อชิระอึ้งไปเล็กน้อยกับความเปลี่ยนไปของคนข้างกาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนไข่มุกต้องไม่ตอบโต้แบบนี้แน่
“เปล่าเลย พวกเราก็พูดไปตามเนื้อผ้า ก็แค่สงสัยแค่นั้นแหละ” พลอยใสปฏิเสธ แต่ใบหน้าซีดราวกับกระดาษที่โดนเพื่อนจับได้
ใช่! จริง ๆ แล้วเธออิจฉาไข่มุก อิจฉามาตลอดตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ที่ยอมคบด้วยเพราะอยากใกล้ชิดอชิระต่างหาก
“ในเมื่อพวกเธอสงสัย เราก็อยากตอบให้หายสงสัย จริง ๆ สมบัติที่คุณพ่อให้มาไม่ได้เยอะอะไรหรอก แค่พอมีพอกินเท่านั้น เราไม่อยากทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ เลยมาทำงานดีกว่า แต่ไม่มีประสบการณ์ไง ไม่รู้จะไปเริ่มจากไหน ก็เลยมาขอความช่วยเหลือจากพบรัก เผื่ออนาคตข้างหน้าจะได้มีประสบการณ์ไปสมัครงานกับเขาบ้าง” เพิร์ลให้เหตุผล ก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่มแก้กระหาย
“ทำไมนายใจดีแบบนี้นะพบรัก ทีกับเพื่อนคนอื่นคิดแล้วคิดอีก พอกับมุกนี่รีบยื่นมือช่วยเหลือทันทีเลยนะ” พิพัฒน์เอ่ยทีเล่นทีจริง
“พอ ๆ เลิกแซวได้แล้ว กินข้าวเถอะ เดี๋ยวจะกลับไปทำงานไม่ทัน” อชิระตัดบท
“ครับเจ้านาย ท่านประธานไฟแรง เอ้า กิน ๆ เสร็จแล้วจะได้แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง”
หลังจากนั้นบรรยากาศในการรับประทานอาหารของพวกเขาก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น
เพิร์ลเก็บรายละเอียดข้อมูลของแต่ละคนสลับกับตอบคำถามคนนั้นคนนี้ไปด้วย
ในขณะที่อชิระเองก็คอยสังเกตเก็บรายละเอียดของหญิงสาวด้วยเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกายของตนตอนนี้ไม่เหมือนเดิม และเรื่องที่เธอไปอยู่ต่างประเทศนั้นเขาเองก็ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
เห็นทีกลับไปบริษัทเขาคงต้องถามเรื่องนี้เสียแล้ว
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ พวกเขาก็รับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย โดยมีเจ้ามือเป็นเคตะ เจ้าของสถานบันเทิงสุดหรูย่านทองหล่อ ชายหนุ่มยิ้มด้วยความอิ่มเอมใจที่ได้เลี้ยงข้าวเพื่อน ๆ ในครั้งนี้ แม้ลึก ๆ แล้วจะไม่ค่อยพอใจพลอยใสกับพิพัฒน์ที่ชอบกระแหนะกระแหนไข่มุก แต่ก็ไม่อยากเก็บเอามาเป็นอารมณ์ ก่อนขึ้นรถเขาจึงส่งยิ้มให้เธอน้อย ๆ คล้ายจะขอโทษ
“มุกไม่ต้องสนใจคำพูดของสองคนนั้นหรอกนะ จริง ๆ พวกเขาไม่มีอะไรหรอก” ชายหนุ่มบอกหญิงสาว
“เราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เคไม่ต้องเป็นห่วง” หญิงสาวยิ้มบาง ๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรจริง ๆ
“ไม่คิดก็ดีแล้ว งั้นเราไปก่อนนะ กูไปนะไอ้รัก ว่าง ๆ ไว้ค่อยนัดเจอกัน ฝากความคิดถึงไปให้น้องสาวมึงด้วย” เคตะยิ้มร้ายยามที่สมองคิดถึงน้องสาวแสนสวยของอชิระ พี่ชายจอมหวงแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสนิททันที น้องสาวของเขายังเด็ก ยังไม่ควรมีใครมาจีบทั้งนั้น
“ไม่รับฝาก มึงอยู่ห่าง ๆ น้องกูเลย น้องกูยังเด็ก ไม่พร้อมมีแฟน” ขู่ฟ่อ ๆ ราวกับจงอางห่วงไข่ ใบหน้าที่ถมึงทึงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดทำให้เคตะถึงกับปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ทั้งขำทั้งเอ็นดูพี่ชายที่ยังเห็นว่าน้องสาวเป็นเด็ก ทั้งที่อัญชรินทร์ก็เรียนจบมานานแล้ว
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ หวงจริงโว้ย ระวังนะ น้องเขยจะมาหาแบบไม่ทันตั้งตัว” เขายักคิ้วหลิ่วตาให้อชิระอย่างไม่เกรงกลัว น้องเขยที่หมายถึงก็คือตัวเขาเองนี่แหละ อัญชรินทร์จะมีแฟนเป็นผู้ชายอื่นไม่ได้นอกจากเคตะคนเดียว
“ฝันไปเถอะ โดยเฉพาะมึง ไอ้เค ไปเลย ไม่ต้องมายิ้ม กูยังไม่พร้อมมีน้องเขยตอนนี้” อชิระบอกอย่างฉุนเฉียว
“เออ ๆ ทำอย่างกับกูอยากมีเมียตอนนี้ แซวนิดแซวหน่อยก็ไม่ได้ทำเป็นงอน” เคตะยิ้มกวน แล้วยกมือลูบบนหัวเพื่อนสนิทเบา ๆ เหมือนที่ชอบทำเวลาอชิระโกรธ
แรก ๆ เพื่อนสนิทก็รำคาญแต่ห้ามไม่ได้ พูดไปสิบครั้งเคตะก็ยังทำแบบเดิมทุกครั้ง อชิระจึงปล่อยเลยตามเลย อยากทำอะไรก็ทำ แต่คนที่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ คือเพิร์ล
“เดี๋ยว ๆ สองคนนี้ พวกนายกำลังทำเราขนลุกนะ นี่พวกนาย...”
“พวกเราทำไมเหรอมุก แล้วทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง”
อชิระเป็นคนตั้งคำถาม และเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจกับสายตาล้อเลียนของเธอที่กำลังมองมา
“ก็พวกนายทำเหมือนคู่รักที่กำลังทะเลาะกันเลย แบบหึงอะ”
“อี๋ เธอคิดได้ไงเนี่ยไข่มุก ขนลุกมาก ไปดีกว่า แล้วเจอกัน”
เคตะส่ายหัว ขนลุกขนพองไปทั้งตัวกับจินตนาการของหญิงสาว ก่อนจะวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้หญิงสาวยืนขำท้องคัดท้องแข็งอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งคนอื่น ต่างจากอชิระที่ยืนหน้าเสีย ลูบแขนเบา ๆ กับสิ่งที่คนข้างกายพูด
เขากับเคตะเนี่ยนะ แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ชอบคนเพศเดียวกันเสียหน่อย อะไรที่ทำให้เธอคิดแบบนั้นกัน
“เดี๋ยวก่อน ช่วยอธิบายมาหน่อยซิว่าทำไมถึงคิดว่าเรากับไอ้เคมีความสัมพันธ์แบบนั้น”
“โธ่ เราล้อเล่นน้า ไม่ได้คิดจริงซะหน่อย เราก็แค่เห็นพวกเธอสองคนเถียงกันไปมาดูน่ารักดี ถ้าเป็นแฟนกันจริง ๆ จะเป็นคู่ที่น่ารักมากเลยนะ แบบน้องพีพีกับบิวกิ้นไง”
“พอ หยุดเลย เรากับไอ้เคไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน มองปากเราดี ๆ เราชอบผู้หญิง”
“เราเชื่อแล้วโอเคไหม กลับกันเถอะ เราอยากไปทำงานแล้ว”
“เชื่อจริง ๆ นะ ไม่ใช่แค่ตอบปัดเฉย ๆ แน่นะ”
“เชื่อจ้า เชื่อสนิทใจเลย”
“โอเค ขึ้นรถได้”
ในระหว่างอยู่บนท้องถนนที่มีจำนวนรถค่อนข้างมากและติด ๆ ขัด ๆ เพราะเกิดอุบัติเหตุข้างหน้า เพิร์ลก็ใช้โอกาสนี้สอบถามข้อมูลของเพื่อนแต่ละคนจากปากของอชิระ ทำให้เธอได้รู้เรื่องของผู้ต้องสงสัยทั้งหมดมากขึ้น
และยังได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วพลอยใสกับพิพัฒน์ไม่ค่อยชอบไข่มุกเท่าไรนัก แต่เธอจะไม่ปรักปรำสองคนนี้หากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน และจะไม่ตัดใครออกจากการเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย แม้กระทั่งอชิระหรือเคตะ