bc

บุปผาร่ายรัก

book_age18+
1.1K
ติดตาม
6.3K
อ่าน
โชคชะตา
ปลอมตัว/จำแลง
องค์ชาย
องค์หญิง
สุขนาฏกรรม
ชายจีบหญิง
witty
swordsman/swordswoman
ancient
like
intro-logo
คำนิยม

เคอหลิ่งหลิน จากเด็กกำพร้ากลายเป็นลูกบุญธรรมของแม่ทัพจ้าวซื่อก่วง ใช้ชีวิตในกองทัพด้วยใบหน้าเย็นชา

ทว่าเมื่อได้อยูใกล้ชายที่นางแอบรัก หญิงสาวก็ถอดหน้ากากกลายเป็นหญิงสาวธรรมดา ซุกซนราวกับลิงน้อย

ชายผู้นั้นสุขภาพไม่แข็งแรงจนเมื่อเขาได้รับพิษเข้าสู่โลหิตจนดวงตาเกือบบอดและจะสิ้นชีพในไม่ช้า

นางจึงทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเขา แม้หนทางนั้นจะยากลำบากและแลกกับชีวิตของนางก็ตามที

โดยไม่รู้ว่าการเดินทางไปนำ ‘ไข่มุกหมื่นราตรี’ มาเพื่อรักษาชีวิตของ ‘คุณชายเฉิน’ จะเปลี่ยนชีวิตของนางตลอดไป

ชายหนุ่มอมโรคที่มีชีวิตราวกับจะตายวันตายพรุ่ง หลังจากได้ไข่มุกหมื่นราตรีที่เขารับพิษแทนน้องชาย

กลับกลายเป็นว่านอกจากจะขับพิษออกจากดวงตาแล้วยังทำให้ร่างกายของเขาดีขึ้นตามลำดับ ทว่าเขากลับไม่พบเห็นหญิงสาวที่ซุกซนผู้นั้นอีก

การนำไข่มุกหมื่นราตรีกลับมารักษาคุณชายเฉินทำให้เคอหลิ่งหลินสูญเสียกำลังภายใน

นางต้องเดินทางเข้าวังหลวงตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ทัพจ้าว แม้นางจะเป็นบุญบุตรธรรมแต่นางคุ้นชินกับชีวิตชายแดนมากกว่า

แต่เพราะต้องรักษาคำพูดตนเองจึงจำใจต้องเข้าวังหลวงกับแม่บุญธรรมซึ่งเป็นพระขนิษฐาขององค์ฮ่องเต้

แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกให้เคอหลิ่งหลินได้พบคุณชายเฉินอีกครั้ง

ทว่าบัดนี้เขาคือ ‘องค์ชายไท่หยาง’ โอรสพระองค์โตของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

และเด็กกำพร้าอย่างนางจู่ๆกลับมีรอยสักรูปดอกไม้แดงปรากฏที่กลางแผ่นหลัง

ดอกไม้แดงคือสัญลักษณ์ของผู้นำทางไปสู่ที่ซ่อนของกระบี่ผงาดฟ้าที่คนในยุทธภพต่างหมายป้อง

จะเป็นโชคชะตาหรือพรหมลิขิตแต่เมื่อปลายนิ้วของทั้งสองมีด้ายแดงผูกพันกันไว้

แม้มีอุปสรรค พวกเขาก็พร้อมจะฟันฝ่าเพื่อได้ครอบครองใน ‘รัก’

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
เด็กหญิงตัวน้อยเหวี่ยงตัวบนไปนั่งบนกิ่งไม้แล้วมองการเคลื่อนไหวด้านล่าง เสียงผู้คนวุ่นวายทำลายความรื่นรมย์ของเด็กหญิงวัยแปดขวบที่มีนามว่า ‘เคอหลิ่งหลิน’ หมดลง เด็กหญิงตัวเล็กแม้จะมอมแมมไปสักหน่อยแต่ก็มีเค้าโครงหน้างดงาม เด็กน้อยจำใจต้องปล่อยเจ้ากวางน้อยที่วิ่งไล่จับเมื่อครู่แล้วทำตัวเป็นวานรปีนป่ายต้นไม้ขึ้นมาบนกิ่งสูงนี้เพียงเพื่อมองหาที่มาของเสียงดังน่ารำคาญ รูปร่างปราดเปรียวและซุกซนจนบิดาผู้เป็น ‘ขุนโจรแห่งหุบเขาชิงซาน’ ไม่มั่นใจว่าตนเองมีบุตรหญิงหรือชายกันแน่ หากนับความเฉลียวฉลาดในการเอาตัวรอดของนางและฝีมือด้านวรยุทธแล้วละก็ นางก็ได้ชื่อเป็นเป็นบุตรของ ‘เคอตงตง จอมโจรแห่งหุบเขาชิงซาน’ แล้ว             ครู่ต่อมานางก็รู้ว่ามีลิงตัวใหญ่ยักษ์ห้อยโหนมานั่งบนกิ่งไม้เดียวกับนาง สายตาคมเกินเด็กหันไปจ้องมองแล้วยกนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เงียบ เจ้าลิงยักษ์กลับทำท่าเลียนแบบนาง เด็กหญิงจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วมันก็ยังทำตามเช่นเดิม ดวงตากลมมองเห็นกลุ่มคนกำลังไล่ล่าบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง รูปร่างผอมบางราวสตรีแม้มีกระบี่ในมือแต่ดูเหมือนเขาจะแทบไร้เรี่ยวแรงที่จะยกมันขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง เคอหลิ่งหลินไม่รู้หรอกว่าฝ่ายใดเป็นคนโฉดชั่วหรือฝ่ายใดเป็นคนดีทว่าสิ่งที่สองตาของนางมองเห็นตอนนี้คนหมู่มากกำลังรุมชายเพียงคนเดียว ร่างของชายผู้นั้นเสียหลักหงายหลัง  ชายในชุดดำมีผ้าบิดใบหน้ามิดชิดเงื้อกระบี่ในมือหมายจะฟาดเอาชีวิตคนที่ไร้ทางสู้ มือเรียวเล็กของเด็กหญิงเด็ดผลไม้ที่อยู่ใกล้มือแล้วขว้างไปสุดแรง ด้วยการฝึกฝนตั้งแต่เล็กแต่น้อย ความแม่นยำของนางไม่เป็นรองใคร มันส่งผลให้ผลไม้ลูกนั้นกระแทกใส่ข้อมือของผู้ที่ถือกระบี่ ชายชุดดำเสียจังหวะผงะถอยหลังทำให้ชายในชุดขาวที่เปื้อนเปรอะลุกขึ้นได้             “เจ้า! มาทางนี้”  เคอหลิ่งหลินตะโกนบอกแล้วชี้ให้วิ่งไปอีกทาง  ส่วนนางก็กระโดดลงมายืนแล้วฉุดข้อมือชายแปลกหน้าให้วิ่งตามนางไป โดยมีชายชุดดำสามคนไล่ตามหลัง             “เจ้ากระโดดไหวไหม?”             “อะไรนะ!”  เสียงนั้นถามอย่างงุนงง             “เอ้า! กระโดด!”               ชายหนุ่มไม่ทันได้คิดอะไร เพราะมัวแต่วิ่งมุ่งไปข้างหน้า และเมื่อได้ยินคำว่า ‘กระโดด’ เบื้องหน้าก็ไร้พื้นดิน เพราะมันเป็นหน้าผาและด่านล่างเป็นน้ำตก             “เฮ้ย!”             เสียงชายหนุ่มเผลอร้องลั่น แต่ข้างหูเขากลับได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก มือใหญ่ของเขามีมือเรียวเล็กจับไว้มั่น เด็กหญิงหันมายกนิ้วแตะที่ริมฝีปากเป็นเชิงบอกให้เขาเงียบก่อนจะชี้ขึ้นไปด้านบน      ทั้งสองไม่ได้ตกลงมาในสระน้ำเบื้องล่าง ละอองน้ำตกพร่างพราวขาวราวไข่มุก ทำให้ชายชุดดำทั้งสามก้มมองไม่เห็นคนทั้งสองที่ยืนอยู่ขอบน้ำตก พวกมันเข้าใจว่าทั้งสองตกน้ำไปแล้วจึงหมุนตัวจากไป เคอหลิ่งหลินแหงนหน้ามองอีกครั้งให้มั่นใจว่าคนกลุ่มนั้นไปหมดแล้ว ก็กระตุกข้อมือข้างที่นางจับไว้ให้เดินไต่ขอบน้ำตกตามเข้าไปหลังม่านน้ำตาซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่             “แม่นางน้อย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามาในถ้ำแล้ว แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกเหนื่อยหอบหลังจากถูกตามไล่ล่าจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด             “เรียกข้าเคอหลิ่งหลิน” เด็กหญิงยิ้มกระจ่างสดใส ยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำที่กระเซ็นถูกใบหน้าอ่อนใส “พี่ชายบาดเจ็บที่ใดหรือไม่”             “ได้แม่นางน้อยช่วยทำให้ข้าปลอดภัยดี”             “อย่าได้คิดมาก ข้าเป็นจอมยุทธหญิงย่อมต้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว” เด็กหญิงยืดอกด้วยท่าทีภูมิใจ ไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่าย             ตัวเล็กกระจ้อยร่อยอาจหาญเรียกตัวเองว่าจอมยุทธหญิง?  เด็กคนนี้ช่างกล้านัก!             “เป็นอะไรไปพี่ชาย ท่านติดค้างคำขอบคุณข้าอยู่นะ”             ชายหนุ่มเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่คำพูดของเด็กหญิงตัวเล็กตรงหน้าทำเอาเขาอดกลั้นที่จะหัวเราะไว้ไม่ไหว คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างฉงน ชายผู้นี้เป็นอย่างไรกัน นางเป็นคนช่วยชีวิตเขาแท้ๆ แต่กลับหัวเราะท้องคักท้องแข็งไม่เกรงมารยาทเอาเสียเลย             “มาเถอะ ข้าจะพาพี่ชายไปส่งที่ตีนเขา” เด็กน้อยพยักหน้าแรงๆเรียกชายหนุ่ม             “ไยเจ้าจึงช่วยข้าเล่า หากข้าเป็นคนไม่ดีล่ะ เจ้าจะทำเช่นไร”             เด็กหญิงตัวน้อยหันมายิ้มแล้วหัวเราะร่า ประกายวับวาวไร้ความหวาดกลัว “พี่ชายเอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องอื่นเถิด”             โดนเด็กน้อยกำราบเข้าให้ เขามิกล้าจะเอ่ยถามอายุจอมยุทธ์หญิงเลย เขายอมเดินตามนางจนออกมาถึงป่าโปร่ง แล้วเด็กน้อยก็ชี้นิ้วบอกทาง             “ข้าส่งพี่ชายได้เพียงแค่นี้”             “ข้าขอบใจเจ้ามาก”             “ข้าไปล่ะ ถ้าท่านพ่อรู้เข้าข้าจะโดนดุเอา”             เคอหลิ่งหลินรีบวิ่งไปทิศทางตรงข้าม นางดูคล่องแคล่วเหมือนแมวป่า และร่าเริงดุจนกน้อย มิได้สนใจว่าผู้ที่เฝ้ามองอยู่นั้นจะมองนางด้วยความรู้สึกเช่นใด เด็กน้อยวิ่งกลับไปที่กระท่อมเชิงเขา กลิ่นข้าวหอมกรุ่นจนเด็กหญิงต้องยกมือขึ้นกุมท้อง             “ข้าหิวแล้วท่านพ่อ”             “เจ้าควรกลับบ้านมาก่อนที่พ่อจะเข้ามาใช่หรือไม่”             “ข้า...ข้าออกไปเล่นนิดเดียวเอง” นางไม่ได้บอกพ่อในทุกเรื่อง และเพื่อนสนิทของนางที่เป็นลิงยักษ์ก็ไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง เพราะกลัวว่าพ่อจะไม่ชอบเพื่อนของนาง             “ช่วงนี้ที่ชายแดนมีการสู้รบ เจ้าจะไปเถลไถลที่ไหนไกลบ้านมิได้ เราอาจเจอพวกทหารหนีทัพก็ได้นะ”             “เป็นทหารแล้วไยต้องหนีทัพละท่านพ่อ”             พ่อทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็ไม่พูดต่อ วางมือใหญ่ลงบนศีรษะของนาง “ยังมีเรื่องอีกมากที่เจ้าไม่รู้”             “ท่านก็บอกข้าซิ ยากตรงไหน” เด็กหญิงหัวเราะร่า             “พ่อไม่รู้จะบอกเจ้าอย่างไร ถ้าแม่เจ้ายังอยู่คงช่วยพ่อสอนเจ้าได้ดีกว่านี้”             “อยู่ซิ ท่านแม่อยู่กับข้า อยู่ในนี้” เด็กหญิงตบอกตัวเองหนักแน่น ผู้เป็นพ่อเห็นแล้วก็ยิ้ม             “ถูกต้องแล้ว หลินเอ๋อร์ แม่ของเจ้าอยู่ในใจเจ้ามิได้เป็นไหน” เขาเป็นคนสอนลูกเองกลับลืมไปเสียได้ ยังไม่ทันกล่าวอะไรต่อก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาที่หน้าประตูกระท่อมหลังน้อย  พ่อลุกขึ้นยืนแล้วเดินไป ปล่อยลูกสาวไว้ที่โต๊ะอาหาร เด็กหญิงได้แต่นั่งกินข้าวกับผัดผักที่พ่อทำไว้ให้  พ่อทำกับข้าวอร่อย นางชอบทุกอย่างที่พ่อทำ              เด็กหญิงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง พ่อหันมามองหน้านางเหมือนครุ่นคิดและตามด้วยเสียงถอนหายใจหนักหน่วง             จุดเริ่มต้นของโชคชะตาเด็กหญิงจึงเริ่มขึ้น. 

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.8K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook