EP. 10 คุณจับฉันมาทำไม
“เธอกำลังยั่วฉัน” เขาก้มลงกระซิบพร่าข้างใบหูของหญิงสาว เมื่อแนบชิดเนื้อนวลน่าสัมผัสเขาก็มิอาจหักห้ามใจไม่ให้ลองลิ้มชิมรส
“ฉันไม่เคยยั่ว ปล่อยฉันนะ”
“นี่หรือเรียกว่าไม่ยั่ว ที่แท้เธอก็อารมณ์เปลี่ยวที่พ่อของฉันปรนเปรอเธอได้ไม่เต็มที่ แหม...ก็ต้องทำใจในเมื่อเลือกเงินก็ต้องทนนอนกับชายแก่คราวพ่อ”
“ทุเรศ” หญิงสาวกัดฟันกรอด ไม่สามารถทนฟังถ้อยคำหยาบคายที่ออกมาจากปากชายหนุ่มได้อีกต่อไป ทว่าคนหน้าดุกลับแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ
เพียงขวัญจึงตัดสินใจยกศีรษะขึ้นโขกกับหน้าผากของชายหนุ่มเต็มแรง ได้ผลคนตัวโตยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมศีรษะอย่างไม่คาดคิด หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นผลักชายหนุ่มล้มลง แล้วยื่นมือไปกระตุกสายสร้อยเงินที่สะโพกของเขาจนขาด ลนลานไขกุญแจทว่ายิ่งรีบกลับยิ่งช้าเมื่อธรณ์เทพย่างสามขุมเดินเข้าหาหญิงสาวด้วยใบหน้าดุดัน หนวดเคราของเขายิ่งส่งให้ดวงตากร้าวดูดุร้ายป่าเถื่อน เหมือนพวกคนป่าไร้วัฒนธรรม ตัดสินทุกอย่างด้วยกฎที่ตนตั้งมันขึ้นมาเองแทนที่จะใช้กฎหมายอย่างคนมีความรู้
หล่อนหันไปคว้าที่เปิดขวดบนโต๊ะขึ้นมาถือไว้ หมายใจว่าจะหยัดสู้สุดกำลัง
“เธอทำร้ายฉันถึงสองครั้งแล้วนะเพียงขวัญ”
เขาปราดเข้าหาหล่อนอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเบี่ยงตัวหลบ “แล้วนี่จะเป็นครั้งที่สาม” หญิงสาวง้างที่เปิดขวดขึ้นสูงหมายจะฟาดเข้าที่ศีรษะของชายหนุ่ม ทว่าคนตัวโตไวกว่าเขาพลิกตัวกลับแล้วบิดมือบาง
“โอ๊ย!” หญิงสาวปล่อยที่เปิดขวดหลุดมือ นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“คิดหรือว่าฉันจะยอมให้เธอทำร้ายฉันได้อีก ฝันไปเถอะ” รั้งร่างบางเข้าหาก่อนจะผลักแรงจนหญิงสาวล้มลงบนที่นอน ร่างหนาปราดเข้าทาบทับทันที
“แสร้งขัดขืนแบบนี้มันดูเร้าใจกว่าใช่มั้ย ทำท่าทางไร้เดียงสา ตัวสั่นด้วยความกลัวแบบนี้ เพราะเธอรู้ใช่มั้ยว่าถ้าแสดงอาการแบบนี้มันกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชาย” เขาไล้มือไปที่แก้มนวลและริมฝีปากซีดที่สั่นด้วยความหวาดกลัว มองว่ามันคือมารยาสาไถยของหญิงสาวหาได้มาจากความรู้สึกที่แท้จริง
“แล้วที่ตัวสั่นแบบนี้ก็เพราะร่านอยากให้ฉันสนองตัณหา”
“ทุเรศ คุณมัน...”
ถ้อยคำผรุสวาทถูกกลืนหายเมื่อชายหนุ่มครอบครองเรียวปากของหญิงสาวเอาไว้ ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปควานหาความหอมหวาน ตวัดเร้าหยอกเอินกับปลายลิ้นไม่ประสาจนเพียงขวัญเผลอจูบตอบเขาอย่างเผลอไผล คนตัวโตเลื่อนมือลงไปสำรวจเรือนร่างสมส่วน ลูบไล้ต้นขาขาวนวลช้าๆ แล้วจึงค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาหยุดอยู่บริเวณท้องน้อย จนสุดท้ายมาหยุดอยู่ที่เอวคอดกิ่ว
เพียงขวัญแทบหายใจหายคอไม่ทัน เมื่อเขาดันแผ่นหลังของหล่อนขึ้น แล้วใช้ปลายนิ้วปลดตะขอบราเซียร์สีดำของหล่อนออก กอบกุมทรวงอกที่เขาเคยสัมผัสและตื่นตากับมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงขวัญจะซ่อนรูป เรือนร่างผอมบางทว่ากลับมีส่วนสัดที่เย้ายวนทรมานใจชาย
“เธอมันนางแม่มด” เขาผละออกจากริมฝีปากอิ่ม เลื่อนลงไปซุกไซ้ซอกคอขาว หนวดเคราที่คางสัมผัสนวลเนื้อทำให้เพียงขวัญหายใจติดขัด เมื่อเขาเลื่อนต่ำลงไปโดยใช้คางของเขาไล้ไปบนเนินอกช้าๆ วนเวียนก่อนจะขบเม้มทรวงอกของหล่อน เพียงขวัญแอ่นรับสัมผัสแปลกใหม่ด้วยหัวสมองขาวโพลน หล่อนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้ อีกทั้งสองมือของหล่อนยังโอบกอดเขาไว้อย่างสมยอม
“อือ...” หญิงสาวครางแทบไม่ได้ศัพท์เมื่อเขาดูดกลืนปลายดอกบัวสีชมพูระเรื่อเข้าไปในปากอุ่น ดันลิ้นตวัดเร็วจนหญิงสาวเลื่อนมือขึ้นมาดึงทึ้งผมของธรณ์เทพไว้ด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน
เขาควรที่จะหยุดอยู่แค่นั้น ทว่าไม่เลย...เมื่อมือหนาที่กุมสะโพกผายเลื่อนมากอบกุมเนินหนั่นแล้วแทรกปลายนิ้วเข้าไปสัมผัสอย่างจงใจ
“อือ...ไม่” หญิงสาวทั้งรู้สึกว่าต้องการและปฏิเสธเขาในคราวเดียวกัน เมื่อนิ้วเริ่มขยับหญิงสาวก็ครวญครางออกมาแผ่วเบา
ธรณ์เทพกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเสียงครางรัญจวนใจดังอยู่ข้างๆ ใบหู มันทำให้สติที่เขาพยายามควบคุมเอาไว้หลุดลอย และก่อนที่ทุกอย่างมันจะออกนอกลู่นอกทางเกินกว่าที่เขาวางแผนไว้ ชายหนุ่มก็ผละออกจากหญิงสาวมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียงทันที มือข้างหนึ่งถือสร้อยเงินที่ร้อยกุญแจเอาไว้ หรี่ตามองหญิงสาวอย่างสมเพช
“ที่แท้ก็แค่โสเภณีชั้นต่ำ คิดหรือว่าฉันจะลงไปเกลือกกลั้วผู้หญิงร่านอย่างเธอ อย่าหวังว่าเธอจะสมหวังเพราะฉันจะไม่ยอมให้เธอได้มีความสุขบนความทุกข์ของดวงวิญญาณคุณพ่อ”
ตรงเข้ากระชากร่างบางที่นอนระทวยอยู่บนเตียงให้ลุกออกจากเตียง กัดฟันเข้าหากันเป็นสันนูน เมื่อสภาพของหญิงสาวเซ็กซี่เย้ายวนจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้ ใบหน้าแดงก่ำกอปรไปด้วยริมฝีปากเจ่อจากรสจูบ ดวงตาหวานปรือฉ่ำจากการเล้าโลมเมื่อสักครู่ทำให้ผู้หญิงที่มักทำท่าทางเหนียมอายและประหม่าอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นนางเสือร้ายที่เขาต้องระวังตัว