บทที่7 กอดเอาไว้ด้วยใจเสน่หา

2067 คำ
พิมพ์ลภัสได้ออกไปต้อนรับเพื่อนๆ ของตัวเองและเพื่อนของพลากรด้วย เพื่อนๆ ของพลากรทยอยมากันก่อนประกอบไปด้วยดนัยภัทรตามมาด้วยดนุพงษ์ ไม่นานเนตรทรายแฟนสาวของพลากรก็มาถึงด้วย หลังจากนั้นมาดาและมะนาวก็มาถึง พิมพ์ลภัสเชิญชวนทุกคนไปนั่งเล่นที่ริมสระ เมื่อทุกคนมาถึงพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วก็ได้ทานมื้อค่ำกันโดยมีพ่อกับแม่ของพิมพ์ลภัสนั่งร่วมโต๊ะด้วย "วันนี้แม่ลงครัวทำกับข้าวเองนะลูกไม่ได้สั่งอาหารโรงแรมมา เห็นหมึกเขาบอกแม่ว่าคนกันเองมาทานข้าวนั่งคุยกันปกติแม่เลยอยากทำเองมากกว่าไม่ได้สั่งอาหารจากโรงแรมมา แม่ทำเอง ลูกๆ ลองชิมกันก่อนนะว่าอร่อยถูกปากกันหรือเปล่า" คุณนายสะอางพูดบอกบรรดาเพื่อนๆ ของลูกชายและลูกสาว "ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งจานนี้อร่อยมากครับคุณแม่" คมกริชพูดขึ้นแล้วส่งยิ้มให้คุณนายสะอาง "อ๋อจานนี้เป็นฝีมือยายพิมพ์เขาจ๊ะพ่อกริช ถ้าพ่อกริชชอบก็ทานเยอะๆ นะลูก" "ไม่น่าเชื่อนะครับว่านักเรียนนอกอย่างน้องพิมพ์จะทำกับข้าวเป็นและอร่อยมากด้วย เก่งมากเลยนะครับ" ดนัยภัทรพูดชื่นชมนัยน์ตาเป็นประกายแสดงออกชัดเจนว่าชื่นชมและชอบพิมพ์ลภัสเป็นอย่างมาก เปิดเผยออกมาชัดเจน เมื่อได้รับคำชมพิมพ์ลภัสก็ยิ้มน้อยๆ แล้วพูดขอบคุณ "แค่พอทำได้ค่ะไม่ได้เก่งอะไรเลย พี่ดนัยก็ชมพิมพ์เกินไปค่ะ" พิมพ์ลภัสพูดอย่างอ่อนน้อมแล้วยิ้มสวยให้ดนัยภัทรก่อนที่จะเอื้อมมือไปตักผัดผัก แต่ไม่ทันได้เอื้อมมือไปถึงคมกริชก็แย่งตักให้แล้วแกล้งพูดขึ้นเพื่อต้องการที่จะสกัดดาวรุ่งเพื่อนอย่างดนัยภัทร ต้องบอกให้รู้และทราบโดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ของข้า ข้าได้จับจองแล้วใครก็ห้ามมายุ่งโดยเด็ดขาด ให้มันรู้เสียบ้างว่าที่ได้มานั่งกินข้าวหน้าสลอนกันอยู่ในวันนี้มันก็เป็นเพราะแผนการของคมกริช ที่ได้เอาเรื่องธุรกิจมาพูดบังหน้ากับพลากรเพื่อที่จะได้เข้าบ้านมาเปิดตัวกับสาวเจ้าในวันนี้ "อุ๊ย ใจตรงกันเลยเนอะน้องพิมพ์ พี่ก็อยากกินผัดผักเหมือนกัน มาครับพี่ตักให้น้องพิมพ์ก่อนก็แล้วกันนะ" คมกริชแกล้งพูดแล้วส่งยิ้มให้พิมพ์ลภัส ทำท่าจะตักผัดผักให้พิมพ์ลภัสแต่พิมพ์ลภัสกลับดึงจานกลับแล้วบอกกับคมกริชว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเปลี่ยนใจไม่อยากกินผัดผักแล้วค่ะ" พิมพ์ลภัสดึงจานคืนแบบตั้งใจไม่รับไมตรีจากคมกริช "แหมเปลี่ยนใจไวจัง ทำไมน้องพิมพ์ถึงได้ใจโลเลจังเลย" คมกริชแกล้งพูดแล้วยิ้มแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดแบบไปไม่ได้คิดอะไรแต่จริงๆแล้วคิด มีหรือที่คนอย่างพิมพ์ลภัสจะฟังไม่ออกว่าคมกริชพูดกระแนะกระแหนตนเองอยู่ พิมพ์ลภัสจึงพูดตอกกลับไปว่า "จริงๆ ก็ยังอยากกินผักนะคะแต่เห็นว่าคุณตั้งใจจะกินแล้วเลยไม่อยากจะแย่งทาน ยังไงรบกวนพี่ดนุพงษ์ช่วยตักแกงจืดให้พิมพ์หน่อยได้มั้ยคะอยู่ใกล้มือพี่พอดี" พิมพ์ลภัสบอกออกไปเสียงเรียบนิ่งแต่ส่งสายตาดุไม่พอใจไปให้คมกริชพอได้เห็นแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ดนุพงษ์บอกขอช่วยให้ตักแกงจืดให้ตนเอง "ด้วยความยินดีแล้วครับ" ดนุพงษ์ตอบรับแล้วรีบกุลีกุจอตักแกงจืดให้พิมพ์ลภัส พลากรเห็นท่าจะไม่ค่อยดีเดี๋ยวจะเกิดศึกชิงนางกลางโต๊ะอาหารจึงเปลี่ยนเรื่องคุยชวนเพื่อนๆ มาคุยเรื่อง themeงานแต่งของตนเองกับเนตรทรายแทน "เออๆ เอาเป็นว่าทั้งไอ้กริชและน้องสาวกูต่างก็ได้กินผักที่ถูกใจกันทั้งสองคนแล้ว จบเรื่องผักกันเถอะนะมาคุยเรื่องthemeงานแต่งของกูกับอายกันดีกว่าเว้ยไอ้กริช" พลากรเปลี่ยนเรื่องคุย "เออ ใช่ๆ มาดาก็ว่าจะถามยายอายอยู่หลายวันแล้วว่าthemeงานแต่งจะให้เพื่อนเจ้าสาวใส่ชุดสีอะไร มาดาจะได้มองหาแบบชุดแล้วสั่งตัดไว้รอเลยค่ะ" "ใช่ๆ ไหนจะต้องเลือกเครื่องประดับอีกเนอะ ไม่ได้หรอกงานนี้เพื่อนเจ้าสาวอย่างเราทั้งสามคนต้องสวยนะเว้ยยายอาย จะได้ขายออกมีแฟนกับเขาเสียที" มะนาวพูดสนับสนุน "แหมสวยๆ อย่างน้องมะนาวกับน้องมาดาเดี๋ยวก็ขายออกครับ แต่ที่ยังไม่มีเพราะมัวแต่เลือกเยอะกันอยู่หรือเปล่าครับ" พลากรพูดชมสองสาวเพื่อนสนิทของแฟนตนเอง "นั่นสิคะพี่หมึก นังสองคนนี้เลือกเยอะจริงๆ ใครมาจีบก็ไม่สนใจเขาแต่ก็ชอบมาบ่นกับอายว่าไม่มีแฟน" เนตรทรายพูดสนับสนุนคำพูดของพลากร "สวยๆ แล้วเลือกเยอะนะนี่เลยคนนี้เลย น้องสาวพี่หมึกเลยค่ะ" มะนาวพูดขึ้น "เออ ฉันเลือกแต่ก็ไม่เคยมาบ่นอย่างแกนะเว้ยมะนาวว่าไม่มีแฟน หาไม่ได้สักทีแกว่าจริงมั้ยมาดา" พิมพ์ลภัสแกล้งพูดล้อเพื่อน "นั่นสิ จริงเลย แกเองก็เกาะคานทอง เกาะพี่ชายไว้ให้แน่นๆ แต่เนี่ยพี่หมึกจะแต่งงานแล้วฉันว่าแกก็ต้องมองหาว่าที่สามีไว้บ้างได้แล้วเหมือนกันนะ" มาดาพูดขึ้น "ไม่รีบหรอก พิมพ์จะเกาะพ่อกับแม่ไว้ให้แน่นๆ ได้มั้ยค่ะพ่อขา" "ได้ลูก ไม่ต้องแต่งเลยก็ได้ อยู่กับพ่อ พ่อเลี้ยงเอง" คุณโยธินบอกลูกสาวอย่างอารมณ์ดี "อ้าย! คุณโยธินก็ จะมาเก็บลูกไว้ให้เป็นสาวทึนทึกข้างกายตลอดไปไม่ได้หรอกนะคะ สักวันคุณกับฉันก็ต้องตายไป ยายพิมพ์เขาก็ต้องมีชีวิตของเขานะคะ ไม่รู้แหละยายพิมพ์ ยังไงเราก็ต้องแต่งงานมีหลานให้แม่นะลูก หาแฟนได้แล้วนะ ถ้าไม่หาแม่จะหาให้เองแล้วนะ" คุณนายสะอางพูดขัดสามี เมื่อคุณนายสะอางพูดจบสามหนุ่มที่นั่งกินข้าวอยู่ก็พูดขึ้นพร้อมกันว่า "ผมสมัครครับ" คมกริช ดนุพงษ์ ดนัยภัทร พูดขึ้นพร้อมกัน "เอ่อ พวกมึงครับเก็บอาการด้วยครับ" พลากรปรามเพื่อน เริ่มอึดอัดกลัวเพื่อนๆ ทั้งสามคนจะมาตีกันเพื่อแย่งน้องสาวของตนเอง แล้วแต่ละคนก็ร้ายเหลือรับประทานกันทั้งนั้น "นั่นสิ ใจเย็นๆ พ่อยังไม่ยกลูกสาวให้ใครในตอนนี้หรอกนะ จะเก็บลูกไว้ทำกับข้าวให้กิน เก็บไว้ชื่นชมก่อนสักพักใหญ่ๆ เลยนะ" คุณโยธินพูดติดตลก "พิมพ์ก็ยังไม่ไปจากพ่อเหมือนกันค่ะ" พิมพ์ลภัสยิ้มบางๆ แล้วพูดอ้อนพ่อ รอยยิ้มขี้อ้อนช่างประจบพ่อของพิมพ์ลภัสยิ่งทำให้คมกริชยิ่งอยากเอาชนะ "อิจฉาคนถูกแย่งนะคะเนี่ย พี่ๆ มาแย่งกันจีบมะนาวบ้างก็ได้นะคะ" มะนาวแกล้งพูดแล้วหัวเราะออกมา "นั่นสิจีบมะนาวเลยค่ะพี่ๆ พิมพ์ยังไม่พร้อม" พิมพ์ลภัสพูดสนับสนุน "พี่ก็คิดว่าน้องพิมพ์ไม่พร้อมที่จะเป็นของใครหรอก เพราะว่าน้องพิมพ์น่าจะมีใครในใจที่ต้องแคร์แล้วแบบนั้นหรือเปล่าครับ" คมกริชแกล้งแหย่แล้วยิ้มกวน สีหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนคนที่กำลังกุมความลับของพิมพ์ลภัสเอาไว้ พอคมกริชพูดแบบนั้นพิมพ์ลภัสถึงกับหน้าม่านถอดสีไปเล็กน้อยแต่ก็รีบเรียกสติปฏิเสธออกไปว่า "ยังไม่มี ไม่คิดว่าจะมีด้วยค่ะ" พิมพ์ลภัสบังคับน้ำเสียงให้พูดเป็นปกติแล้วพี่ชายก็มาชวนคุยเรื่องงานแต่งอีกรอบตัดบทเรื่องของพิมพ์ลภัสไป เมื่อกินข้าวกันเสร็จแล้ว หนุ่มสาวก็ได้ไปนั่งเล่นดื่มกินกันที่ริมสระว่ายน้ำ ส่วนพ่อกับแม่ของพิมพ์ลภัสก็ได้ขอตัวไปพักผ่อนก่อน สี่หนุ่มได้นั่งคุยเรื่องธุรกิจกันไปดื่มไวน์กันไป ส่วนสาวๆ ก็นั่งคุยการเรื่องงานเรื่องแฟชั่นกระเป๋ารองเท้าและต่อด้วยการนั่งเลือกชุดเซตเพื่อนเจ้าสาวกัน "ยายพิมพ์ ทำไมวันนี้แกดื่มน้ำส้มนางเอกมากไปแล้วนะ ปกติแกชอบกินไวน์แดงไม่ใช่เหรอ" เนตรทรายถามเพื่อน "บ้า ปกติยายพิมพ์มันก็นางเอกนะเว้ย นางเอกที่ชื่ออะไรนะ เมรีใช่มั้ยวะ" มะนาวแกล้งพูดว่าเพื่อน "ฉันเลิกแล้ว ไม่กินแล้วไวน์ เลิกเป็นเมรีขี้เมาโดยเด็ดขาด" พิมพ์ลภัสบอกเพื่อนน้ำเสียงจริงจังมาก "จริงเหรอวะ ไวน์แดงที่แกชอบกินแกเลิกมันได้จริงๆ เหรอวะยายพิมพ์" มาดาถามย้ำ "เออเลิก เลิกกินจริงๆ ไม่ว่าจะไวน์แดงไวน์ขาว แอลกอฮอล์ทุกชนิดเลิกหมดเว้ย ฉันจะกินน้ำเปล่าแทนแล้วกัน พูดแล้วก็รู้สึกปวดฉี่ว่ะ พวกแกนั่งเลือกแบบชุดเพื่อนเจ้าสาวให้ยายอายกันไปก่อนนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนเดี๋ยวกลับมานะ" พิมพ์ลภัสบอกเพื่อน พิมพ์ลภัสเดินไปเข้าห้องน้ำภายในบ้าน ทำธุระเสร็จแล้วก็เดินออกมาแต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูห้องน้ำก็โดนคมกริชเดินเข้ามาแล้วรวบเอวบางดันกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่อีกครั้ง "ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ นี่คุณจะทำอะไร อย่ามาทำอะไรบ้าๆ นี่มันในบ้านของฉันนะ ปล่อยฉันนะไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้พี่หมึกกับพ่อได้ยินจริงๆ ด้วย" "ร้องเลยจ้ะเมียจ๋าร้องให้ดังๆ ให้ไอ้หมึกได้ยิน เอาให้พ่อกับแม่ของน้องพิมพ์ได้ยินด้วยจะยิ่งดีมาก ดีเหมือนกันนะเขาจะได้รู้กันไปเลยว่าเราสองคนได้กันตั้งแต่สามวันแรกที่พิมพ์กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว" "ไอ้เลว ฉันไม่ได้เต็มใจจะเป็นเมียของแกอย่ามาพูดจาพล่อยๆ ในบ้านของฉัน" ด่าเสร็จพิมพ์ลภัสก็ได้ยกมือขึ้นตบหน้าคมกริชอย่างแรงจนหน้าหันไปตามแรงตบ "ตบเหรอ มือหนักปากก็แรงด่าเก่ง ปากอย่างนี้น่าจะหวานอย่าบอกใครเลยนะ" คมกริชใช้ลิ้นดุ้นแก้มข้างที่โดนตบจนชาแล้วดึงร่างบางมาประกบจูบปาก จูบดูดริมฝีปากบางที่ช่างด่าเก่งปากร้ายปากคมให้หลาบจำ คมกริชจูบลงทัณฑ์อยู่เนิ่นนานจนพิมพ์ลภัสเริ่มหายใจลำบากจึงดิ้นประท้วง คมกริชจึงยอมปล่อยแต่เมื่อปล่อยแล้วพิมพ์ลภัสก็ได้ยกมือขึ้นฟาดไปที่หน้าของคมกริชอีกสองครั้งด้วยแรงอารมณ์โกรธและอับอาย "ไอ้เลว" ตบและด่าเสร็จพิมพ์ลภัสจึงหมุนตัวหมายจะเดินหนีออกจากห้องน้ำ แต่ก็โดนคมกริชดึงเอวบางกลับมากอดไว้แล้วปล้ำจูบอีกครั้ง พิมพ์ลภัสสู้แรงไม่ไหวจึงโดนคมกริชปล้ำจูบจนพิมพ์ลภัสแทบจะไม่มีแรงยืนต้องยกมือขึ้นจับยึดหน้าอกแกร่งเอาไว้ เมื่อเห็นว่าพิมพ์ลภัสเริ่มสิ้นฤทธิ์แล้ว คมกริชจึงหยุดปล้ำจูบแล้วกอดพิมพ์ลภัสไว้แนบอก กอดเอาไว้ด้วยใจเสน่หา "พอใจแล้วยังที่ได้ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยปล่อยฉันออกไปด้วย ฉันเกลียดคุณได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียด..." "ปากดีอีกนะ อยากโดนกัดปากอีกสักรอบใช่มั้ย" "ปล่อยฉันสิ นี่มันในห้องน้ำนะ จะบ้าหรือยังไง" "ใช่พี่บ้า พี่คงบ้ารักพิมพ์ แล้วที่กอดพิมพ์ไว้ก็เพราะคิดถึงมีใจเสน่หาในตัวของเมียตัวเองมันจะผิดตรงไหน" "ผิดที่ฉันไม่ได้คิดว่าคุณเป็นผัวของฉันไง อย่ามายุ่งกับฉันได้มั้ย" พิมพ์ลภัสพูดบอกคมกริช พอดีกับที่พี่ชายตะโกนเรียกหาน้องสาวและเพื่อนสนิทที่ได้หายเข้ามาในบ้านเพื่อเข้าห้องน้ำมานานแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม