EP. 11 คุณจับฉันมาทำไม
“คุณใจร้ายมาก จิตใจคุณทำด้วยอะไร” หญิงสาวร้องถามเขาทั้งน้ำตา มือบางพยายามดึงเสื้อและก้มหยิบบราเซียร์ขึ้นมาสวมใส่ด้วยมืออันสั่นเทา
“ใจร้ายที่ไม่ยอมสานต่อให้เสร็จนะรึ” เขาบีบปลายคางเพื่อให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตา
“สกปรก จิตใจคุณคิดถึงแต่เรื่องสกปรก” เพียงขวัญสะบัดหน้าแรงๆ แล้วถอยห่าง จริงอย่างที่หล่อนสังหรณ์ใจไว้ไม่มีผิด ว่าไม่ควรอยู่ใกล้เขา เขาอันตรายเกินไป เพราะทุกครั้งที่เขาชิดใกล้ หญิงสาวแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
“สกปรกตรงไหนกันสาวน้อย ก็เห็นๆ อยู่ว่าเธอต้องการฉัน เสียงครางของเธอยังติดหูฉันอยู่เลย”
“น่าเกลียดที่สุด” หญิงสาวปราดเข้าทุบตีเขาด้วยความอับอาย แต่เขากลับใช้เพียงมือเดียวผลักหล่อนเซติดผนังห้องอย่างไม่เป็นท่า
ทั้งสองอยู่ในความเงียบต่างจ้องมองกันและกันนิ่งนาน แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีเสียงครางกระเส่าดังมาจากห้องข้างๆ ตามด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงที่ทำจากไม้เบียดเสียดกันเป็นจังหวะดังผสานไปกับเสียงคราง
เพียงขวัญหน้าแดงก่ำ ในขณะที่ธรณ์เทพเองก็ถึงกับยืนนิ่งไปหลายอึดใจ เมื่อเหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาสองนาฬิกา ชายหนุ่มก็สวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วจัดการมัดมือมัดเท้าหญิงสาวทันที
“ปล่อยฉันนะ มามัดฉันไว้ทำไม” หญิงสาวพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่สามารถสู้แรงของชายหนุ่มได้ ท้ายที่สุดเขาก็รวบร่างบางขึ้นพาดบ่าแล้วจับหล่อนยัดเข้าไปในรถ เพราะต่อให้ข่มตานอนต่อไปก็คงหลับไม่สนิท พลาดพลั้งอาจตบะแตกทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ
ชายหนุ่มปิดประตูรถปล่อยให้หญิงสาวดิ้นขลุกขลักร้องโวยวายอย่างไม่ยี่หระ ส่วนเขาเอนหลังพิงตัวรถถอนหายใจยาวเหยียด ยกมือขึ้นบีบขมับและสันจมูกด้วยความหนักใจ ยอมรับเลยว่าเพียงขวัญทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ อีกนิดเดียวเท่านั้นหากสติของเขาขาดสะบั้นนั่นก็เท่ากับว่าเขาเองก็ไม่ได้ต่างไปจากบิดา ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงอย่างเพียงขวัญเข้ามาครอบงำอย่างเด็ดขาด
“ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” หญิงสาวแหกปากร้องเสียงดังทันทีที่ชายหนุ่มเปิดประตูรถเข้ามา หวังว่าเสียงร้องขอความช่วยเหลือจะดังเล็ดลอดออกไปบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อชายหนุ่มปิดประตูรถแล้วหันมาจ้องหญิงสาวเขม็ง
“ถ้าแหกปากอีกละก็ฉันจะใช้ผ้าปิดปากเธอ”
เพียงขวัญลังเล สุดท้ายก็ยอมเงียบเสียง อย่างน้อยหล่อนควรจะมีปากเอาไว้ เผื่อโชคดีจะได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือได้บ้าง
ธรณ์เทพขับรถออกไปเมื่อเห็นว่าหญิงสาวสิ้นฤทธิ์ เขาขับรถเร็วแล่นไปยังท้องถนนต่างจังหวัดที่สองข้างทางเต็มไปด้วยท้องทุ่งและป่าเขา เพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมาลำแสงแรกของดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆ ถักทอแสงขึ้นจากโค้งทะเลสีคราม สาดแสงลงบนพื้นน้ำจนแปรเปลี่ยนเป็นสีทองระยิบระยับเป็นประกายไปกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดเข้าหาหาดทรายสีขาว เมื่อหันไปมองร่างบางที่นั่งสัปหงกมาตลอดทาง จึงเห็นว่าหล่อนตื่นแล้วและกำลังตื่นตาตื่นใจกับภาพสวยงามเบื้องหน้าไม่น้อย
“โห...สวยจัง”
“เด็ก” ชายหนุ่มส่ายหน้า เด็กอย่างไรก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำอายุแค่ยี่สิบปีแทนที่จะร่ำเรียนหนังสือแต่กลับมาริจับผู้ชายหวังรวยทางลัด
“ใครเด็ก” หญิงสาวหันมาแหวเสียงเขียว
“ลืมไปว่าไม่เด็กแล้ว ผู้หญิงที่นอนกับผู้ชายได้ถือว่าโตแล้วสินะ” ไม่วายค่อนขอดหญิงสาว เพียงขวัญเมินหน้าหนีออกไปยังนอกหน้าต่าง รู้ดีว่าเถียงไปก็ไม่ชนะ รังแต่จะเข้าเนื้อปวดแสบปวดร้อนเสียก็เท่านั้น
ล่วงเข้าเที่ยงวันชายหนุ่มแวะจอดที่ปั๊มน้ำมันข้างทาง เขาลงจากรถแล้วกลับเข้ามาพร้อมขนมปังอีกครั้ง เขานั่งรับประทานขนมปังเงียบๆ ไม่สนใจว่าจะมีสายตาหิวโหยที่จับจ้องมาที่ขนมปังของเขาตลอดเวลา ภายในไม่ถึงห้านาทีขนมปังสองก้อนก็ลงไปอยู่ในท้องของธรณ์เทพ ก้อนสุดท้ายเขาแกะพลาสติกออกก่อนจะโยนไปที่เบาะด้านหลัง
“กินซะ”
หญิงสาวอ้าปากค้าง มองขนมปังข้างกายสลับกับใบหน้าดุดันเต็มไปด้วยหนวดเคราด้วยความสงสัย
“แล้วจะให้ฉันกินยังไงคะ” หญิงสาวถามเสียงห้วนไม่สบอารมณ์ โมโหหิวจนตาลาย แต่เมื่อเห็นสายตาวาววับ ทั้งยังโน้มตัวมาหมายจะหยิบขนมปัง เพียงขวัญก็ตัดสินใจนอนทับขนมปังไส้เผือกชิ้นนั้นทันที
“จำไว้ว่าฉันไม่ชอบคนพูดมาก” ชายหนุ่มหันกลับแล้วขับรถต่อไปหน้าตาเฉย เพียงขวัญค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งมองขนมปังบี้แบนด้วยความสังเวชตัวเอง น้ำตาซึมขึ้นเกาะขอบตา หญิงสาวค่อยๆ โน้มตัวลงแล้วใช้ปากกินขนมปังช้าๆ จนหมดก้อนในที่สุด
“ขอกินน้ำได้มั้ยคะ” หลังจากนั่งลังเลอยู่นานจึงเอ่ยปากขอกับชายหนุ่ม พยายามไม่โกรธไม่เกลียดเขาเพราะถึงอย่างไรเขาก็คือลูกเลี้ยงของหล่อน เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของคนที่หล่อนเคารพรัก และเป็นผู้ชายคนแรกที่หล่อนฝันถึงมาตลอดสิบปี
“เรื่องมาก”
ชายหนุ่มหักรถเข้าข้างทาง เปิดขวดน้ำแล้วส่งให้หล่อน เพียงขวัญทำตาละห้อยมองขวดน้ำด้วยความกระหาย ในเมื่อหล่อนถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้แล้วหล่อนจะดื่มน้ำเองได้อย่างไร ธรณ์เทพสบถอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะหยิบหลอดขึ้นมาแล้วจึงป้อนหญิงสาวอย่างไม่เต็มใจนัก
“ขอบคุณ”
ชายหนุ่มตีหน้าเรียบขรึม เมื่อหญิงสาวเอ่ยขอบคุณ “อิ่มแล้วก็หุบปากเสียล่ะ” ตวัดเสียงห้วนแล้วหันกลับไปขับรถ เพียงขวัญลอบยิ้มน้อยๆ เมื่อสังเกตว่าธรณ์เทพไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไร แค่เป็นคนเถื่อนที่ไม่มีเหตุผลก็เท่านั้นเอง...