บทที่3
สถานะพี่น้อง
ธันวาลงมาเล่นน้ำกับข้าวปั้น ทั้งสองวิ่งไล่กันในน้ำและว่ายน้ำแข่งกัน ข้าวปั้นเริ่มมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เธอลืมเรื่องเครียดๆ ไปชั่วขณะ ธันวาเห็นเธอยิ้มได้เขาก็สบายใจเพราะเขาเห็นเธอทุกข์ใจมาหลายวันแล้ว
“ธันวาคะคืนนี้นิ่มตกลงนอนกับคุณนะคะ^^” นิ่มเดินลงมาบอกข่าวดีให้ธันวาได้รับรู้ว่าคืนนี้เธอพร้อมจะเป็นของเขาตามที่เขาต้องการแต่เธอส่งสายตามองข้าวปั้นเพื่อดูปฏิกิริยาแต่ข้าวปั้นยิ้มตาหยีกลับมาเท่านั้น
“จริงเหรอครับ ถ้างั้นเดี๋ยวผมพาคุณเอาของไปเก็บบนห้อง ข้าวปั้นเธอเล่นน้ำไปก่อนนะเดี๋ยวฉันมา”
“ค่ะ”
หลังจากนั้นร่วม3ชั่วโมงข้าวปั้นต้องนั่งรอจนเสื้อผ้าแห้งแล้วแห้งอีก กว่าธันวาจะลงมาเธอไม่มีคีย์การ์ดโทรไปหาเขาก็ไม่รับสาย ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกปวดหัวจึงรีบขอคีย์การ์ดจากชายหนุ่มก่อนจะขึ้นมานอนพัก เธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจที่เขามีผู้หญิงมาด้วยแต่เธอแค่รอจนไม่สบายและอยากอาบน้ำนอนเท่านั้น
วันต่อมา
ธันวาเดินมาเคาะห้องพักของข้าวปั้นเธอจึงเดินมาเปิดด้วยสภาพอิดโรยเนื่องจากพิษไข้ เขาเองก็รู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอป่วยจึงขอเข้ามาดูแาการของเธอหน่อย
“วันนี้หนูขอไม่ไปเที่ยวนะคะ หนูรู้สึกไม่สบายขอนอนพักดีกว่าค่ะ”
“แล้วมียากินหรือยังเดี๋ยวฉันจะได้ซื้อมาให้”
“ขอบคุณค่ะ หนูรบกวนซื้อยาแก้ไอให้หนูด้วยนะคะ”
“อืมได้ เธอนอนพักเถอะ”
ฉันปิดประตูได้ก็ทิ้งตัวลงนอนต่อไม่รู้เรื่องเลยจนอาจารย์เข้ามาดูอาการของฉันด้วยคีย์การ์ดสำรอง ฉันรู้สึกเกรงใจมากกว่าเดิมเพราะฉันเห็นสายตาของพี่นิ่มดูแปลกๆ ไป พี่นิ่มยืนกอดอกมองอาจารย์แกะยาเตรียมน้ำให้ฉันไหนจะวัดไข้ให้ฉันด้วย ฉันไม่ได้คิดอะไรอกุศลแบบนั้นเลยนะ
“ดูธันวาห่วงลูกศิษย์คนนี้เป็นพิเศษนะคะ”
“ข้าวปั้นก็เหมือนน้องสาวผมคนนึง อยู่บ้านเดียวกันไม่ต่างจากพี่น้องกันหรอกครับ”
“งั้นเหรอคะ” นิ่มยกยิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินหนีออกไปนั่งรอด้านนอก
“อาจารย์หนูว่าอาจารย์ไปดูแลพี่นิ่มเถอะค่ะ วันนี้อาจารย์ตั้งใจจะพาพี่นิ่มไปเที่ยวไม่ใช่เหรออย่ามาเสียเวลาดูแลคนป่วยเลยค่ะหนูโตแล้วดูแลตัวเองได้”
“เอางั้นเหรอ”
ธันวามองสาวน้อยตรงหน้า เธอไม่ยอมสบตาเขา ครั้นจะซักไซ้ถามก็คงไม่ยอมตอบเธอปากแข็ง หัวดื้อเป็นที่สุด
“ถ้างั้นฉันไปละ เธอก็พักผ่อนเยอะๆ มีอะไรก็โทรมา”
“ค่ะ”
ว่าจบธันวาก็เดินออกจากห้องเพื่อพาสาวสวยที่เป็นเหมือนของเล่นชิ้นใหม่ออกไปเที่ยวกว่าจะได้กลับก็มืดค่ำ เขาไม่ลืมที่จะแวะเวียนมาหาข้าวปั้นเพื่อดูอาการแต่พอเห็นว่าไข้เธอลดแล้วเขาก็เบาใจและปล่อยให้เธอได้พักผ่อน
ถึงวันเดินทางกลับสาวสวยอย่างนิ่มต้องแยกกลับกันคนละคันเพราะนิ่มมีงานต่อต้องไปอีกจังหวัด เธอเป็นMCของค่ายรถยนต์ยี่ห้อดัง ทั้งสองนั่งรถกลับมาด้วยกันระหว่างทางข้าวปั้นก็หลับๆ ตื่นๆ กว่าจะถึงบ้านก็ตูดชาไปเลย
“ถึงสักที” ข้าวปั้นบิดขี้เกียจจนคนข้างๆ หันมามอง เขาสิต้องบ่นเพราะเขาเป็นคนขับรถข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งหลายชั่วโมง
“อึดอัดหรือเปล่าที่ฉันชวนนิ่มไปด้วย”
“ไม่ค่ะ ไม่อึดอัดเลย” นอนไข้ขึ้นอยู่บนห้องเอาอะไรมาอึดอัดวะ
ฉันฉีกยิ้มหวานให้อาจารย์จากนั้นก็ขนสัมภาระของตัวเองเข้าบ้านทั้งบ้านเงียบเหงามากพ่อคุณลุงคุณป้าไม่อยู่ ส่วนอาจารย์ธันวาก็ขอขึ้นไปนอนพัก ฉันที่นอนมาตลอดทางจึงหาเรื่องเข้าครัวแก้เซ็ง
ไข่ไก่4ฟองถูกฉันตอกเพื่อแยกไข่ขาวและไข่แดง ในส่วนของไข่แดงฉันนำมาตีกับน้ำตาลจนขึ้นฟูจากนั้นฉันก็ใส่นมน้ำมันคาโนล่าแป้งเค้ก ส่วนไข่ขาวฉันตีกับน้ำตาลจนขึ้นฟูก่อนจะนำมาผสมกันแล้วนำใส่พิมพ์เข้าอบ
ฉันหันไปมองหาน้ำส้มเข้มข้นเพื่อนำมาตวงใส่น้ำตาลใส่เกลือและแป้งกวนไส้เคี่ยวจนข้นจากนั้นก็ใส่เนยลงไปพักไว้พออุ่นๆ แป้งเค้กก็ออกจากเตาพอดี
ฉันตกแต่งด้วยผลไม้ที่มีอยู่ในตู้แล้วแช่เย็นเอาไว้ ส่วนชิ้นอื่นๆ ก็แบ่งให้พี่ๆ และป้าๆ แม่บ้านไปแบ่งกัน
“ส่วนอันนี้ของอาจารย์นะคะป้าจุก”
“เดี๋ยวป้าเรียนคุณธันวาเองค่ะ หนูข้าวปั้นไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ^^”
ด้านธันวาเขาตื่นลงมาในช่วงหัวค่ำตอนนี้แม่บ้านบางคนก็กลับไปแล้วเขาลงมาเห็นข้าวปั้นกำลังจัดโต๊ะอาหารรอเขาอยู่จึงรีบเดินลงมานั่ง เมนูวันนี้คือผัดฉ่าปลากะพง ยำไข่เค็ม เธอเก็บของในครัวออกมาทำเท่าที่จะทำได้
“เธอทำเองเหรอ”
“ใช่ค่ะ หนูเสียดายปลาซื้อมาแช่ไว้หลายวันแล้ว”
“อืม อร่อยดีเธอเก่งนะทำกับข้าวเป็นด้วย”
“ตอนอยู่บ้านพ่อต้องออกไปทำงาน แม่กับยายก็ต้องรับจ้างซักรีด หนูกลับจากโรงเรียนเลยต้องช่วยงานบ้านทำกับข้าวเพื่อแบ่งเบาภาระค่ะ”
ผมชอบความคิดของเธอ ครอบครัวเธอสอนมาดีถึงค่าเทอมที่โรงเรียนผมจะแพงแต่พ่อของเธอเคยเข้ามาคุยกับผมที่โรงเรียนว่าอยากให้เธอได้เรียนที่นี่ ยอมทำงานหนักเพื่อแลกกับคุณภาพชีวิตคนเป็นพ่อยอมได้ทุกอย่าง แม่กับยายเธอเลยต้องรับจ้างซักรีดเพื่อหาค่ากับข้าวในแต่ละวัน แม่ผมเลยเสนอโครงการสอบชิงทุนการศึกษาขึ้นมาเพื่อให้สิทธิ์กับนักเรียนชั้นละ 2 คน เงินในส่วนนี้จะช่วยลดหย่อนค่าเทอมในแต่ละเทอมได้และเธอก็ได้รับสิทธิ์ในทุนนี้ด้วย
“อาจารย์คะนี่เค้กส้มผลไม้สดค่ะ หนูทำเอง”
“หืม ทำเองจริงดิ”
“ใช่ค่ะ มีอีกนะคะแต่หนูขอเอาไปให้เพื่อนสองชิ้นกับอาจารย์มาลี ที่เหลืออาจารย์ทานให้หมดนะ”
“แล้วเธอไม่กินหรือไงข้าวก็กินไปนิดเดียว”
“หนูเจ็บคอค่ะ ไม่ค่อยอยากกินอะไรเลย”
“อย่าลืมกินยาล่ะใกล้สอบแล้วเดี๋ยวจะป่วยเรื้อรังไม่หายสักที”
“ค่ะอาจารย์”
---------------------------------------
ข้าวปั้นน่ารักดูซื่อๆจะทันเล่เหลี่ยมคนไหมน๊าา
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์บ้างนะคะ จุ๊บๆ