อ่อนโยนโอนไว

893 คำ
สองแม่ลูกเดินจูงมือกันมุ่งตรงไปยังอาคารสำนักงานของไร่พันแสงไวน์เนอรี่ อันเป็นสถานที่ที่ผู้จัดการไร่แจ้งว่าให้เพลงรักไปสัมภาษณ์งานที่นั่น “แม่เพลงๆ น้องพีทอยากขี่ม้า” ทันทีที่ดวงตาเหลือบไปเห็นม้าสีน้ำตาลตัวใหญ่ เด็กชายก็ดึงเสื้อเรียกแม่ให้หยุดเดินด้วยว่าสนใจม้าตัวนั้น เพลงรักหันมองตามสายตาลูกชาย ม้าตัวที่อิษวัตพูดถึงทั้งตัวใหญ่และน่าเกรงขาม ใกล้กันกับม้าตัวนั้นยังมีม้าอีกหลายตัว แต่ขนาดตัวเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด “วันนี้แม่มาสัมภาษณ์งาน แล้วตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาแล้วด้วย เอาอย่างงี้ไหมครับน้องพีท แม่สัมภาษณ์งานเสร็จเมื่อไหร่แล้วจะพาไปถามคุณลุงคนดูแลม้าว่าให้น้องพีทขี่พี่ม้าตัวนั้นได้ไหม” ไร่พันแสงไวน์เนอรี่แห่งนี้นอกจากปลูกองุ่นหลายสายพันธุ์และผลิตไวน์แล้วยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชม ทั้งยังมีบ้านพักและร้านอาหารไว้บริการอีกด้วย เป็นโชคดีของเธอไม่น้อยที่เรียนจบเพียงไม่นานก็ถูกเรียกให้มาสัมภาษณ์งานแล้ว แม้ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้งานทำทันที แต่หากที่นี่ตอบรับเข้าทำงาน แน่นอนว่าเธอยอมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป “แม่เพลงสัญญากับน้องพีทแล้วนะ” “คร้าบบบ แม่สัญญา” เด็กชายอิษวัตยิ้มแฉ่ง “เย้ๆ น้องพีทจะได้ขี่พี่ม้าแล้ว น้องพีทเห็นในการ์ตูน เจ้าชายชอบขี่ม้า” “มีเจ้าชายแล้วก็ต้องมีเจ้าหญิงสิ ไหนเจ้าหญิงของน้องพีท” นิ้วเล็กๆ ชี้มาทางเธอก่อนที่อิษวัตจะอ้าปากพูด “แม่เพลงไงเป็นเจ้าหญิงของน้องพีท” คำตอบของลูกทำเอาแม่หัวใจฟูฟ่องพองโต เพลงรักปลื้มปริ่มจนยิ้มไม่หุบ ชีวิตเธอมีอิษวัตและครอบครัวก็มีความสุขแล้ว ลูกเป็นดังแก้วตาดวงตา พ่อแม่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ที่คอยโอบกอดเธอไว้ ให้ความอบอุ่นและปกป้องคุ้มครอง เพียงแค่นี้ชีวิตก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว “น้องพีทก็เป็นเจ้าชายสุดหล่อของแม่เพลง ยิ่งโตยิ่งหล่อ” หนำซ้ำยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อมากขึ้นไปทุกวัน ใช้หางตามองยังรู้เลยว่าอิษวัตเป็นลูกของใคร ดังเช่นที่พ่อของอิษวัตมองลูกชายผ่านกล้องส่องทางไกลจากบ้านพักเจ้าของไร่ในยามนี้ วินาทีแรกที่เห็นหน้าลูกนั้นทำให้พันแสงแทบไม่มีแรงพยุงสองขาให้หยัดยืนไหว มือข้างซ้ายและขวาไหวสั่นระริก หัวใจเจ็บแปลบปลาบราวกับโดนสายฟ้าฟาดลงมากลางอก ทว่ามีอีกหนึ่งความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั่นคือยินดีเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ให้กำเนิดเด็กน้อยตัวเล็กๆ กับผู้หญิงที่รักสุดหัวใจอย่างเพลงรัก พันแสงมองสองแม่ลูกจนกระทั่งทั้งคู่เดินหายลับเข้าไปในอาคารสำนักงานของไร่พันแสงไวน์เนอรี่ ชายหนุ่มวางกล้องส่องทางไกลไว้บนโต๊ะแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาตอนไหนก็ไม่อาจรู้ได้ “จะเอายังไงต่อวะ” ปวรรุจที่นั่งดื่มกาแฟอยู่บนโซฟาเอ่ยถามเจ้าของไร่ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้านายและมีความสัมพันธ์ส่วนตัวในฐานะเพื่อนสนิท “ยังคิดไม่ออก แต่ยังไงฉันก็ต้องทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อของลูก ยัยนั่นกล้าดียังไงถึงได้ปิดบังเรื่องลูกกับฉันตั้งหกปี” หลังจากที่เห็นใบสมัครงานของเพลงรัก พันแสงก็ให้ปวรรุจช่วยสืบความเป็นไปของเจ้าหล่อนคร่าวๆ ว่าตอนนี้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง และที่สำคัญเธอมีใครจับจองหัวใจหรือยัง แต่ดันไปรู้เรื่องที่ว่าหญิงสาวมีลูกชายอายุห้าขวบ ซึ่งเห็นแค่ภาพถ่ายของเด็กชายอิษวัต พันแสงก็รู้ในทันทีว่าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขตน ด้วยว่าใบหน้านั้นแทบจะถอดแบบกันมาเป๊ะๆ “ให้หาทนายให้ไหมวะ” หากต้องการเพียงแค่ลูก การดำเนินการทางกฎหมายคงตอบโจทย์มากที่สุด แต่นี่ไม่ใช่ เพราะเขาต้องการทั้งลูกและ.. แม่ของลูก “ไม่จำเป็น เรื่องนี้ฉันจัดการเอง แกไปสัมภาษณ์งานเพลงแล้วเสนอเงินเดือนให้เธอหนึ่งแสน โดยมีข้อแม้ว่าห้ามลาออกจนกว่าจะครบหนึ่งปี ถ้าลาออกเธอต้องชดใช้เงินให้ทางเราหนึ่งล้านบาทเป็นค่าขาดผลประโยชน์ ถ้ายัยนั่นตั้งคำถามว่าทำไมเงินเดือนสตาร์ทมันเยอะจัง แกก็บอกไปว่างานที่ไร่ต้องการคนมีความสามารถ และคุณสมบัติของเพลงรักครบทุกข้อ หรือแกจะตอบว่าอะไรก็ได้ ขอแค่ให้เพลงรักยอมตอบตกลงทำงานกับเราก็พอ อ้อ! ร่างสัญญามาให้ยัยนั่นเซ็นด้วยนะว่าต้องทำงานให้ครบหนึ่งปี ไม่อย่างนั้นต้องจ่ายค่าปรับหนึ่งล้านบาท” ผู้จัดการไร่ปรายตามองเพื่อนสนิทแล้วจิ๊ปาก “กับผู้หญิงสายเปย์จังนะ” พันแสงไหวไหล่ “แน่นอนครับ สโลแกนผมคืออ่อนโยนและโอนไว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม