บทนำ
INTRO
เท็กซัส มาเฟียหนุ่มผู้ได้รับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของไลออนคนปัจจุบัน ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาน่าดึงดูด ไม่มีใครรู้ว่าเขาเก็บซ่อนอะไรไว้
ผู้ชายคนนี้มีทั้งด้านน่ากลัว และน่าหลงใหล
หรือบางครั้งก็ทำทุกอย่างได้เพื่อความสะใจของตัวเอง
การตัดสินคนว่าจะอยู่หรือตายขึ้นอยู่กับความพอใจของเขาเท่านั้น...
เสือร้ายที่ซ่อนไว้คอยขย้ำกัดกินใครไม่รู้กี่คน หากเป็นผู้หญิงก็ต้องศิโรราบให้เขาบนเตียง หากเป็นผู้ชายก็อาจจะตายง่ายๆแค่นิ้วเรียวกระดิก อำนาจในมือมาเฟียหนุ่มไม่เคยปรานีใคร โดยเฉพาะกับคนที่มันย่างกรายเข้าหาผู้หญิงที่เขาหวงแหนและคลั่งไคล้
ใช่ เขาเป็นแฟนบอยตัวยงของเธอ... ใช้อำนาจมาเฟียโอบกอดศิลปินที่เขาชอบไว้เสมอ
ไม่งั้นคงไม่ได้ฉายา 'ทูนหัว' ที่เหี้ยกับทุกคน ยกเว้นเธอคนเดียวหรอก...
เท็กซัส x แยมโรล
มาเฟีย x ไอดอล
»——————◦•♛•◦——————«
'เปรี้ยง!'
ตึก ตึก ตึก
กลางดึกท่ามกลางสายฝนที่เทลงมา สองฝีเท้าวิ่งออกมาจากเซฟเฮาส์หลังใหญ่ที่ตั้งโดดเดี่ยวบนเนินเขา อาณาบริเวณเต็มไปด้วยป่ารก ไฟที่ส่องสว่างมีเพียงแค่หลอดไฟริมถนนดวงเล็กที่ทิ้งช่วงห่างกันพอสมควร
ที่ที่คิดว่าปลอดภัยกลับไม่ปลอดภัยแล้ว แหล่งเก็บตัว แหล่งพบปะของไอดอลวงโนล่า กำลังเป็นนรกที่คนวิ่งออกมารังเกียจเข้าไส้
"ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย!"
ร่างบางวิ่งสับเท้าต่อไปไม่หยุด หวาดกลัวเสียงฟ้าฝน หวาดหวั่นเสียงฝีเท้าที่วิ่งตามหลัง ชายวัยกลางคนใช้มือจับลำคอที่อาบโชกไปด้วยเลือดจากฝีมือเธอวิ่งตามหมายจะจับตัวให้ได้ หลังจากนั้นจะทำอะไรก็จะเอาให้สาแก่ใจ
แต่ทว่าคนวิ่งนำฝีเท้าหนักขึ้น หญิงสาวเริ่มอ่อนล้าเต็มที เรียวขาสวยปวกเปียกจวนจะล้มอยู่รอมร่อ เพราะฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์นั่น... มันกำลังค่อยๆซึมซับและพล่านอยู่ในกาย
จากหนาวเหน็บ กลายเป็นร้อนรุ่ม
เรี่ยวแรงที่รวบรวมพานเหือดหาย
หมับ!
"อ๊าย! ปะ ปล่อยนะ!" ผมยาวเปียกถูกกระชากดึงจนหน้าแหงน
"แค่นอนกับฉัน มันยากนักรึไง เธอก็รู้ตัวนี่ว่าวงเธอไปต่อไม่ได้! แต่กระเสือกกระสนจะเป็นไอดอลที่ขาวสะอาด เป็นเมียฉัน ฉันจะดันให้เธอออกโซโล่เดี่ยว"
คนที่พูดประโยคโสโครกนี้ คือคนที่เธอยกมือไหว้เกือบทุกวัน มือและแรงที่มากกว่ากระชากดึงหญิงสาวกลับเซฟเฮาส์จนเธอเสียหลักล้มหงายหลัง ไม่มีแม้โอกาสลุกขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเธอถูกดึงลากไปตามถนนราวกับไม่ใช่คน
ฝนกระหน่ำเทลงมาไม่ขาดสายประหนึ่งกลั่นแกล้งไม่ให้ใครได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงร้องขอความช่วยเหลือ มือเรียวจับผมตัวเองยึดไว้กันเจ็บ พยายามแกะและตีเป็นระยะ แต่ไปไม่ถึงครึ่งทางเธอก็ต้องหลับตาปี๋อย่างแสบตา เพราะมีรถหรูคันหนึ่งขับมาจอดเอี๊ยดตรงหน้า สาดไฟซีนอนสีขาวมาที่เธอที่เกลือกกลิ้งไปตามพื้น
"ช่วยด้วย..."
คนลากดึงหยุดชะงักและปล่อยผมยาวทันที หัวของหญิงสาวหล่นตุ๊บไปกับพื้นจนอื้ออึงและปวดไปทั้งหัว อีกทั้งฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ มันทำให้เธอสับสนปรวนแปรกับความรู้สึกและจิตใต้สำนึกตัวเอง ทั้งเจ็บตัว ทั้งหมดแรง และ... มีอารมณ์
'ตึก... ตึก... ตึก...'
เสียงรองเท้าหนักๆก้าวเดินมาใกล้ๆและหยุดลง ตาคมไม่แม้แต่กดมองคนเปียกหมดสภาพด้วยซ้ำ เขาจับจ้องที่หน้าชายที่หมายหัวอยู่ด้วยสายตาเป็นมิตร
"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?" ถามจบก็เผยยิ้มออกมาที่มุมปาก
"ไม่มีครับๆ บ้านเราอยู่ตรงนี้นี่เอง"
"ชะ..."
"แยม"
คนแบกความผิดหลายกระทงลนลานปิดปากเธอ และพยุงให้ลุกขึ้นยืน จากนั้นรีบโอบไหล่ไว้ให้อีกฝ่ายรู้ว่าสนิทชิดเชื้อกันแค่ไหน
"เอ่อ ลูกสาวผมหนีออกจากบ้านกลับมาก็เมาแอ๋ เลยมีปัญหาถือไม้เรียวไล่ตีกันนิดหน่อยครับ ไปแยมเข้าบ้านลูก"
"ช่วยด้วย...อื้อ!" ริมฝีปากสวยโดนปิดอีกครั้ง
"แยม อย่าพูดแบบนั้นสิ ทำไมถึงเบลอแบบนี้ พ่ออยู่นี่ มีปัญหาอะไรไปคุยในบ้าน"
เธอหมดแรงแล้ว ยาปลุกอารมณ์มันกดทุกอย่างในตัวให้จำนนต่อสถานการณ์
เปลือกตาหนักๆพยายามปรือเปิด เธอเห็นผู้ชายสามคนใส่สูทยืนอยู่ไม่ไกลนัก แต่หัวที่หนักเต็มทีร่างกายที่ยากจะควบคุมทำให้ภาพที่เห็นเลื่อนลอยไม่ชัดเจน
ปากพูดไม่ได้จึงอยากขอความช่วยเหลือผ่านแววตา แต่เธอเงยขึ้นมองได้แค่อกของพวกเขา และเห็นมือของคนทางขวาถือคันร่มอยู่เท่านั้น
"งั้นผมพาลูกเข้าบ้านก่อนนะครับ"
"เชิญ... ครับ"
เมื่อไม่มีคำถามใดๆออกมาอีก และละจากคนแปลกหน้าง่ายกว่าที่คิด เธอก็ถูกช้อนตัวอุ้มหันหลังกลับ แต่เป็นจังหวะเดียวที่ปลายหางตาเห็นคนตัวสูงตรงกลางเปิดสูทดึงอะไรบางอย่างออกมา
มาเฟียหนุ่มชักปืนตั้งลำและเล็งไว้ที่ท้ายทอย ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นอุ้มของรักของหวงห่างไปเรื่อยๆเพื่อเฝ้าคอยจังหวะ
ไม่ได้ใจเย็นนักหรอก แต่เขารู้ว่าหลังฟ้าแล่บจะมีเสียงฟ้าคำรามดังตามมาเสมอ และมันอาจจะกลบเสียงสังหารของเขาได้อย่างแนบเนียน
และเมื่อแสงไฟจากฟากฟ้ากะพริบ แถมด้วยฟ้าผ่าเปรี้ยง! เขาก็ไม่รอช้า
'ปัง!'
ลูกตะกั่วถูกป้อนเข้าหัวอย่างสวยงาม
ทุกอย่างชะงักนิ่ง... คนที่อุ้มอยู่ทรุดเข่าลงพร้อมกับร่างบางที่ร่วงจากวงแขน หยาดเลือดมหาศาลไหลอาบจางไปกับน้ำฝน หญิงสาวหายใจหอบแรงแทบจะช็อกและกรี๊ดออกมา แต่ตอนนี้เธอทำได้แค่ประคองสติ และต้องหนีให้ได้
คนตัวเล็กพยายามเอาตัวรอดด้วยการคลานหนีข้ามศพไป แต่มีเสียงรองเท้าหนักๆเดินตามหลังเธอ แล้วรีบช้อนตัวอุ้มขึ้นมาซะก่อน
"อย่าค่ะ ยะ... อย่าทำฉัน" สิ่งที่เห็นทำให้เธอกลัวเขาจนตัวสั่น มีตั้งหลายวิธีทำไมถึงเลือกฆ่า?
"แยมโรล"
"คะ" คนถูกอุ้มนิ่งงัน พยายามมองหน้าเขาด้วยตาที่พร่ามัวและหัวที่มึนงง ทำไมเขารู้ชื่อของเธอ?
"ปล่อยฉันเถอะค่ะ"
"อันตรายแบบนี้ ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้"
เขาเอ่ยจบก็หันหลังเดินกลับไปที่รถ ขณะที่บอดี้การ์ดคอยกางร่มถือตามไปติดๆ
"ปล่อยค่ะ คุณฆ่าคนมานะ ปล่อย"
คนถูกอุ้มยกมือไร้น้ำหนักตีอกแกร่ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเธอถูกพาขึ้นรถและมีเสื้อสูทอุ่นๆห่มไว้ ใช่เธอสงบขึ้น แต่ฤทธิ์ยานรกยังพลุ่งพล่านข้างใน ถึงผิวกายหนาวสั่นแค่ไหน แต่ข้างในร้อนราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชน
"คุณรู้จักฉันใช่ไหมคะ ระ รู้ใช่ไหม?"
"อืม"
"จะบอกนักข่าวไหมคะ"
"ไม่"
เขาตอบโดยไม่หันไปมองร่างบางที่คุดคู้กับสูทแบรนด์หรูของเขา แต่ขณะที่รถเคลื่อนออกจากบริเวณนั้นและมีการประสานงานให้ทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ
อีกคนพยายามปรับม่านตามองสำรวจในรถ และคนแปลกหน้าทั้งสาม มาเฟีย?
"ขอบคุณนะคะ ทะ ที่ผ่านมาแถวนี้และช่วยฉัน"
อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาเสียงสั่น และนั่นทำให้มาเฟียหนุ่มหันไปสบตากับคนหวาดระแวงทันที เขากับเธอสบตากันนับครั้งได้ ส่วนมากจะเป็นงานจับมือและงานแฟนไซน์ต่างๆ แต่คนที่เป็นมาเฟียมากด้วยอิทธิพลอย่างเท็กซัส จำเป็นต้องปกปิดใบหน้าด้วยการใส่แมสก์ทุกครั้งด้วยหลายเหตุผล
ทว่าแยมโรลคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยสบตาเขาที่ไหนสักที่... แต่เธอนึกไม่ออก สมองช้ายิ่งกว่าเต่าพันปี
"เราเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหมคะ ฉัน... คุ้นตาคุณ"
"คงงั้น..."
หลังตอบคิ้วหนาก็เลิกขึ้น เพราะมือเรียวสวยที่กอดตัวเองลูบแขนไปมา ฤทธิ์ยาที่ถูกวางไว้ในน้ำส้มคั้นมันออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว เธอร้อนผะผ่าวทั้งที่เสื้อผ้าเปียกชื้น จนต้องผลักสูทที่คลุมอยู่ร่นเห็นส่วนหน้าอก
"เป็นอะไร?"
"ฉัน ฉันน่าจะโดนยาค่ะ ร้อน... ร้อนจัง ร้อนมากค่ะ"
คนฟังถึงกับนิ่ง มองหญิงสาวเอนหลังพิงประตูลูบตามตัวตัวเอง มือเธอลูบตามเนื้อผ้าผ่านอกอวบ ส่วนไหนที่ไวต่อปรารถนาก็จะใช้เวลากับมันนานเป็นพิเศษ ซึ่งมันตรงกับยอดทรวงยอดถันของเธอจนเขาจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน
และมืออีกข้างน้อยหน้าที่ไหน...ลูบคลำตามต้นขาขาว และทำท่าจะแยกออกจากกันให้ได้
มาเฟียหนุ่มร้อนผ่าวตามใบหน้า มองลูกน้องสองคนที่อยู่เบาะหน้าสลับกับไอดอลสาวที่ชื่นชอบ
"จอดรถ"
"ครับนาย" รถหรูชะลอจอดริมทาง
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะจากที่นี่เข้าเมืองหลายสิบกิโลเมตร แยมโรลของเขาจะ 'อยาก' และลูบคลำตัวเองแบบนี้ไม่ได้
เขาหวง
ให้คนอื่นจำภาพและฟังแค่เสียงเธอร้องเพลงก็พอ เสียงครางห้ามเด็ดขาด
"พวกมึงลงจากรถ และหันหลัง"
"ครับ/ครับ"
เมื่อมือขวากับมือซ้ายลงจากรถถือร่มยืนหันหลัง คนตัวโตก็ขยับมาใกล้เธอทันที คนที่หมกมุ่นกับความกระสันเปิดตาพริ้มมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา ความกลัวอันตรธานหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากมากและกำลังแฉะไปหมด
แยมโรลจับลำแขนแกร่งบีบช้าๆ ส่งสายตาอ้อนคนแปลกหน้าที่พึ่งฆ่าคนไปต่อหน้าต่อตาอย่างอดไม่ได้
"ฉันเกลียดตัวเองตอนนี้มาก ฉะ...ฉันไม่ชอบ ฉันอยากหยุดมันค่ะ"
"ทูนหัวของเธอมาช่วยแล้วนี่ไง"
"ทะ ทูนหัว?"
ถึงเขาจะยอมรับว่าเป็นแฟนคลับเธอ ความตกใจหรือบังเอิญก็ไม่ได้ทำให้กายสาวหยุดโหยหาได้ แก้มไอดอลสาวแดงระเรื่อไปกว่าเดิม พยายามหักห้ามราคะที่พล่านและพานทำตัวบิดเร่าบนเบาะ เขาจึงค้ำมือไว้ที่ประตูรถโน้มไปหา หวังจะปัดเป่าสิ่งนั้นให้อย่างหวังดี
"เรื่องของเราจะไม่มีใครรู้..." เขากระซิบเบาๆที่ข้างหู ให้เธอรู้ว่า 'กับเขา' เธอจะปลอดภัย
"..."
"ฉันจะช่วยเธอเอง"
"ชะ ช่วยยังไงคะ" เขาเผยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ถอยออกมามองตาที่ไหวระริกให้เธอเชื่อใจ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าหัวใจที่แข็งเป็นหินของมาเฟียกระชุ่มกระชวยแค่ไหน
นี่คือแยมโรล
แยมโรลที่แย่งซื้อบัตรจับมือ
แยมโรลที่เขาเปย์ป้ายโปรเจกต์ ทำเว็บ และสร้างบ้านเบสเพื่อเธอ แอนตี้แฟนเหรอ หึ...มันสงบปากสงบคำไปหลายคนเพราะฝีมือเขา
แต่ตอนนี้อารมณ์หญิงสาวอยู่เหนือสติ อยู่ๆมือของเธอก็สัมผัสหน้าเขาแล้ว หัวใจที่เต้นแรงพานเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งมองเนินอกขาวๆที่พ้นออกมากับสายตาคู่นั้น เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกอะไร
มันพร้อมจนอยากจะกระแทกเธอให้จมเบาะ...
ในความมืดสลัว... มาเฟียหนุ่มจับจ้องดวงตาของเธอที่เป็นประกายไปด้วยพิษใคร่ คนตัวเล็กเริ่มอ้อนด้วยการกัดริมฝีปาก และบีบลำแขนเขาหนักบ้างเบาบ้าง ชนิดที่มองตาก็ต้องรู้ใจ
แยมโรลของเขาน่าสงสารซะจริง...
คงทรมานมากเลยสินะ...
ข้างในคงร้อนรุ่มไปหมด...
แฉะไปถึงไหนแล้ว...
เห็นแบบนี้ทูนหัวทรมานตามจริงๆ...
"ทนไหวไหม?" เธอส่ายหน้าเบาๆ กัดริมฝีปากมองตาเขากลับอย่างออดอ้อน
"อยากทนให้ไหว แต่... มะ ไม่ไหวค่ะ" เขายิ้มที่มุมปาก นี่ไม่ใช่การฉวยโอกาสแต่เป็นการช่วยเหลือ ริมฝีปากนุ่มจึงโน้มลงไปขบเบาๆที่ติ่งหูเธอ ก่อนจะกระซิบกระซาบแผ่วเบา
"กางขาออก ทำตัวให้สบาย ทูนหัวของแยมโรลจะช่วยให้มันผ่านไปเองครับ..."
หารู้ไม่ว่าหลังจากที่เธอกางขาให้เขา
เธอ 'ลืม ไม่ ลง'
________________________________
🌷
คอมเมนท์ = กำลังใจ
กดติดตามนักเขียน + กดเข้าชั้น = ได้รับอัปเดตตอนใหม่ๆ (นิยายจบแล้ว ทยอยอัปวันละ 2 ตอนทุกวัน หากได้สัญญาอัปรวดเดียวจบค่ะ)
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้มีแต่ความคลั่งรัก
เท็กซัส ลูกชาย แทนทิว+โบนัส เกมรักทายาทมาเฟีย
**เชิงอรรถเพื่อความสนุกและเข้าใจมากขึ้น**
(เฉพาะนิยายเรื่องนี้)
ไอดอล = เป็นบุคคลซึ่งผ่านการแสดงความสามารถบนเวทีมีทั้งศิลปินเดี่ยว เกิร์ลกรุ้ปและบอยแบนด์
แฟนบอย = แฟนคลับเพศชาย ที่ชื่นชอบดารา/ศิลปิน/ไอดอล
บ้านเบส = แหล่งรวมข่าวสาร และการรวมพลของเหล่าแฟนคลับเพื่อสนับสนุนดาราหรือศิลปินที่ตัวเองชอบ โดยบ้านเบสเหล่านี้กลุ่มแฟนคลับจะเป็นผู้สร้างขึ้นเอง มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งให้ข่าวสาร ร่วมมือกันโหวต จัดกิจกรรม ทำโปรเจกต์ต่างๆ เพื่อเป็นฐานทัพสำคัญที่คอยสนับสนุนให้ศิลปินประสบความสำเร็จ
ซาแซงแฟน = แฟนคลับที่คลั่งไคล้พวกศิลปิน ดารา มากจนเข้าขั้นโรคจิต และ คุกคามละเมิดความเป็นส่วนตัวเช่น รักเขามาก อยากใกล้ชิดเขา อยากให้เขาจดจำ หรืออยากได้เขามาไว้ในครอบครอง
แอนตี้แฟน = เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่อยู่ไม่สุข ต่อต้านศิลปินต่อให้ทำผลงานออกมาดีแค่ไหนก็จะต่อต้าน ติดตามยิ่งกว่าติ่ง เพื่อที่จะเอามาด่าหรือทำให้ศิลปินด้อยค่าตัวเอง
วิชวล ( Visual ) =เป็นบุคคลที่มีรูปร่างหน้าตาโดดเด่นที่สุดในวงหรือคนที่มีลักษณะเป็นไทป์เกาหลี เป็นตำแหน่งหน้าตาให้กับวง
เด,เดบิวต์ ( Debut ) = การเปิดตัวในฐานะศิลปินสู่สาธารณะครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ยกตัวอย่างเช่น เพลงแรกของวงที่ปล่อยออกมาก็จะเรียกว่า “เพลงเดบิวต์”
คัมแบค (Comeback) = คำที่แฟนคลับใช้เรียกเมื่อศิลปินหรือไอดอลของตนมีการปล่อยผลงานใหม่ๆ ออกมา เช่นการคัมแบคปล่อยอัลบั้มใหม่ เพลงใหม่