูดฉันก็รู้สึกได้จากกล้ามเนื้อร้อนจัดที่กำลังกระตุก “เอาเข้าไปได้แล้ว” คาวะกระซิบบอกข้างใบหูคล้ายทนไม่ไหว ใบหน้าคมคายมีเหงื่อผุดซึมตามไรผม เขาขบเม้มติ่งหูฉันก่อนไล้เลียปลายลิ้นเข้ามาตามซอกหูอย่างหิวกระหาย ฉันสัมผัสได้ถึงกระแสอารมณ์ที่ไหลบ่าเข้ามา แต่ก็ไม่กล้าทำในสิ่งที่เขาเรียกร้อง  “ไม่... ทำไม่ได้” “หือ ยกตัวขึ้น” ลมหายใจคาวะฟังดูหงุดหงิดเล็กน้อย ฝ่ามือหนาเลื่อนลงมาช้อนแก้มก้นทั้งสองข้างฉันขึ้น ปลายนิ้วกอบกุมเต็มเนื้อสะโพกทำฉันแทบละลาย อ่อนไหวไปหมดทั้งตัว  “อื้อ” คาวะดึงฉันไปจ่อบนยอดความเป็นชายของเขาอย่างเหมาะเจาะแล้วค่อยๆ กดสะโพกฉันลง ความเสียวแปลบเสียดแทงเข้าสู่ร่าง แทรกลึกเข้ามาด้านในจนสุดลำ เสียงครวญครางของฉันดังตั้งแต่สัมผัสแรก ผวากอดซบบ่าคาวะเอาไว้แน่น “อา... ซายูริ” “คาวะ อื้อ...” ฉันซุกหน้าลงบนบ่าแกร่งอย่างต้องการหนีจากความรู้สึกเร่าร้อนที่คับแน่นอยู่ด้านใน ได้ยินเสียงลมหายใจอึดอัดของอีกฝ่ายก่อนที่เสียงแหบห้าวจะดังขึ้น  “ขยับหน่อย” ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังเนียนนุ่มฉันอย่างอยู่ไม่สุขก่อนเลื่อนมาจับสีข้างเพื่อประคองร่างฉันให้นั่งตรงๆ ฉันส่ายหน้า มือเกาะไหล่เขาเอาไว้แน่น “ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ ทำเดี๋ยวก็เก่ง” เขาบอกพลางจับเอวฉันโยกขึ้นลง  “อือ~ อ๊า~ สะเสียว” ความเสียวแปลบซ่านลึกถึงทรวง เบียดแทรกมากับความร้อนรุ่มอันแข็งชื้น ขาฉันรู้สึกชาไปหมดแต่สะโพกกับเอวถูกบังคับให้ขยับไม่หยุด แรงกระแทกกระทั้นเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางลามกของฉันสอดประสานกับลมหายใจหยาบโลนของคาวะราวกับว่าเราทั้งคู่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ ทั้งๆ ที่ฉัน… ทั้งๆ ที่ฉันเกลียดเขาตั้งขนาดนี้ ตับๆๆๆๆๆๆ “เร่งขึ้นอีก” เสียงกระซิบเร่งเร้าด้วยท่าทางพึงพอใจ  “อ๊ะ… อ๊ะๆ”  “ดี ซายูริ… อา เก่งมาก” “อื้อ อ๊ะ!” ฝ่ามือหนาเลื่อนจากลำตัวที่ลื่นไปด้วยหยาดเหงื่อของฉันลงไปเคล้นคลึงสะโพกอย่างเร้าอารมณ์  ตับๆๆๆๆๆๆ “อา… ดี อย่างนั้นแหละ น่ารักมาก” คาวะจ้องมองหน้าอกที่ขยับไหวตามแรงขย่มของฉันด้วยสายตาคมกล้า เสียงชื่นชมแหบพร่ากระตุ้นให้ฉันรู้สึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามากขึ้น เสียงรัวสะโพกโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง  กลับกลายเป็นฉันเองที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่คร่อมขย่มอยู่บนตักคาวะอย่างบ้าคลั่ง  “อ๊ะ! อ๊า… กรี๊ดดด” ความรู้สึกเป็นสุขพุ่งสูงเสียดเมฆ ฉันขยุ้มคอเสื้อคาวะแน่น จือปากกรีดร้องอย่างลืมอาย ความสยิวเพิ่มเป็นเท่าทวีเมื่อคาวะจับเอวคอดกดเข้าหาตัวเองแล้วดันสะโพกแกร่งขึ้นผลักแก่นกายเข้ามาลึกสุดก่อนปล่อยสายธารอุ่นๆ แตกทะลักข้างใน “อาส์” เขาครางเสียวก่อนทิ้งแผ่นหลังลงพิงกับพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งนั้นยังฝังอยู่ข้างใน และดูเหมือนคาวะจะไม่ใส่ใจเอาออก ฉันฟุบหน้าตามลงไปซบแผ่นอกแกร่ง ลมหายใจหอบเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ ฉันอยากเอาออกแต่ขาอ่อนเปลี้ยไม่มีแรงพอจะขยับ  สักพักเรียวนิ้วแข็งก็ยกขึ้นมาเกลี่ยไล้กลีบปากบาง ฉันเผยอปาก เลียนิ้วที่แทรกล้ำเข้ามาอย่างลืมตัว กลิ่นอายลุ่มหลงยังกรุ่นอยู่ในใจ “ทำตัวเหมือนสัตว์เลี้ยงเลยนะซายูริ อยากได้ปลอกคอสีอะไรไหนพูดสิ” เสียงหยามเหยียดที่คาวะคายออกมาทำฉันได้สติ กัดนิ้วสกปรกไปเต็มเขี้ยว “อึก!” เขากระชากนิ้วออก จ้องฉันเขม็ง “เก็บไว้ให้อัยย์เถอะ ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของนาย!” ฉันดันตัวออกห่างคาวะ ตั้งใจจะลุกขึ้นแต่หมอนั่นกลับรั้งเอวฉันเอาไว้ “ปล่อย!” “อย่าพูดถึงอัยย์แบบนั้น! สัตว์เลี้ยงอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือปรนเปรอฉัน” “อึก หยุด… ไม่ อย่า… อื้อ” “ทำตัวเชื่องๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” คาวะสอดนิ้วข้างที่มีเลือดซึมจากรอยกัดเข้ามาในปากฉัน แยงนิ้วเล่นไปทั่ว กลิ่นคาวเลือดจางๆ กรุ่นอยู่ภายในแต่ยังไม่น่าตระหนกเท่าท่อนเอ็นร้อนผ่าวที่พองตัวขยายใหญ่โตจนคับแน่นอยู่ในช่องทางรัก “สัตว์เลี้ยงที่ดีต้องเป็นยังไง เดี๋ยวสอนให้” คาวะรวบตัวฉันขึ้นไปนอนบนโต๊ะ จับท่าทางจนถนัด แล้วกระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานีปราศรัย  “ไม่ …ไม่ยุติธรรม” ฉันพึมพำออกมาด้วยหัวใจที่สิ้นหวัง น้ำตาไหลอาบแก้ม จิตใจจมดิ่งลงสู่ความมืดมนไร้ก้นบึ้ง  ไม่เหลือแล้วทั้งศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง  การกระทำอันหยาบช้าของคนตรงหน้าได้กัดกินจิตวิญญาณฉันไปจนหมดสิ้น หลังจากนั้นฉันแทบไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ภาพในหัวสั่นไหวไม่หยุด คาวะจับร่างฉันพลิกไปมาไม่ต่างจากของเล่นชิ้นหนึ่ง   
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม