ตอบสนองดี…2/1

1044 คำ
คีติกานั่งจ่อมอยู่ที่โซฟากลางห้องกว้างภายในคอนโดมิเนียมที่เธอเพิ่งจากไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วและครั้งนี้หญิงสาวกลับเข้ามาพร้อมขนข้าวขนของมาอยู่ที่นี่ตามที่บิดามารดาของเธอเอ่ยปากแกมบังคับฝ่ายชาย ปกเกศยืนเท้าสะเอวมองคนที่กำลังนั่งก้มหน้าต่ำ รับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายว่าครอบครัวของเธอปฏิบัติต่อลูกสาวไม่ค่อยดีนักก็เกิดความสงสาร ก่อนที่ร่างสูงเดินเข้ามาทรุดนั่งลงข้าง ๆ เธอ ไหน ๆ เขาก็ได้เธอแล้วก็คงไม่ทอดทิ้ง “อยู่ที่นี่ ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากได้อะไรก็บอก” “เฮีย” เสียงหวานครางเรียก พลันน้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นไว้ในอกก็ไหลพรากลงมา อกแกร่งของเขาเหมือนที่พึ่งพิงแหล่งสุดท้ายให้เธอพัก เขาปล่อยให้หญิงสาวร้องไห้สะอื้นในอ้อมอกพลางยกมือลูบหลังเป็นการปลุกปลอบ รู้สึกถึงน้ำตาอุ่นร้อนที่ซึมผ่านเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่จนบริเวณอกเสื้อเปียกเป็นวงใหญ่ ความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายตอนนี้เป็นเพียงความสงสารเท่านั้น ครั้นสงบสติอารมณ์ได้คีติกาก็นำข้าวของส่วนตัวเข้าไปเก็บในห้องที่เธอพักซึ่งก็คือห้องที่เขาร่วมหลับนอนในค่ำคืนที่ผ่านมานั่นเอง เธอรู้ว่ามันไม่ใช่ห้องหลักที่เขาใช้นอนตามปกติเพราะมันไม่มีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเขาอยู่ แต่มันกว้างขวางกว่าห้องเดิมที่เธอเคยอยู่ เรียกได้ว่าการที่เธอได้ออกมาอยู่กับเขาเหมือนได้ชีวิตใหม่ เมื่อจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยผู้ที่เพิ่งย้ายเข้ามาโดยที่เจ้าของแทบไม่ทันได้ตั้งตัวก็เดินออกมาด้านนอก เห็นเขานั่งทอดกายอยู่บนโซฟา เวลานี้ใกล้หกโมงเย็นแล้วเห็นว่าเขายังไม่ได้กินอะไรหญิงสาวที่มีฝีมือในการทำอาหารอยู่เป็นทุนจึงเสนอขึ้น “เดี๋ยวหลิวจะทำอาหารให้เฮียทานนะคะ เฮียชอบทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย” เธอยิ้ม ชายหนุ่มจึงละสายตาจากหน้าจอไอแพดมามอง ก่อนจะวางมันลงข้างตัวพร้อมกับชันตัวขึ้นบอก “วันนี้ไม่ต้องทำหรอก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เฮียสั่งอาหารไว้แล้วเดี๋ยวเขาก็มาส่ง กินที่สั่งมาก่อนก็แล้วกัน” “ค่ะเฮีย” หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย เมื่อแม่บ้านคนที่คอยรับคำสั่งจากปกเกศประจำนำอาหารขึ้นมาส่งให้ คีติกาก็นำไปจัดใส่จาน ตั้งโต๊ะพร้อมสำหรับรับประทาน อาหารที่เขาสั่งมาเห็นแวบแรกก็รู้ว่า มันมาจากร้านของเธอ คีติกานิ่งงันไปอึดใจเมื่อได้เห็นและรู้ว่าจากวันนี้ไปเธอจะไม่ได้กลับเข้าไปในครัวบ้านนั้นอีกแล้ว เธอไม่รู้ว่าบุพการีของเธอเรียกค่าสินสอดจากฝ่ายชายไปเท่าไหร่ พวกเขาถึงได้รีบยกตัวเธอให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็วราวกับเธอเป็นของร้อนลวก และยังสั่งกำชับกับเธอก่อนย้ายออกมาว่า “ลื้อไปอยู่กับอาเติ้งทำตัวดี ๆ ล่ะ ให้ไปแล้วอั๊วก็ไม่รับคืน จำใส่หัวลื้อให้ดี” และคำพูดที่ย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีที่ให้กลับไป “มีลูกสาวก็เหมือนเลี้ยงลูกให้คนอื่น แต่งออกไปแล้วก็เหมือนสาดน้ำออกไปนอกบ้านนั่นแหละ” ไม่อยากจะเชื่อว่านี่จะเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากคนที่คลอดเธอออกมา ทั้งคู่นั่งกินมื้อเย็นกันเงียบ ๆ มีเพียงเสียงช้อนส้อมที่ดังกระทบจานเบา ๆ คีติกาพยายามสังเกตว่าเขาชอบกินอะไรเป็นพิเศษเพื่อจะได้คอยดูแลเขาให้ดีที่สุด เธอตักอาหารใส่จานให้จนกระทั่งเขาบอกว่า ‘พอ’ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบและสีหน้านิ่งทำเอาหญิงสาวชะงัก ในช่วงวันสองวันแรกที่ได้พูดคุยกันเหมือนเขาจะอยากรู้จักเธอเหลือเกิน แต่หลังจากค่ำคืนที่ผ่านมาเหมือนเขาจะเริ่มทำตัวเฉยชา การที่เธอถูกยัดเยียดให้เข้ามาอยู่กับเขาในชั่วเวลาแค่ข้ามคืนคงไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดมาก่อน และถ้าจะพูดกันแบบไม่ต้องไว้หน้ากันมันคือการถูกมัดมือชก...ใครเล่าจะยินดีถูกบังคับฝืนใจให้ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ เขาดื่มน้ำเป็นการบอกว่าจบอาหารมื้อนี้ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเธอเสียงเรียบ “เฮียอิ่มแล้ว จะไปนั่งทำงานในห้อง หลิวอยู่ที่นี่ตามสบายเลยนะ” “ค่ะเฮีย” หลังจากที่เขาลุกไปเพียงครู่เดียวหญิงสาวก็รู้สึกอิ่มตาม เธอจัดเก็บอาหารที่รับประทานไม่หมดเข้าตู้เย็นไว้รับประทานมื้อถัดไป จากนั้นก็กวาดเศษอาหารที่เหลือลงถังขยะ นำจานชามไปล้างจนเรียบร้อยค่อยเข้าไปอยู่ในห้องส่วนตัว นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เปิดโทรศัพท์คุยแชตกับเพื่อนสนิทที่มีเพียงสองคนซึ่งก็ไม่ได้เจอกันบ่อยนัก อาศัยแค่คุยกันผ่านทางแอปพลิเคชัน ก่อนที่จะพบเจอเขาตารางชีวิตของเธอก็มีเพียงเท่านี้ สถานที่ที่เธออยู่ก็คือห้องนอน ห้องครัว นาน ๆ ครั้งถึงจะได้ออกไปข้างนอก การนัดเจอเพื่อนทั้งสองคนแทบจะเป็นไปไม่ได้เพราะทางบ้านไม่อนุญาตให้ออกไป คีติกายิ้มหม่นกับตัวเอง ตอนนี้เธอควรจะดีใจหรือเปล่าที่ได้ออกมาจากบ้านที่เหมือนกรงขังมาตั้งแต่เกิด ได้มาอยู่ในสถานที่กว้างขวางหากก็ยังมีบ่วงคล้องคอไม่ได้เป็นอิสระเสียทีเดียว แต่ก็ดี ดีกว่าอยู่ในบ้านที่ไม่มีใครรัก ไม่มีใครต้องการ ^ ^ ^ ***โปรดติดตามต่อไป ฝากเป็นกำลังใจให้ไผ่หลิวด้วยนะค้า มาอยู่กะเฮียแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม