“ยินดีกับนายใหญ่แล้วก็แฟนนายใหญ่เรื่องเจ้าตัวเล็กล่วงหน้าเลยนะคะ” ใจมันวูบโหวงแปลกๆ เมื่อพูดเช่นนั้นออกไป นี่เธอเป็นอะไร อย่าบอกนะว่าตกหลุมรักได้แม้กระทั่งคนที่ยังไม่เคยเห็นหน้า
พันแสงแสยะยิ้มร้ายกาจ เขาขยับใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวในอ้อมแขนแล้วกระซิบบอกเจ้าหล่อนด้วยน้ำเสียงสุดแสนเซ็กซี่ “ผมยังโสด ตอนนี้กำลังมองๆ หาแม่ของลูกอยู่ครับ”
“ระ.. ระ เหรอคะ” เพลงรักพูดตะกุกตะกัก เธอรีบผินหน้าหนีสายตาพันแสง สองแก้มเห่อร้อนขึ้นมาจนน่ากลัวว่ามันจะแดงจนแสดงออกให้คนที่นั่งซ้อนหลังเธอได้รับรู้
บ้าจริง!เขาคงไม่ได้หมายถึงเธอหรอกใช่ไหม
จะเป็นไปได้อย่างไร เขาก็เห็นนี่ว่าเธอมีลูกแล้ว
เพลงรักพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆ เหล่านั้นให้หลุดออกไปแล้วปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างที่แวบเข้ามาในห้วงความคิด เมื่อครู่นั้นเธอแค่เข้าใจผิดไปเอง
“ไร่กว้างดีนะคะ ขี่ม้ามาตั้งนานแล้วยังไม่ถึงที่ชมพระอาทิตย์ตกเลย” เธอเฉไฉพูดไปเรื่องอื่น
ฮึ! เปลี่ยนเรื่องเก่งจังนะแม่คุณ
“อันที่จริงจากสำนักงานมาที่จุดชมพระอาทิตย์ตกมันก็ไม่ไกลกันมากหรอกครับ แต่ที่เรายังไม่ถึงสักทีเพราะม้ามันมัวแต่เดิน ถ้ามันวิ่งพาเราไป แป๊บเดียวก็ถึง” เขาพูดจบก็หันไปดูอิษวัตซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าตัวเดียวกันกับผู้จัดการไร่ ท่าทางของเด็กชายไร้ซึ่งความกลัว หนำซ้ำยังดูสนุกสนาน “น้องพีทครับ กลัวไหมครับ” พันแสงตะโกนถามลูกชาย
“ไม่คร้าบบบ น้องพีทสนุกมากๆ แต่น้องพีทอยากให้ม้าวิ่ง ให้ม้าวิ่งได้ไหมครับ”
“ได้สิครับสุดหล่อ”
เด็กน้อยยิ้มแฉ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น แตกต่างจากผู้เป็นแม่ที่ยามนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ขนาดให้ม้าพาขี่เดิน เธอยังกลัวแทบฉี่ราด หากมันวิ่งมีหวังได้หัวใจวายเป็นแน่
พันแสงพยักหน้าให้ปวรรุจเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าอนุญาตให้ทำเรื่องที่เด็กชายอิษวัตต้องการได้
ทันทีที่ได้รับอนุญาต ผู้จัดการหนุ่มก็ใช้เท้ากระทุ้งที่ท้องม้าเพื่อให้ม้าวิ่งทันที
“เรารีบตามน้องพีทไปกันดีกว่าครับ” เขาบังคับม้าให้วิ่งไปข้างหน้าทันทีโดยไม่รีรอให้เพลงรักพูดอะไร และเป็นอย่างที่คิดไว้ หญิงสาวตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา แน่นอนว่านี่เป็นจังหวะที่ดี..
มือเพียงข้างเดียวก็ใช้บังคับม้าได้ ส่วนอีกข้างที่เหลือไว้ พันแสงใช้โอบเอวคอดแล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามาแนบชิด ด้วยเพราะอารมณ์ชั่ววูบทำให้เขาเผลอทำอะไรโดยที่ไม่คิด ชายหนุ่มก้มลงแล้วฝังจมูกลงบนแก้มแม่ของลูกเต็มรัก
“คุณ!” เพลงรักโกรธจนตัวสั่น ความหวาดกลัวต่อตัวม้ามลายหายไปแทบสิ้น “เมื่อกี้คุณทำอะไร” จริงอยู่ที่ว่าเขามีฐานะเป็นเจ้านาย แต่ชายหนุ่มไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้กับเธอ
พันแสงดึงบังเ**ยนบังคับให้ม้าหยุด ชายหนุ่มมองไปข้างหน้าก็ไร้ซึ่งเงาของปวรรุจและอิษวัต คาดว่าทั้งคู่คงไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกกันแล้ว
“ผมขอโทษ คือผม.. ผมแค่เผลอทำอะไรไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ”
ยิ่งได้ยินเช่นนั้นเพลงรักก็ยิ่งโกรธจนควันออกหู พูดให้ไอ้ด่างข้างบ้านเธอฟังมันยังไม่เชื่อเลย เมื่อครู่หาใช่เพียงริมฝีปากเฉียดแก้มไม่ แต่เจ้าของไร่หอมแก้มเธอเสียฟอดใหญ่
แบบนี้เรียกตั้งใจไม่ใช่เผลอโว้ย!
“เพลงว่าคุณคงเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง เพลงมาสมัครงานที่ไร่ของคุณในตำแหน่งเลขาฯ ไม่ได้มาเพื่อขายตัว!” เธอพูดจบก็ขยับตัวอย่างตั้งใจว่าจะลงจากหลังม้า ด้วยว่าทนอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้อีกต่อไป มีอย่างที่ไหนเจอกันแค่วันแรกก็ทำกับเธอขนาดนี้แล้ว ไม่อยากคิดเลยวันข้างหน้าที่ทำงานร่วมกันจะเป็นเช่นไร ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเงินเดือนเลขานุการถึงได้สูงลิ่วขนาดนั้น ไหนจะค่าปรับลาออกก่อนครบกำหนดนั่นอีกละ
มีหรือที่พันแสงจะยอมให้เธอหลุดพ้นเงื้อมมือไปได้ง่ายๆ ชายหนุ่มรีบคว้าเอวแม่ของลูกเอาไว้ก่อนที่เธอจะลงจากหลังม้าได้สำเร็จ
“ปล่อยนะ คุณทำบ้าอะไรเนี่ย” เธอพยายามแกะมือเขาออกจากเอวโดยไม่กลัวเลยว่าตัวเองจะตกจากหลังม้า ทว่ายิ่งพยายามเท่าไหร่ เจ้านายชีกอก็ยิ่งกอดเธอไว้แน่นมากขึ้นเท่านั้น
ได้! จะเอาแบบนี้ใช่ไหม
อยากเห็นนักว่าผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนี้หน้าตาเป็นยังไง
มือน้อยคว้าหมับเข้าที่ปีกหมวกแล้วกระชากมันออกอย่างไม่เกรงกลัวว่าตัวเองจะถูกไล่ออก หนำซ้ำยังต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น เพราะเธอจะได้ไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนทำงานที่นี่ให้กับ..
“พี่ซัน!” แทบไร้เรี่ยวแรงจะเปล่งเสียงออกมาเมื่อหมวกและแว่นตาที่ชายหนุ่มใช้ปิดบังใบหน้าถูกเธอกระชากออก