บทที่7
ช่วยกันทำ
กลับมาถึงบ้านผมก็จัดการเดินสายไฟให้เธอ เธอจะลงมือทำคืนนี้เลยพรุ่งนี้จะได้เหลือแค่กวนไส้บีบแล้วส่งลูกค้า มือเล็กๆ หยิบโน้นจับนี้ทำขนมได้คล่องแคล่วเธออายุ18แต่มีความคิด มีความขยันรู้จักทำงานหารายได้เอง
“อาจารย์สนใจไหมคะ”
“สอนหน่อยก็แล้วกัน วันนี้ฉันจะเป็นลูกศิษย์ของเธอเอง”
ธันวาถกแขนเสื้อขึ้นแล้วสวมใส่ผ้ากันเปื้อน ข้าวปั้นจึงสอนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสำคัญนั่นก็คือการบีบแป้งเพื่อรอเข้าอบ
“ยากเหมือนกันแฮะ”
“ต้องมือนิ่งๆ แล้วนับหนึ่งถึงสามแล้วก็ยกแบบนี้ค่ะ หนึ่ง สอง สาม ยก”
“หนึ่ง สอง สาม ยก” ธันวาแทบหลุดหัวเราะทำไมแป้งของเขามันเบี้ยวๆ บูดๆ ไม่กลมสวยเหมือนของข้าวปั้นเลย แต่เขามีความพยายามมากพอจึงฝึกฝนจนคล่องแคล่ว หนึ่งเตาก็ได้สามสิบกล่องพอดีเหมือนจะวุ่นวายแต่ไม่เลย
“เดี๋ยวหนูล้างของก่อนดีกว่าอาจารย์ดูขนมในเตาไว้นะคะ”
“อื้ม”
ข้าวปั้นล้างอุปกรณ์เก็บเข้าที่เธอเรียงทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแถมยังหันมาทำข้าวไข่เจียวปูให้ธันวาได้ทานอีก ทั้งสองจึงแบ่งกันทานจนหมดจาน
เมื่อขนมในเตาสุกได้ที่ธันวาก็อาสาเป็นฝ่ายยกออกมาจากเตาเพื่อผึ่งไว้ให้แป้งเย็นสนิทข้าวปั้นจึงเก็บใส่ถุงเอาไว้เพื่อรอบีบไส้ในวันพรุ่งนี้ ดูเวลาอีกทีก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนทั้งสองจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน
วันต่อมา
ข้าวปั้นตื่นแต่เช้าเพื่อลงมากวนไส้ขนม เธอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจนถึงขั้นตอนการบีบธันวาลงมาเห็นก็เกิดอยากลองจึงอยู่ช่วยเธอจนเสร็จแถมยังช่วยแพ็กใส่กล่องให้เธอด้วย
“ต้องไปส่งที่ไหนบ้างจะคุ้มค่าน้ำมันไหมเนี่ย”
“ในหมู่บ้านนี่เองค่ะ”
“ให้ฉันพาไปไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูปั่นจักรยานไปได้แค่นี้เอง” เธอโชว์สปิริตให้เขาได้เห็นถึงความพยายามของเธอและเธอก็ทำได้ดั่งใจหวัง เธอจัดการออกส่งขนมเองด้วยจักรยานสีชมพูของแม่บ้าน
ธันวาเดินงุ่นง่านโดยไม่มีสาเหตุ เขาเดินไปเดินมา เดินมาแล้วก็เดินไปไม่รู้ว่าป่านนี้ข้าวปั้นจะส่งขนมเสร็จหรือยัง กว่าจะปั่นจักรยานไปซอยนั้นซอยนี้คงจะช้าและเหนื่อยน่าดูเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดสั่งซื้อจักรยานไฟฟ้าที่มีตะกร้าใส่ของจะได้สะดวกเวลาเธอต้องขนขนมไปเยอะๆ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ร้านจะเอามาส่งให้ถึงที่ เร็วดีนี่”
“คุณธันวาคะอย่าลืมทานขนมที่หนูข้าวปั้นทำไว้ให้นะคะ เมื่อกี้ป้าชิมของป้าแล้วอร่อยมากเลยค่ะ”
ธันวาไม่รอช้ารีบหันมาหยิบจานชูครีมขึ้นมา ลูกเบี้ยวๆ บูดๆ นี่คงเป็นฝีมือของเขาเอง เขานึกสงสารลูกค้าอยู่ไม่ใช่น้อยออเดอร์แรกก็เจอผลงานของเขาเลย
“อร่อย เด็กคนนี้ทำไมถึงได้เก่งทุกเรื่องเลย” เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องอย่างว่ากับเธอเพราะเธอเป็นเด็กในปกครอง เขาจะไม่มีวันคิดอกุศลกับเธอเด็ดขาด
ไม่นานข้าวปั้นก็ปั่นจักรยานกลับมาเธอยิ้มแก้มปริเพราะขนมขายหมดเกลี้ยงระหว่างทางกลับบ้านก็มีคนโทรมาสั่งขนมเธอเพิ่มด้วย
“เห็นเงินแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ อาจารย์คะเงินนี่หนูขอผ่อนค่าเตาอบให้อาจารย์นะคะ”
ธันวามองเงินหลายร้อยที่เธอส่งมาเขาไม่ได้อยากได้มันเลยสักนิดแค่เธอมีอะไรทำในเวลาว่างมันก็ดีกว่าการที่เธอเก็บเรื่องเจ็บช้ำมาคิดซ้ำๆ ซากๆ ชีวิตคนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า
“เก็บไว้เถอะเปลี่ยนจากเงินเป็นทำอาหารเช้าให้ฉันก็พอ”
ปัณณลักษณ์ยิ้มกริ่มเธอเก็บเงินใส่กระเป๋าจากนั้นก็เข้าไปเตรียมของทำอาหารเช้าให้เขาเหมือนทุกวัน วันนี้เธอทำเมนูง่ายๆ และไม่ต้องใช้เวลามากนั่นก็คือข้าวต้มหมูสับสูตรของคุณยายคือการต้มน้ำซุปหอมๆ กลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วบ้านจนธันวาทนไม่ไหวต้องเดินเข้ามาดู
“หอม”
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ”
“ว๊ายย!!”
ปัณณลักษณ์ไม่รู้ว่าเขาเดินเข้ามาซ้อนด้านหลังเธอหันพลิกกลับมาชนเข้ากับแผงอกแกร่งจนเซ สองแขนของธันวารีบโอบรับเธอเอาไว้ เขาดึงเธอเข้ามาหาตัวไม่เช่นนั้นเธอคงถอยชนหม้อน้ำซุปไปแล้ว
ธันวาก้มมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขาแล้วใจหาย เธอตกใจจนหน้าซีดแต่ทำไมถึงได้น่าแกล้งแบบนี้ก็ไม่รู้ ปัณณลักษณ์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับธันวาเธอหวิวๆ หัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“ซุ่มซ่ามจริง” เขาดุเธอเบาๆ แต่น้ำเสียงไม่ได้น่ากลัวออกจะเป็นแนวหยอกล้อเสียมากกว่า
“ก็หนูตกใจนี่คะ อาจารย์มายืนตรงนี้ไม่ให้สุ้มให้เสียง”
ทั้งสองจ้องมองสบตากันมือหนาขยับเลื่อนขึ้นมาจับปอยผมทัดหู แก้มนวลอมชมพูจนเกือบแดงไม่รู้ว่าเขินหรือว่าอะไร อีกมือของเขายังโอบเอวเธออยู่ไม่ยอมปล่อย
“อากาศบ้านเราเนี่ยมันร้อนจริงๆ เลย ส้มจุกแล้วตาธันวาไปไหนอย่าบอกว่าเมื่อคืนไม่กลับบ้านนะ”
เสียงคุณหญิงดารุณีดังเข้ามาถึงในครัว ทั้งสองรีบผละออกจากกันโดยเร็วไม่นานฝีเท้าก็เดินเข้ามาหยุดตรงประตูสายตามองลูกชายที่ขยับถอยออกจากสาวน้อยข้าวปั้น
“คุณป้าสวัสดีค่ะ”
“คิดถึงจังเลยแล้วนี่ทำอะไรอยู่ ข้าวต้มเหรอดีเลยป้ากำลังหิวอยู่พอดี ธันวามาช่วยแม่ขนของหน่อยสิ”
“ครับ”
ธันวาเดินตามผู้เป็นแม่ออกมาที่สวนด้านหลัง เธอกอดอกมองลูกชายตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอไม่อยู่แต่ลูกชายไม่ได้ซูบผอมหรือทานของไม่มีประโยชน์ แก้มใสใบหน้าอิ่มเอิบ อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าไปดมเสื้อฟุดฟิด
“กลิ่นผู้หญิง?”
“จมูกดีจริง” เขาตอบแม่อย่างเบื่อหน่าย “แล้วนี่พ่อไปไหนทำไมไม่มาด้วยกัน”
“พ่อแกไปประชุมที่กระทรวงต่อ งานด่วนพ่อกับแม่เลยต้องรีบกลับมา ได้ข่าวว่าข้าวปั้นสอบติด GTE ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“ค่อยชื่นใจหน่อย ธันวาลูกก็อายุจะ30แล้วทำไมไม่ลองศึกษาดูใจกับใครสักคนดู เพื่อนแม่ได้อุ้มหลานกันหมดแล้วนะเจ้าเฟรมเพื่อนลูกก็จะได้แต่งงานแล้ว เฮ้ออ ลูกแม่สิเป็นเวรกรรมผู้ใด๋หนออออ”
“วาสนาไหม -_-!”
----------------------------------
คุณแม่กลับมาแล้วค่ะ ป๋าธันวาเตรียมรับแรงกระแทกนะคะ