บทที่ 10 ชายเจ้ามารยา

3779 คำ
    ร่างบางถูกเหอจิ้นเค่อพากลับมายังห้องและจัดการผลัดเสื้อผ้าชั้นนอกออก หยางจิวเมิ่งก็เริ่มได้สติทันทีที่เริ่มรู้สึกตัวก็ทำท่าจะอาเจียนอีกครั้งเพราะกลิ่นน้ำแกงยังคงติดตัว "ท่านพี่ ท่านมาแล้วหรือ อุ๊บ.." ร่างบางนิ่วหน้าด้วยความเหม็นรู้สึกเวียนหัวจนยกมือขึ้นปิดปากอย่างพะอืดพะอม "เมิ่งเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างเกิดอะไรขึ้น" เหอจิ้นเค่อเข้าไปประคองคนที่กำลังพยายามลุกขึ้นจากที่นอน "ข้าอยากอาบน้ำก่อน อุ๊บ.. เหม็นเหลือเกินไม่ไหวแล้ว" ร่างบางกล่าวอย่างพะอืดพะอม พยายามอดทนไว้ไม่ให้ตัวเองอาเจียนอีก เขาอาเจียนหนักจนรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วช่องอกและลำคอ ความรู้สึกทรมานที่ห่างหายไปนานกลับมาอีกครั้งเพราะกลิ่นน้ำแกงที่ราดไปทั่วตัวนี้ ทำให้ไม่คุ้นชินนักหลังจากไม่ได้เป็นแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว หากไม่ใช่เพราะน้ำแกงถ้วยนั้นอาการเขาคงไม่กลับมาเป็นหนักถึงเพียงนี้  "ได้ๆ มาค่อยๆ พี่จะประคองเจ้าไป ข้าให้คนเตรียมน้ำกับเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ให้เจ้าแล้ว" เหอจิ้นเค่อประคองร่างบางไปอาบน้ำหลังจากได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกอาการคลื่นเ**ยนของหยางจิวเมิ่งก็ดีขึ้น คงเหลือแต่บาดแผลที่ถูกน้ำร้อนลวกแขนจนบวมแดงเท่านั้น "เจ็บหรือไม่" เหอจิ้นเค่อยกแขนเล็กที่บวมแดงนั้นคืนมาดูอาการอย่างระวัง สีหน้าวิตกกังวลฉายขึ้นอย่างชัดเจน "เจ็บเล็กน้อยขอรับพอทนไหว"  "เจ้าถูกน้ำแกงที่ไหนหกใส่กัน" "เอ่อคือ.." ก็อกๆ ยังไม่ทันให้หยางจิวเมิ่งได้เล่าเรื่องราวเจียวหวงที่แอบฟังอยู่หน้าห้องก็รีบเคาะประตูขึ้นเพื่อขัด "ท่านพี่ น้องจิวเมิ่ง ข้าเจียวหวงขอเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ" "เชิญ" คุณชายเหออนุญาตอย่างเสียไม่ได้ ส่วนหนึ่งเพราะอยากรู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดเรื่องใดขึ้นระหว่างสองคนนี้กันแน่ "ท่านพี่ ข้ามาเพื่อขอโทษฮูหยินน้อยที่เมื่อครู่ไม่ทันระวังทำน้ำแกงหกใส่เขา น้องจิวเมิ่งเจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่ เจ้าเดินหนีมาเช่นนี้ ข้าจึงมิได้ทันดูอาการ" "ข้าไม่เป็นไรแล้วขอรับ ขอบคุณคุณหนูเฉินที่เป็นห่วง" "ขอโทษนะจิวเมิ่งข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ " เจียวหวงแสร้งทำท่าทีสำนึกผิดอย่างที่สุดต่อหน้าเหอจิ้นเค่อทั้งๆ ที่ในใจนางนั้นไม่ได้สำนึกใดๆ แม้แต่น้อย ก่อนจะหันหน้ามาสบตากับผู้ถูกกระทำเช่นหยางจิวเมิ่ง แอบส่งสายตาและรอยยิ้มที่สะใจกับผลงานของตัวเองให้คนตรงหน้า ในเวลาชั่วครู่ที่เหอจิ้นเค่อเบือนหน้าหนีไปเพราะไม่อยากเห็นหน้าของนาง ขณะที่ร่างบางพอจะมองออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังแสดงงิ้วโรงใหญ่เขาจึงต้องพลอยเล่นตามไปด้วยเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน 'หึ ที่แท้นี่เจ้าจงใจสาดใส่ข้าจริงๆ หรือนี่ คุณหนูเฉินท่านช่างใจร้ายนัก' ทีแรกเขายังไม่แน่ใจนักว่าอีกฝ่ายเจตนาหรือไม่ แต่การกระทำของคนตรงหน้ายามนี้ ทำให้เขามั่นใจถึงสิบส่วนแล้วว่า เฉินเจียวหวงจงใจกลั่นแกล้งเขา หยางจิวเมิ่งมองคนเสแสร้งตรงหน้าที่ทำท่าทีสำนึกผิด แต่สายตากลับไม่เป็นเช่นท่าทีที่แสดง สายตาของนางที่ลอบส่งมาหาเขามันบ่งบอกว่าพอใจอย่างมากที่ทำร้ายเขาได้ ทั้งยังอาศัยช่วงเวลาเช่นนี้มาเข้าใกล้เกาะแกะสามีเขาไม่หยุดหย่อน เฉินเจียวหวงร้ายกาจเสียจนดูท่าว่าเหอจิ้นเค่ออาจจะตามไม่ทัน คุณชายเหอเองได้ฟังเรื่องราวจากปากทั้งสองคนเขาก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆ ออกมา เพียงรับฟังด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเท่านั้น จนยากจะคาดเดาอารมณ์ "คุณชายใหญ่ขอรับ ท่านหมอมาแล้วขอรับ" เสี่ยวไป๋รีบเข้ามารายงานเมื่อพาหมอประจำตระกูลมาถึง  "รีบเชิญ" "คารวะคุณชาย ฮูหยินน้อย คุณหนูเฉิน" "ท่านหมอไม่ต้องมากความรีบดูอาการให้เมิ่งเอ๋อร์ก่อน" "ขอรับคุณชาย" หยางจิวเมิ่งเปิดแขนเสื้อออกให้ท่านหมอดู แขนของเขาที่ถูกน้ำแกงลวกอย่างจังจนบวมแดงเพราะความร้อนที่ได้รับ แม้อาการจะไม่หนักหนาถึงขั้นพุพองแต่ก็ทำให้แสบไม่น้อย หากเป็นยามปกติหยางจิวเมิ่งคงไม่มีท่าทีใดๆ กับแผลเพียงเท่านี้ แต่เมื่อคนตรงหน้าต้องการเปิดศึกกับเขาร่างบางก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกฝ่ายเดียว "ซี๊ด.... อู๊ย....." ขณะที่ท่านหมอตรวจบาดแผลเพื่อเตรียมจะทายาให้ เพียงแขนเล็กโดนสัมผัสหยางจิวเมิ่งก็ทำท่าว่าแสบร้อนมากมาย เล่นใหญ่ว่าเจ็บมากเสียจนทำให้เหอจิ้นเค่อพลอยกังวลจนแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยรู้ดีว่าเหอจิ้นเค่อนั้นเป็นห่วงตนเองไม่น้อย และสิ่งนี้คงต้องทำให้คนรักเก่าเช่นเฉินเจียวหวงรู้สึกโกรธได้อย่างไม่ยากนัก หยางจิวเมิ่งที่ต้องการเอาคืนเพื่อสั่งสอนหญิงสาวใจร้ายตรงหน้าจึงเลือกวิธีนี้เพื่อหวังเอาคืนเล็กๆ ให้นางได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่นางจะมารังแกเอาได้ตามใจ "เจ็บมากหรือไม่ขอรับฮูหยินน้อย" "แสบมากเลยท่านหมอ ข้ารู้สึกแสบร้อนไปทั้งแขน" ที่จริงเขาก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมายนัก เรียกได้ว่าพอจะอดทนได้ แต่หยางจิวเมิ่งก็ยังแสร้งเจ็บเกินจริงขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อเรียกร้องความสนใจ เหอจิ้นเค่อที่เป็นห่วงอยู่แล้วก็ยิ่งรีบถลาเข้าไปดูด้วยความกังวลอย่างลืมตัว ร่างหนานั่งลงข้างๆ โอบประคองอย่างระวังมองดูบาดแผลด้วยความเป็นห่วง ทำเอาเจียวหวงที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์รู้สึกคาดไม่ถึงว่าเหอจิ้นเค่อจะห่วงหยางจิวเมิ่งมากมายเพียงนี้ หญิงสาวได้แต่ยืนมองด้วยความแค้นใจแต่ก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ "เจ็บมากหรือเมิ่งเอ๋อร์"สีหน้าและแววตาที่กังวลอย่างชัดเจนของเหอจิ้นเค่อทำให้ร่างบางรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่แกล้งเล่นใหญ่ถึงเพียงนี้ "ท่านหมอ ใช้ยาอย่างดีทาให้เขาแพงแค่ไหนก็ไม่เกี่ยงเอาให้หายเร็วๆ ก็พอ" เหอจิ้นเค่อหันไปสั่งกับหมอประจำตระกูลด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด เจียวหวงลอบสังเกตอาการคนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้และแค้นใจนางรู้ดีว่าหยางจิวเมิ่งกำลังเล่นสงครามประสาทกับนาง โดยใช้ความน่าสงสารจากการเป็นเหยื่อในครั้งนี้เข้าสู้ "ขอรับคุณชาย แผลถูกน้ำร้อนลวกใช้สมุนไพรขวดนี้ทารับรองว่าอาการฮูหยินน้อยจะดีวันดีคืน ยานี้มีส่วนผสมของบัวหิมะเทียนซานมีฤทธิ์เย็นช่วยให้แผลพุพองหายเร็ว ทาทุกวันเช้าเย็นอีกสองวันก็หายขอรับ" ท่านหมอรีบจัดการหายามาทาให้ทันที "ซี๊ด... ท่านหมอข้าทาเองดีกว่า ท่านมือหนักไปหน่อยแล้ว"หยางจิวเมิ่งยังคงเล่นละครต่อเพื่อหวังแกล้งคนเช่นเจียวหวงให้รู้จักเข็ดเสียบ้าง เพื่อให้นางได้รู้ว่าเขามิใช่คนที่จะยอมผู้อื่นมาข่มเหงเอาได้ง่ายๆ ด้วยรู้ว่าเป้าหมายแท้จริงของหญิงสาวคือสิ่งใด เขาจึงแกล้งยั่วเย้าให้อีกฝ่ายโกรธเล่นเป็นพัลวัน หยางจิวเมิ่งแกล้งทำท่าจะทายาอย่างไม่ถนัดนักเพียงแค่เริ่มเหอจิ้นเค่อก็ทนไม่ได้ ทันทีที่ท่านหมอคืนขวดยาให้ ชายหนุ่มก็แย่งรับยานั้นเอาไว้เสียเอง "ไม่เป็นไรเช่นนั้นให้ข้าทาให้เขาเองเถิด" เหอจิ้นเค่อรีบแย่งยานั้นมาทาให้ร่างบางด้วยความระมัดระวัง ท่าทีใส่ใจของชายหนุ่มต่อร่างบางนั้นทำให้หญิงสาวมองด้วยความแค้นเคืองจนแทบกระอักเลือด นางเห็นใบหน้าที่ทำท่าเจ็บปวดนั้นแวบหนึ่งแอบตวัดสายตามาหานางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อย่างเย้ยหยัน จึงทำให้รู้ทันทีว่าถูกย้อนศรเล่นงานคืนเสียแล้ว หยางจิวเมิ่งคนนี้นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ "พวกท่านหมดธุระแล้วก็กลับไปเถิดข้าจะได้ให้เมิ่งเอ๋อร์พักผ่อน ท่านหมอขอบคุณท่านมาก" เหอจิ้นเค่อตัดบทไล่ทุกคนออกไปโดยไม่หันหน้าไปมองอดีตคนรักแม้แต่น้อย เจียวหวงได้แต่แสร้งทำท่าทีสำนึกผิดออกไปอย่างเงียบๆ ทั้งที่ในใจนั้นนางกำลังกรีดร้องจนแทบคลั่งที่คนรักเก่าเช่นเหอจิ้นเค่อไม่เห็นนางอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ' หยางจิวเมิ่งชายเจ้ามารยา เจ้ามันช่างแพศยานัก! ' เจียวหวงได้แต่คิดในใจขณะที่ก้าวเดินออกมาพ้นเรือนของคุณชายใหญ่นางก็ได้แต่แอบกระทืบเท้าด้วยความแค้นเคืองก่อนจะยอมล่าถอยกลับไป . . . ในห้องของสองสามีภรรยาเวลานี้หยางจิวเมิ่งยังคงนั่งให้สามีทายาให้ตนเองอยู่เช่นนั้น ร่างหนาก็ยังคงตั้งใจทายาให้อย่างเบามือเหมือนกลัวว่าคนจะเจ็บ แต่ใช่ว่าเขาจะรู้ไม่ทันว่าทั้งหมดเป็นภรรยาตัวแสบแสร้งเจ็บเกินจริง "ท่านพี่พอแล้วขอรับ ข้าว่าท่านน่าจะทาทั่วแล้วเดี๋ยวท่านจะเมื่อยเสียเปล่าๆ " "ไม่เจ็บแล้วงั้นหรือ" สายตาจับผิดอย่างรู้ทันที่มองย้อนกลับมาจากคนตรงหน้าทำให้หยางจิวเมิ่งต้องยิ้มเจื่อนเมื่อรู้ตัวว่าถูกอีกฝ่ายจับได้ "ก็นางตั้งใจแกล้งข้าก่อน" ใบหน้าหวานเสหน้าหลบสายตาคนที่มองมาเล็กน้อยพลางกล่าวออกมาเบาๆ อย่างรู้สึกเกรงๆ "เมิ่งเอ๋อร์ เจ้านี่นะ เฮ้อ... ทำเอาพี่ตกอกตกใจ ทีแรกพี่ตกใจมากคิดว่าเจ้าเจ็บมากจริงๆ เสียอีก พอมาคิดๆ ดูเจ้านั่งรอท่านหมออยู่ตั้งนานมิได้แสดงท่าทางอะไร จึงโล่งใจได้ นึกขึ้นได้ว่าเจ้าคงแกล้งคนเข้าเสียแล้ว" "ท่านพี่อ่ะ ก็ๆ " ร่างบางทำแก้มพองเมื่อถูกรู้ทัน เขาจึงพยายามจะอธิบายเรื่องราว แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะอธิบายเช่นไรดีไม่ให้ตนเองนั้นกลายเป็นคนที่ดูหึงหวงอย่างไร้เหตุผล ซึ่งเขาไม่อยากให้เหอจิ้นเค่อเข้าใจผิดคิดว่าเขานั้นหึงหวงออกนอกหน้าทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชายหนุ่ม ด้วยที่ทำไปทั้งหมดเพียงต้องการเอาคืนคนใจร้ายบ้างเท่านั้นที่ทำร้ายเขาเช่นนี้ เพราะเมื่อครู่หากเขาล้มลงไปจริงๆ เด็กในท้องจะได้รับอันตรายแค่ไหนก็ยากจะคาดเดา "เอาหล่ะๆ ข้ามิได้จะว่าอะไรเจ้า เพียงแต่ข้าเป็นห่วงเจ้ากับลูกเท่านั้นเอง ที่จริงเอาคืนนางสักหน่อยก็ไม่เป็นไร ไม่ว่านางจะตั้งใจหรือไม่ก็ควรอยู่ เจ้าเป็นลมไปจริงๆ หากข้ามาไม่ทันจะกระเทือนถึงลูกหรือเปล่าก็ไม่รู้" เหอจิ้นเค่อยังคงทายาให้อย่างตั้งใจและนำผ้าบางๆ มาพันปิดบาดแผลไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ยาที่ทานั้นหลุดร่อนและป้องกันบาดแผลไม่ให้ถูกสิ่งอื่นสัมผัส "ขอบคุณขอรับที่เข้าใจข้า" ร่างบางยิ้มรับอย่างร่าเริงขึ้น เขากำลังดีใจที่คุณชายเหอเข้าใจเขาโดยง่าย ทั้งที่จริงในใจแอบกังวลเล็กน้อยว่าจะถูกโกรธหรือไม่ที่ตนเองแอบแกล้งอดีตคนรักเขากลับคืนเช่นนี้ "แต่อย่าแกล้งเช่นนี้อีกก็แล้วกัน ทำเอาข้าพลอยใจคอไม่ดีไปด้วย" เหอจิ้นเค่อลูบกลุ่มผมสีเข้มสลวยของคนตรงหน้าเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู "ขอรับๆ" ร่างบางยิ้มรับด้วยความร่าเริง ก่อนจะทานยาและล้มตัวลงนอนพักผ่อน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วนับแต่หยางจิวเมิ่งเริ่มคลายความหวาดกลัวต่อตัวเหอจิ้นเค่อลงไป แม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่จะยังไม่ได้รักกัน แต่ก็นับว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดี เหอจิ้นเค่อในสายตาของหยางจิวเมิ่งเวลานี้เปรียบได้ดั่งสหายที่ดีผู้หนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายก็รู้ดีเช่นกันว่าคงต้องใช้เวลากว่าที่เขาทั้งคู่จะสามารถใช้ชีวิตคู่ในแบบสามีภรรยาแท้จริงได้ เพราะความรู้สึกผูกพันแสนประหลาดในหัวใจ ที่ทำให้เขาพึงใจในตัวหยางจิวเมิ่งไม่น้อย แต่ก็ทำได้เพียงอดทนรอให้เวลาต่อตนเองและอีกฝ่ายได้มีเวลาเปิดใจยอมรับตน  เรื่องราวของพวกเขายังคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป . . . กล่าวถึงเซียนลึกลับผู้เปลี่ยนชะตาของหยางจิวเมิ่งจนวุ่นวายเช่นนี้ แท้จริงแล้วเซียนเฒ่าผู้นั้นเป็นสหายกับเทพแห่งชะตาผู้มีหน้าที่ลิขิตชะตามนุษย์บนโลกให้เป็นไปตามเรื่องที่ตนเขียนขึ้น ทั้งคู่สนิทสนมกันยิ่งนัก เนื่องจากเวลาของเซียนที่มีชีวิตยาวนานกว่ามนุษย์ ทั้งคู่จึงใช้เวลายามว่างจากงานที่ต้องรับผิดชอบในฐานะเซียนในการเที่ยวเล่นดื่มกินด้วยกัน เซียนเฒ่าแพ้พนันเทพแห่งชะตาจึงต้องเสียสุราที่ตนเองหมักบ่มจากผลไม้สวรรค์พันปีไปเป็นของกำนัลให้แก่เทพแห่งชะตาถึงสามไห เขาจึงได้หาทางท้าพนันวางเดิมพันธ์กับเทพแห่งชะตาเพื่อทวงคืนสุราเหล่านั้น เพียงแต่คนที่เข้าตาต้องใจกลับเป็นชีวิตคู่ของหยางจิวเมิ่งและเหอจิ้นเค่อที่มีชีวิตรักอาภัพเสียจนน่าสงสารนัก ชะตาเดิมของคุณชายเหอจิ้นเค่อและหยางจิวเมิ่งนั้น หลังจากเหอจิ้นเค่อผิดหวังจากเจียวหวงไปครึ่งปีเขาก็ได้พบกับหยางจิวเมิ่งโดยบังเอิญ แม้ว่าจะเป็นบุรุษเช่นกันแต่ทั้งสองกลับตกหลุมรักกันและแอบกราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันในที่สุด เหตุการณ์หลายอย่างผ่านเข้ามาเพื่อพิสูจน์รักแท้ไม่ว่าจะเป็นคนรักเก่าที่หวนคืน หรือแม้แต่ความรักที่ไม่ได้รับการยอมรับของคนทั้งสอง แม้คุณชายเหอและหยางจิวเมิ่งจะรักกันเพียงไหน สุดท้ายก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เหตุเพียงเพราะถูกพ่อแม่สามีรังเกียจ ซ้ำหยางจิวเมิ่งเองก็ยังไม่สามารถให้ทายาทได้ด้วยเพราะเป็นชายจึงได้ถูกพ่อแม่สามีรังแก จิวเมิ่งผู้น่าสงสารเป็นคนจิตใจงดงามสู้อดทนต่อการถูกกระทำสารพัด เพื่อไม่ให้สามีต้องเป็นห่วงจึงทนเก็บความทุกข์ที่ได้รับไว้เพียงคนเดียว หนักข้อเข้าทางบ้านสามีก็ลงมือหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ผู้เป็นพ่อที่เป็นนายอำเภอก็ไม่เคยได้รับรู้ถึงความลำบากที่ลูกได้รับ เพราะเขาดึงดันแต่งกับคุณชายตระกูลเหอซึ่งมีอำนาจล้นฟ้า จึงไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือจากบ้านเดิมของตนที่เป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ไร้เส้นสายใดๆ สุดท้ายหยางจิวเมิ่งผู้อาภัพก็ถูกทางบ้านสามีทรมานจนถึงแก่ความตาย ส่วนเหอจิ้นเค่อนั้นเมื่อรู้ว่าคนรักต้องตายอย่างน่าเวทนาจึงฆ่าตัวตายตามจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมความรัก "นี่มันน้ำเน่าเกินไปแล้วเจ้าเฒ่าเทพชะตา" เซียนเฒ่ากล่าวขึ้นหลังจากได้อ่านเรื่องราวโศกนาฎกรรมนี้จนจบ   "พวกเขามีกรรมเก่าต้องชดใช้ด้วยด่านรักทรมานใจ" "มันมิโหดร้ายไปหน่อยหรือเขารักกันถึงขนาดนี้ หยางจิวเมิ่งเป็นคนดีไม่ควรถูกทรมานจนตาย เช่นนั้นแล้วใครจะศรัทธาในการทำความดีกัน" "นั่นเป็นเรื่องของสวรรค์ลิขิต ชีวิตพวกเขาจะต้องได้รับทุกข์จากความรัก เพราะกรรมเก่านำพาให้เจอกัน ชาติต่อไปจึงจะสมหวังได้ครองคู่กัน" "ข้าเลือกคู่นี้แหละ ข้าจะช่วยพวกเขาให้ได้ครองคู่กัน คนใจร้ายเช่นเจ้าช่างไม่อ่อนโยนเสียเลย" "แต่ลิขิตสวรรค์ให้เขาต้องได้รับความเจ็บปวดจากความรัก" "อย่างไรเล่า เพียงแค่ต้องให้ทั้งสองลิ้มรสความเจ็บปวดจากความรักมิใช่หรือ หากเราทำบททดสอบความรักให้ทั้งคู่ช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคเล่า หากเขาผ่านมันไปด้วยกันได้สุดท้ายก็ได้รับความเจ็บปวดจากความรักอยู่ดีแต่เราก็ช่วยให้เขาได้ครองคู่กันตั้งแต่ในชาตินี้" "ข้าจะช่วยพวกเขาเอง พนันกันมั้ยเล่า หากข้าชนะเจ้าต้องคืนสุราให้ข้าสองไห นั่นของรักของหวงข้าเชียวนะ" "ได้ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะมีปัญญาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้เช่นไร ในเมื่อชะตาได้ลิขิตไว้แล้ว" "ข้าจะสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาไม่ให้ชะตาทั้งสองอาภัพรักเช่นที่เจ้าเขียนแน่ ข้าจะหาทางช่วยเขา" "รอดูไปเถอะ" นั่นจึงเป็นเหตุเริ่มต้นให้เซียนเฒ่าคิดช่วยเหลือหยางจิวเมิ่ง เพียงแต่วันที่คิดจะไปช่วยนั้นเขาดันดื่มหนักเกินไปจนทำอะไรผิดไปหมดตั้งแต่เสกให้หยางจิวเมิ่งตั้งครรภ์ได้ ไปจนถึงชักนำเอาทั้งสองมาเจอกันในจังหวะที่เหอจิ้นเค่อถูกนางโลมวางยากำหนัดจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ผิดพลาด เปลี่ยนลิขิตสวรรค์จนทำให้ทั้งสองต้องมาแต่งงานกันเพราะหยางจิวเมิ่งถูกล่วงเกินจนตั้งท้อง "เจ้าเซียนเฒ่า!! เจ้านี่มันช่างเลอะเลือนนัก มีอย่างที่ไหนมนุษย์ชายตั้งครรภ์ได้นี่ไม่ประหลาดบนโลกไปหน่อยงั้นหรือ" ในโลกของเซียนนั้นบุรุษสามารถตั้งครรภ์ได้นี่จึงเป็นเหตุให้เซียนเฒ่าสามารถเสกครรภ์ทิพย์ให้หยางจิวเมิ่งสามารถตั้งครรภ์ได้เช่นเซียน "ข้าเมาไปหน่อย เอิ๊ก แต่ก็ดีแล้วนี่ทั้งสองคนก็ได้เจอกันแล้วแถมได้แต่งงานด้วย" เซียนเฒ่ากล่าวอย่างลิ้นพันกันเพราะยังไม่สร่างดี "เฮ้อเจ้านี่มันจริงๆ เลย ช่วยเขาให้ได้ครองคู่กันหรือช่วยให้ยุ่งกันแน่เนี่ย" "ฮ่ะๆๆ ฮ่า เชื่อมือข้าเถอะน่า ข้าตั้งใจจะไปเข้าร่างเจ้าหมอดูชื่อดังส่งคำทำนายสวรรค์ให้เชียวน๊า ~" "หลังจากนี้พวกเขาต้องผ่านด่านทุกข์ เจ้าจะทำยังไง" "รอดูอะสิ อิอิ" "ระวังให้ดีแล้วกันหากพวกเขาตายเหมือนเดิมแปลว่าเจ้าไม่สามารถเปลี่ยนชะตาได้ เช่นนั้นเท่ากับว่าเจ้าแพ้ คราวนี้หากแพ้ละก็ข้าจะปรับสุราเจ้าสักห้าไหเลยข้อหาสร้างเรื่องปวดหัวให้ข้า" ที่เทพชะตายอมให้เปลี่ยนเรื่องราวได้ส่วนหนึ่งเพราะทั้งคู่สั่งสมกรรมดีมาหลายภพจึงพอจะให้เขายอมให้ได้เพราะชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้วที่ทั้งคู่ต้องใช้กรรมเก่า "เอาน่า เอาน่า เจ้าอย่าร้อนใจไปนักเลย รอดูสิ ข้าจะคอยแอบช่วยพวกเขาเอง " "ช่วยได้แต่เจ้าก็ไม่สามารถยุ่งกับชะตาเขาได้มากไป หาไม่แล้วจะเป็นผลเสียทั้งเขาและเจ้า รอให้คับขันแล้วค่อยช่วยเข้าใจหรือไม่" "อืมๆ รู้ๆ " "อ้อแล้วอย่าลืมไปขอตำราทำคลอดครรภ์ทิพย์จากเทพโอสถมาคัดลอกล่ะ" "เพื่ออะไร" "เจ้าบ้าถ้าไม่มีหมอบนโลกทำคลอดให้หยางจิวเมิ่งได้ตายจริงแน่ คนพวกนั้นจะรู้วิธีทำคลอดครรภ์ทิพย์ของเซียนได้อย่างไร" "เออเนอะ ได้ๆ ข้าจะไป" "เฮ้อ...ข้าไปเขียนรายงานให้เทพราชาดีกว่าขืนรอเจ้าคงพลอยโดนอาญาก่อนแน่" เทพชะตาได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจขณะที่เซียนเฒ่าหลับไปด้วยฤทธิ์สุรา . . . หลังจากคุณหนูเฉินกลับไป นางหายหน้าไปได้เพียงไม่กี่วันนางก็กลับเข้ามาใหม่ พร้อมกับแต่งเรื่องใส่สีตีไข่ให้ร้ายหยางจิวเมิ่งเป็นเท่าตัวให้กับฮูหยินใหญ่ฟัง ด้วยความที่รู้สึกเกลียดชังสะใภ้ชายผู้นี้เป็นทุนเดิมฮูหยินใหญ่จึงเชื่อทุกสิ่งที่หญิงสาวกล่าวอย่างหมดใจ อคติในใจนางนั้นทำให้นางไม่เคยมองหยางจิวเมิ่งในแง่ดีได้สักครั้ง เจียวหวงเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตาแต่กลับดำเป็นขาวอย่างแนบเนียน นางกล่าวว่าหยางจิวเมิ่งนั้นจงใจเทน้ำแกงที่นางนำมาให้เหอจิ้นเค่อทิ้งพอนางห้ามปราม หยางจิวเมิ่งจึงเทมันราดตัวเองแล้วไปฟ้องเหอจิ้นเค่อว่าถูกนางกลั่นแกล้ง เมื่อฮูหยินใหญ่ได้ฟังเช่นนั้นก็โกรธไม่น้อย หญิงสาวตระกูลผู้ดีเช่นคุณหนูเฉินมีหรือจะโกหกนาง หยางจิวเมิ่งเป็นตัวการเรื่องราวทั้งหมดคราวนี้เป็นแน่ นางจึงคิดจะช่วยเจียวหวงเอาคืนเพื่อสั่งสอนเด็กหน้าด้านผู้นั้นให้หลาบจำ สะใภ้เอกของตระกูลเหอต้องเป็นคุณหนูเฉินเจียวหวงผู้เพียบพร้อมผู้นี้เท่านั้น จึงจะเหมาะสมกับบุตรชายที่แสนดีของนาง เจียวหวงได้แต่ลอบยิ้มอย่างพอใจเมื่อทุกสิ่งเป็นไปดังที่นางต้องการ ฮูหยินใหญ่เชื่อทุกสิ่งที่นางกล่าวโดยที่ไม่ถามหาเหตุผลใดๆ แม้แต่น้อย ท่าทีของหญิงสูงวัยตรงหน้านั้นแข็งกร้าวและดูโกรธไม่น้อยหลังจากได้ฟังถ้อยคำปั้นแต่ง แอบยกยิ้มมุมปากด้วยความสะใจ หากนางมีฮูหยินใหญ่เป็นพวกในบ้านหลังนี้แล้ว คงไม่จำเป็นต้องใส่ใจชายแพศยาเช่นนั้นอีกอย่างไรเสียฮูหยินใหญ่ต้องช่วยนางกำจัดหยางจิวเมิ่งออกไป โดยที่นางไม่ต้องลงแรงอะไรมากมาย เหอจิ้นเค่อต้องเป็นของนางเพียงเท่านั้น . . . TBC. #พรวิเศษ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม