บทที่11
ไม่อนุญาตให้ไปไหน
“อาจารย์สวัสดีค่ะ”
“อืม ไปไหนมา” ธันวามองการแต่งตัวของข้าวปั้นวันนี้เธอใส่กางเกงขายาว เสื้อครอปติดอย่างเดียวโชว์เอวจนเห็นสะดือ
“เอาขนมไปฝากขายที่ร้านกาแฟค่ะ แล้วก็ไปซื้อของมาทำขนม”
“เรื่องที่จะขอไปอยู่หอฉันไม่อนุญาตนะ อยู่ที่นี่แหละจะไปเพิ่มค่าใช้จ่ายทำไมกัน”
“คือ.... หนูเกรงใจค่ะ ถ้าหนูทำให้อาจารย์อึดอัดหนูออกไปอยู่ข้างนอกดีกว่า”
“ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันอึดอัด”
ทั้งสองมองสบตากันต่างคนต่างมีเรื่องในใจสุดท้ายธันวาก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นเพื่อเดินไปหาเธอ ข้าวปั้นหลบสายตารีบก้มหน้าลงเธอกลัวถูกตำหนิที่ตัดสินใจเองคนเดียว
“ฉันขอโทษที่ทำให้เธออึดอัด ฉันแค่มีเรื่องไม่สบายใจเลยออกไปอยู่คอนโด”
“หนูคิดว่าอาจารย์ไม่สบายใจที่หนูอยู่ที่นี่ ยิ่งคุณป้าซื้อข้าวซื้อของให้หนูด้วย”
“ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกันเลย ฟังนะอยู่ที่นี่แหละเดี๋ยวฉันไปรับไปส่งเธอเอง”
“ค่ะ ก็ได้ค่ะ”
เมื่อทั้งสองเคลียร์ใจกันแล้วธันวาจึงเข้ามาคุยกับพ่อของเขาว่าปัณณลักษณ์ไม่ออกไปอยู่หอแล้วเขาจะรับผิดชอบไปรับไปส่งและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายหลังจากนี้เอง
ในช่วงวันหยุดธันวายังต้องเตรียมเรื่องการเรียนการสอนไหนจะงานที่ต้องบริหารต่างๆ อีก เขาเองก็มีธุรกิจกับครอบครัวหลายอย่าง ร้านอาหารหลายสาขาก็เติบโตขึ้นจนน่าตกใจ เขาชอบทานอาหารหลากหลายจึงจัดหาพ่อครัวหลายเชื้อชาติมารองรับ
ร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงแรมดังๆ ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพัก ปกติแล้วแม่ของเขาจะเป็นคนดูแลแต่ตอนนี้มันถูกส่งต่อมาให้เขา เขาจึงต้องปรับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัย
หลายวันผ่านไป
ธันวาต้องมาดูงานที่โรงแรมในจังหวัดกระบี่ เขาพาปัณณลักษณ์ติดสอยห้อยตามมาด้วยอยากให้เธอคลายเหงาอยู่แต่บ้านน่าเบื่อจะตาย โรงแรมที่นี่เป็นของแม่เขาเองแต่การมาครั้งนี้เขาไม่ได้แจ้งพนักงานไว้ทำให้ห้องพักมีเพียงแค่ห้องเดียวนั่นคือห้องที่เขาใช้ทำงานและพักผ่อน
“เธอนอนเตียงก็ได้”
“แล้วอาจารย์ล่ะ อาจารย์จะนอนที่ไหนโซฟามันเล็กนะคะ”
“ไม่เป็นไรฉันนอนได้”
“เอาแบบนี้ไหมคะ เราแบ่งครึ่งกันค่ะ”
ถามจริงไม่กลัวว่าผมจะ.... เอ่อ.... ช่างมันเถอะ ผมมองคนตัวเล็กจัดที่หลับที่นอน ให้ตายเถอะเตียงผมไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นเพราะผมจัดห้องเอาไว้ใช้สอยทำงานด้วย
“แบบนี้ค่ะนอนได้ไหมคะ”
“ฉันนอนได้เธอนั่นแหละจะนอนได้ไหม”
“หนูนอนได้ค่ะ”
งั้นก็ดีล ผมหมุนตัวกลับมาทำงานต่อส่วนเธอลองชุดอยู่ในห้อง ห้องพักของผมมีสระน้ำส่วนตัวยื่นออกไปเป็นวิวทะเล บรรยากาศดี อื้มม
ตู้มมม!!
ปากกาในมือผมล่วงหล่นจากมือ ผมแพ้ชุดบิกินี่สีแดงให้ตายเถอะแม่ผมเลือกชุดแบบนี้ให้เธอใส่ได้ไง ผมหันมาสนใจงานของตัวเองแต่มันทำไมไม่ได้ผมไม่มีสมาธิ ใจผมจะขาดตอนที่เธอนอนหงานสองขาตีน้ำจนเห็นนมกระเพื่อม
“น้ำเย็นมากกก”
ใช่น้ำเย็นมากแต่ผมเนี่ยร้อนมาก ผมปลดกระดุมเสื้อหนึ่งเม็ดเพื่อให้อากาศและความเย็นพัดเข้าไปดับร้อนในอกซ้าย
ซี๊ดดด.... ทะเลขาวมาก
เอกสารแค่ห้าแผ่นธันวาใช้เวลาเซ็นร่วมชั่วโมง เขาไม่มีสมาธิเซ็นผิดเซ็นถูกใช่ว่าจะไม่เคยเห็นของผู้หญิงแต่เขาแค่ไม่เคยเห็นของเธอต่างหาก ยิ่งไม่อยากคิดอกุศลอยู่ด้วย
“งื้อออ หนาววว” ปัณณลักษณ์ห่อตัวด้วยผ้าขนหนูเข้ามาเธอยิ้มแป้นแล้นก่อนจะเข้าไปแต่งตัวในห้อง
ธันวาไม่ได้สั่งอาหารไว้เพราะเขาจะพาเธอลงมาทานที่ร้านด้านล่าง ปัณณลักษณ์สวมใส่เดรสสีขาวปล่อยผมยาวสลวย ส่วนธันวาเขาใส่เชิ้ตสีขาวสบายๆ กางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล
“ว้าวว บรรยากาศดีสุดๆ”
“ชอบไหม”
“ทะเลเหรอคะหรือว่าร้านอาหาร”
“ฉัน....”
“อะไรนะคะ”
“ฉันหมายถึงโดยรวมน่ะ” ธันวาแทบจะตบปากตัวเองที่หลุดพูดอะไรออกไป เขาพยายามท่องเอาไว้ในใจว่าเธอยังเด็ก
“ชอบทุกอย่างเลยค่ะ บรรยากาศดีอาหารก็น่าทาน”
“งั้นทานเยอะๆ” พูดจบก็หยิบกุ้งใช้ซ้อมจิ้มแล้วใช้ช้อนดันเพื่อแกะเปลือกให้เธออย่างคล่องแคล่ว
“ขอบคุณค่ะ” ปัณณลักษณ์ตักน้ำจิ้มซีฟู้ดส์ราดฉ่ำๆ ยิ่งตรงมันกุ้งเธอแทบจะซดเป็นน้ำต้ม อร่อยเกินบรรยาย
“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อร่อยมากค่ะ ไม่เชื่ออาจารย์ลองชิมดูสิคะ”
เธอตักมันกุ้งราดข้าวตามด้วยน้ำจิ้มแต่เผลอลืมเปลี่ยนช้อนเสียได้ เธอตักข้าวยื่นไปตรงหน้าธันวาต่างคนต่างตกใจแต่พอคนตัวเล็กชักมือกลับธันวาก็คว้าหมับรีบใช้ปากงับช้อนของเธอทันที
“อาจารย์....” เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ
“อร่อยจริงๆ ด้วย หวานมาก” นิ้วยาวเช็ดมุมปากของตัวเองแต่คนตัวเล็กหน้าแดงซ่านจนต้องก้มหน้าทานข้าวต่อด้วยช้อนที่พึ่งผ่านริมฝีปากเขามาการกระทำของเขาทำให้คนตัวเล็กหัวใจเต้นตึกตัก
อาการแบบนี้ธันวาได้แต่ภาวนาขอให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดีอย่าให้เขาต้องหมดความอดทนเลย
สงสัยคืนนี้เขาต้องถือศีลนั่งสมาธิไม่งั้นคงได้ทำอะไรสิ้นคิดแน่
--------------------------------------
ใกล้แล้วค่ะ ใกล้ถึงฉากโขดหินก็เสียวได้แล้ว