EP. 9 คุณจับฉันมาทำไม
“คุณจับฉันมาทำไม คนบ้าปล่อยฉันไปนะ”
“หยุดเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากนอนเป็นศพอยู่ในโรงแรมนี่” เสียงตวาดดังลั่นส่งผลให้หญิงสาวผงะ ใบหน้าหวานซีดเผือดจ้องมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ
“คุณจับฉันมาทำไม”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเธอเพียงขวัญ” เขาตะคอกเสียงดังแล้วโยนขนมปังให้หล่อนหนึ่งก้อน วางน้ำหนึ่งขวดไว้ที่พื้น
“กินแล้วนอนซะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อแต่เช้า”
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“พูดมากไม่กินใช่มั้ย” ชายหนุ่มฉวยขนมปังคืนทันที เพียงขวัญอ้าปากค้าง นาทีนี้ถ้าหล่อนไม่ได้ขนมปังก้อนนั้นหล่อนจะต้องหิวจนตายแน่ๆ คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ตรงเข้ายื้อยุดขนมปังจากชายหนุ่มทันที ทว่าคนตัวโตกลับโยนมันทิ้งลงถังขยะที่วางอยู่หน้าห้องน้ำอย่างไม่ยี่หระ สาวเท้าอย่างเชื่องช้ากระโดดขึ้นไปนอนเอกเขนกบนที่นอน แล้วหยิบรีโมตมาเปิดโทรทัศน์เสียงดัง
เพียงขวัญยืนนิ่งตัวสั่นด้วยความกรุ่นโกรธ โซ่ที่ล่ามหล่อนนั้นยาวพอที่จะเดินไปถึงห้องน้ำเพื่อทำกิจธุระส่วนตัว และแน่นอนมันยาวพอที่จะทำให้หล่อนเดินไปหยิบขนมปังในถังขยะขึ้นมา ความจริงแล้วมันยังอยู่ในถุงพลาสติกไม่ได้สกปรกอะไร ทว่าถึงหล่อนจะไม่ใช่ผู้ดีมีสกุลแต่หล่อนก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง หล่อนมีศักดิ์ศรีและจะไม่ยอมให้คนป่าเถื่อนมาเหยียบย่ำมันเป็นอันขาด
หญิงสาวทรุดตัวลงนั่ง หยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มจนหมดไปครึ่งขวด แล้วล้มตัวลงนอนบนพื้นข้างเตียง
“หึ...นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน”
ธรณ์เทพปิดโทรทัศน์แล้วผลัดเสื้อผ้านุ่งผ้าเช็ดตัวปิดบังเรือนกายส่วนล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อประตูห้องน้ำปิดลงเพียงขวัญก็ลืมตาขึ้นทันที หญิงสาวรีบเดินไปที่กองเสื้อผ้าของธรณ์เทพ ทว่าเสียงโซ่ลากพื้นทำให้หญิงสาวยืนนิ่งด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงตึกตัก ภาวนาว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำคงไม่ได้ยิน
เมื่อเสียงน้ำจากฝักบัวยังดังไม่ขาดสาย หล่อนจึงหยิบโซ่ขึ้นเพื่อไม่ให้ลากพื้น ค้นหากุญแจในกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกง ทว่ากลับไม่มี หญิงสาวถอนหายใจแล้วเงยหน้าขึ้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างกึ่งเปลือยยืนมองหล่อนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
“คิดจะเป็นขโมยอย่างนั้นหรือ”
หญิงสาวทิ้งโซ่ตรงลงพื้นเสียงดัง หมุนตัวกลับเมื่อชายหนุ่มปราดเข้าหาหล่อนอย่างรวดเร็ว
“ว้าย!”
หวีดร้องอย่างสุดเสียง เมื่อเขากระชากร่างบางเข้าหาอกกว้างที่บัดนี้เต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะพราวไปทั่วทั้งตัว มันดูเซ็กซี่และน่าหวาดหวั่นในคราวเดียวกัน
“อย่าคิดจะหนี เพราะไม่ว่าเธอจะหนีไปที่ไหนฉันก็จะลากเธอกลับมา คิดหรือว่าฉันจะปล่อยให้ฆาตกรอย่างเธอลอยนวล ฉันไม่มีวันปล่อยผู้หญิงไร้ยางอายอย่างเธอออกไปทำร้ายผู้ชายคนอื่นอีก เธอต้องอยู่กับฉันมันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ” ชายหนุ่มบีบแรงที่ปลายคางจนใบหน้าสวยบิดเบี้ยวผิดรูป
เพียงขวัญปัดมือชายหนุ่มออก “คุณไม่มีสิทธิ์มากักขังฉัน คอยดูนะถ้าฉันหนีไปได้เมื่อไหร่ฉันจะแจ้งตำรวจจับคุณเข้าคุก”
“ตามสบายถ้าแน่ใจว่าจะหนีออกไปได้” พูดน้ำเสียงเยาะเย้ย เขาปล่อยหล่อนแล้วเดินหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องน้ำ จังหวะที่เขาหันกลับมามองหล่อน สายตาของหญิงสาวพลันไปกระทบวัตถุสีเงินที่สะโพกสอบ มันคือสร้อยเงินเส้นยาวรอบเอวและหล่อนมั่นใจว่ากุญแจโซ่ต้องห้อยอยู่กับสร้อยเงินเส้นนั้นอย่างแน่นอน
หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนพื้นอีกครั้ง เฝ้ารอเวลาที่จะได้รับอิสรภาพด้วยใจจดจ่อ เมื่อไฟในห้องดับสนิทเหลือเพียงแค่แสงจากโคมไฟหัวเตียงส่องสว่างอย่างเลือนราง หล่อนเงี่ยหูฟังจนมั่นใจว่าธรณ์เทพผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้าซึ่งนั่นหมายถึงการหลับสนิท
“เป็นไงเป็นกัน”
หญิงสาวค่อยๆ รวบโซ่มากองรวมกันไว้แล้วลุกขึ้นยืน กลั้นใจเลิกผ้านวมออก แล้วก็ต้องหลับตาปี๋เมื่อคนตัวโตเข้านอนโดยไม่ยอมสวมเสื้อผ้า มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนบางพันเรือนกายท่อนล่าง ซึ่งตอนนี้ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นก็หลุดลุ่ยเลิกขึ้นสูงจนเห็นต้นขาแข็งแกร่งมีขนขึ้นรำไร ผ้าเช็ดตัวรวมตัวกันยับยู่อยู่ระหว่างขาทำให้หญิงสาวหายใจไม่ค่อยสะดวก ค่อยๆ ยื่นมือออกไปเลื่อนผ้าเช็ดตัวที่เอวสอบ เผยให้เห็นกุญแจที่ร้อยติดกับสร้อยเงิน แต่แล้วความดีใจของหญิงสาวก็จางหาย
เพียงขวัญหน้าแดงก่ำ เมื่อกุญแจที่หล่อนต้องการห้อยอยู่ตรงกลางบริเวณท้องน้อย ทว่ามันต่ำเสียจน...หญิงสาวต้องเบือนหน้าหนี
“เอาน่าขวัญ อย่ากลัว”
หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันสนิท ใจเต้นแรงจนแทบกระโจนออกมานอกอก เมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับโลหะเย็นหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
กรี๊ด!
ร่างบางกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตกใจ เมื่อถูกตวัดแรงจนล้มหงายลงบนเตียงนุ่ม ร่างสูงพลิกตัวคร่อมร่างของหล่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว เรือนร่างเปลือยเปล่าสมชายชาตรีปราศจากอาภรณ์ปกปิด เพียงขวัญหายใจแรงหลับตาแน่น
“กล้ามากที่จะล้วงเอากุญแจจากเอวฉัน สารภาพมาเถอะว่าความจริงแล้ว...เธอไม่อยากได้กุญแจแต่อยากได้อย่างอื่น”
น้ำเสียงคาดคั้นทำให้หญิงสาวลืมตาขึ้น ใบหน้าแดงก่ำด้วยความกรุ่นโกรธ “น่าเกลียด สิ่งที่ฉันอยากได้คือกุญแจเท่านั้น”
หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง ฮึดฮัดพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดแข็งแกร่ง แต่ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งกอดรัด แล้วบางสิ่งบางอย่างที่เบียดชิดร่างกายของหล่อนอยู่ในขณะนี้มันก็พองโตจนหล่อนเหลือกตาโพลง