บทที่6
ตามใจเด็กน้อย
บ้านหมอศิลา
วันนี้เจ้าขุนประธานนักเรียนชวนพวกเราทุกคนมาปาร์ตี้กันแต่ฉันดันเห็นผู้หญิงคนนึงเธอน่ารักมากมองจากตรงนี้ยังรู้เลยว่าแอบชอบเจ้าขุนแน่ๆ
“แกคิดว่าเจ้าขุนจะรู้ไหมว่ายัยนั่นแอบชอบอยู่”
“ขนาดพวกเรายังรู้เลยเฟย์ เจ้าขุนฉลาดจะตายทำไมจะไม่รู้เรื่อง” ฉันหันไปตอบยัยเฟย์จากนั้นก็ปล่อยจอยกันเต็มที่ พวกผู้ชายดื่มเบียร์กันแถมยังมีเหล้าด้วยแต่ฉันจะไม่แตะต้องของเหล่านั้นเด็ดขาด
งานเลี้ยงวันนี้จะเน้นคุยถึงเรื่องอนาคตใครอยากจะเป็นอะไรอยากจะทำอะไรส่วนฉันอยากเรียนบริหารอยากทำงานที่มั่นคง ฟังพวกเพื่อนๆ คุยกันก็นึกอิจฉาบางคนพ่อแม่ตั้งใจส่งไปเรียนมหาลัยดังๆ อย่างเช่นเจ้าขุนที่สอบติดแพทย์มหาวิทยาลัยเดียวกับฉัน และฉันก็รู้มาว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อมิเกล มิเกลก็สอบติดแพทย์เหมือนกันด้วย ฉันกับมิเกลได้คุยกันบ้างนิดหน่อยแต่สายตามิเกลมองไปที่เจ้าขุนตลอดเวลาเลย เหมือนเจ้าขุนรู้แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเจ้าขุนเหมือนจะสนิทสนมกับลิลลี่มากกว่ามิเกลเสียอีก
“มึงคุยอะไรกับยัยนั่นวะ รู้ไหมยัยนั่นแม่งโคตรโก๊ะเลยนะ เหมือนพวกเพ้อฝันอะ” ต้นหลิวซุบซิบนินทาแต่ข้าวปั้นกลับเห็นใจมิเกลเสียมากกว่า
“มิเกลดูจริงใจดีนะ ถึงจะดูแปลกๆ ไปหน่อยแต่เป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้างดี”
“มึงนี่แม่พระจังเลย นี่ก็3ทุ่มแล้วอาจารย์จะมารับมึงกี่โมง”
ไม่ทันขาดคำอาจารย์ธันวาก็เดินลงมาจากรถคันงามหลายสิบล้าน นักเรียนบางกลุ่มก็แอบคิดอกุศลกล่าวหาว่าข้าวปั้นกับธันวามีความลึกซึ้งเกินเลยกัน แต่ทั้งสองก็รู้จักการวางตัวไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียชื่อเสียงเลยแม้แต่น้อย
“วันนี้เมาหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ หนูไม่ได้ดื่มเลยค่ะ” ข้าวปั้นรีบหันไปตอบเธอโบกไม้โบกมือใส่จนธันวาอยากจะขำ
“รนเชียว”
“หนูพูดจริงๆ นะคะ”
“อืม”
“ว่าแต่อาจารย์เถอะไปไหนมาคะทำไมไม่กลับบ้าน”
ธันวาเปรยตามองคนข้างๆ ทำไมถึงได้ถามเขาแบบนั้นถามอย่างกับเป็นเมียเลย
“ไปหาเพื่อนมาดื่มมานิดหน่อยพอใจไหม” นี่ผมต้องมารายงานนักเรียนด้วยหรือไงกัน
“คราวหลังถ้าดื่มแล้วต้องห้ามขับรถนะคะ ห้ามเด็ดขาดค่ะ”
“คร้าบบบบ”
ธันวาลากเสียงล้อเลียนใส่ข้าวปั้นจึงทำปากยู่กลับไป ถึงบ้านก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียนแต่ก็ยังมีงานบ้านรออยู่
วันต่อมา
ข้าวปั้นลงมาจัดแจงอาหารเมนูวันนี้มีไก่ผัดกระเทียม ต้มเลือดหมู ผัดพริกแกงกุ้ง ของหวานคือขนมปังปิ้งทาแยม ธันวาลงมานั่งที่โต๊ะสายตาก็มองอาหารทุกเมนูไม่อยากจะเชื่อว่าข้าวปั้นจะทำมันเองทุกอย่าง
“อาจารย์อยากได้อะไรเพิ่มไหมคะ”
กาแฟดำถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะธันวาตอบเธอด้วยการส่ายหน้า แค่นี้เขาก็ไม่รู้จะทานยังไงหมดแล้ว ข้าวปั้นตักข้าวให้เขาเสร็จก็ตักให้ตัวเอง เธอพูดคุยถึงเรื่องเพื่อนๆ ในงานปาร์ตี้เมื่อคืน
“ปิดเทอมมีโปรเจคไปไหนหรือเปล่าข้าวปั้น”
“ไม่มีค่ะ แต่เมื่อเช้าหนูลองเอารูปขนมที่หนูทำโพสต์ในเฟซบุ๊กดูมีคนทักมาสั่งหลายคนแล้ว หนูเลยจะขออนุญาตไปซื้อของมาทำขนมขายได้ไหมคะ”
“ได้ ลงทุนเท่าไหร่คิดให้ดีล่ะ”
“หนูคิดมาเรียบร้อยแล้วค่ะ” ข้าวปั้นหยิบกระดาษรายการสั่งซื้อที่เธอจดเอาไว้ให้เขาดู ร้านอุปกรณ์เบเกอรี่อยู่แค่หน้าหมู่บ้าน
“รอบคอบดี” ธันวาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาจากกางเกงเขาหยิบแบงก์สีเทาหลายใบออกมาให้เธอแต่เธอยกมือปฏิเสธ
“ไม่ดีกว่าค่ะ เงินเก็บหนูยังพอมีหนูไม่รบกวนอาจารย์ดีกว่า”
“งั้นก็ตามใจเดี๋ยวฉันพาไปซื้อก็แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ”
ข้าวปั้นเลือกซื้ออุปกรณ์ทำขนมมาหลายอย่างแต่ทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ภายใต้สายตาของธันวา เขาช่วยเธอเลือกแป้ง เนยและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ยังไม่มี
“หนูจะทำชูครีมค่ะ ได้ออเดอร์มาตั้ง30กล่อง”
“เก่งนะเรารู้จักหาเงินเอง”
ข้าวปั้นเงยหน้ายิ้มแป้นแล้นใส่เขา ทั้งสองช่วยกันขนของขึ้นรถแต่สายโทรเข้าดังมาจากโทรศัพท์ของธันวาเขาจึงกดรับสายมันบนรถ
การสนทนา
“ว่าไง”
(ไอ้ธันกูมีเรื่องอยากปรึกษามึงหน่อย)
“เรื่องอะไรรีบพูดกูขับรถอยู่”
(แม่กูจะให้กูแต่งงานกับลูกสาวเพื่อน กูโคตรเซ็งเลย)
“เฮ้อ เดี๋ยวกูแวะไปหาก็แล้วกัน”
จบการสนทนา
ผมวางสายจากเพื่อนก็หันมาบอกกับข้าวปั้นวันนี้ผมต้องแวะไปหาเพื่อนก่อนจะได้ไปดูเตาอบให้เธอใหม่ด้วยเอาที่ใหญ่และมีมาตรฐานกว่านี้อบทีนึงได้เยอะๆ จะได้ไม่เปลืองเวลา
เธอเป็นเด็กดีมากไม่วุ่นวายและไม่ถามอะไรซอกแซก มาถึงคอนโดไอ้เฟรมผมก็พาข้าวปั้นขึ้นมาด้วยเธอเดินตามผมต้อยๆ แม่งดูแล้วก็เหมือนพ่อลูกเหมือนกัน เข้ามาในห้องแทนที่ไอ้เฟรมจะรีบคุยเรื่องของมันเสือกไปนั่งอ่อยข้าวปั้นแถมยังสั่งซื้อขนมที่เธอทำอีก
“มึงรีบพูดเถอะกูมีงานต้องทำ”
“เออๆ คืองี้แม่กูอะไปเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมาแล้วดันไปถูกชะตากับลูกสาวเขาเวรกรรมเลยมาตกอยู่ที่กูนี่แหละ”
“มึงก็ปฏิเสธไปสิ”
“กูพูดจนปากจะฉีกแม่กูฟังที่ไหนไปดูฤกษ์กันมาแล้วด้วย”
“ถ้างั้นกูก็ขอแสดงความยินดีด้วยก็แล้วกัน ในเมื่อแม่มึงตัดสินใจแล้วผู้หญิงคนนั้นก็คงเป็นคนดีอยู่หรอกมึงอย่าคิดมากเลย”
“เสือแบบกูต้องมาสิ้นลายเหรอวะ กูรับไม่ได้” เฟรมเครียดจนปวดหัวเขาหันไปหยิบยาพารายัดใส่ปาก เขายังคงรักสนุกไม่อยากมีเมียและไม่อยากมีใครหากแต่งงานไปชีวิตนี้คงหาความสุขไม่ได้แน่
“ในเมื่อมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วมึงก็ต้องยอมรับความจริงไง มึงก็รู้ดีว่าแม่มึงเป็นคนยังไง”
“เซ็งสัดๆ”
ข้าวปั้นนั่งฟังเงียบๆ เฟรมจึงส่งสายตาเชิงถามเพื่อนว่าหมายความว่ายังไง ทำไมเพื่อนถึงได้พาเด็กในปกครองมาหาเขาถึงที่นี่
“กูออกมาซื้อของกันเลยแวะมาถ้าไม่มีอะไรแล้วกูขอตัวก่อนจะพาข้าวปั้นไปดูเตาอบขนม”
“บ๊ะ! ป๋าธันวานี่ไม่ธรรมดาจริงๆ”
“ป๋าพ่อมึงสิ” ธันวาตอบสั้นๆ แต่ความหมายล้ำลึก เขารีบพาข้าวปั้นมาร้านขายอุปกรณ์เตาอบและเครื่องใช้ไฟฟ้า เธอยืนเลือกอยู่นานแต่ดูเหมือนจะเกรงใจธันวาเสียมากกว่า
“ชอบแบบไหน”
“หนูชอบเตาเทพค่ะแต่มันแพงมาก หนูต้องทำงานเก็บเงินอีกนานเลย”
“ฉันจะซื้อให้ พี่ครับผมขอรายละเอียดเตาตัวนี้หน่อย”
--------------------------------
เป็นป๋าก็ไม่เลวนะคะ ป๋าธันวาอิอิ