5
บ่วงรักคุณหมอสุดสวาท
ตอนที่ 5 ผู้มีพระคุณ
“ไม่ต้องไหว้ผมกับนิตหรอกครับ ผมเอ็นดูดอกแก้วเหมือนลูกหลาน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ผมทำคลอดดอกแก้ว เห็นแกตั้งแต่ลืมตาดูโลก ไม่อยากเห็นแกถูกใครรังแกหรอกครับ คนเราจะยากดีมีจนก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่ควรดูถูกคนอื่นครับ”
“คุณหมอกับคุณนิตช่างเป็นคนดีเสียจริง คนดีๆ แบบนี้ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” จันทราพูดอย่างซาบซึ้งใจ
“ผมกับนิตมีเรื่องจะบอกด้วยครับ” หมอจรินทร์หันไปมองภรรยาสาว ก่อนจะหันมามองครอบครัวตรงหน้าอย่างเวทนา
“คุณหมอมีเรื่องอะไรเหรอคะ” จันทราเอ่ยถามคุณหมอหนุ่มกับภรรยาสาว
“พวกเราต้องย้ายกลับไปดูแลคุณแม่น่ะครับ ท่านป่วยหนัก หลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่คนใหม่มาประจำที่อนามัย พวกเราคงไม่ได้เจอกันอีก หรือกว่าจะได้เจอกันคงอีกนาน”
“คุณหมอจะย้ายแล้วเหรอคะ” จันทราเอ่ยถามอย่างใจหาย ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่อนามัยคนใหม่จะใจดีเหมือนสองคนผัวเมียนี่หรือเปล่า
เจ้าหน้าที่อนามัยไม่จำเป็นต้องเป็นหมอเสมอไป บางครั้งก็เป็นพยาบาลวิชาชีพ บางครั้งก็เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แต่ก็มีประสบการณ์และความชำนาญ สามารถฉีดยา ทำแผล ทำคลอดได้ อาจจะมีหมอลงพื้นที่อาทิตย์ละครั้ง เพื่อทำฟันหรือตรวจรักษาโรคอื่นๆ แล้วแต่ว่าทางโรงพยาบาลใหญ่ๆ ประจำอำเภอจะส่งมา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหมอฟัน มาทำฟันให้คนในหมู่บ้าน ส่วนการให้ความรู้เรื่องต่างๆ ทางอนามัยได้เข้ามาในหมู่บ้านให้ความรู้อยู่แล้ว เช่น โรคไข้เลือดออก หรือโรคต่างๆ ที่ระบาดแล้วแต่ว่าในช่วงนั้นมีโรคอะไรระบาดบ้าง
“เราสองคนเข้าใจค่ะว่าน้าจันทร์ไม่อยากให้หลานไปอยู่กับคนอื่น พวกเราสองคนก็ไม่มีลูก อยากอุปการะดอกแก้วเอาไว้ ถ้าน้าจันทร์เปลี่ยนใจ ก่อนเดินทาง เราสองคนจะทำเรื่องอุปการะดอกแก้วเอาไว้เป็นบุตรบุญธรรมค่ะ” นิตยามองเด็กน้อยแล้วรู้สึกถูกชะตายิ่งนัก
“น้าแล้วแต่ดอกแก้วมัน ไม่อยากบังคับเด็ก” ใจของท่านก็อยากยกหลานให้สองผัวเมียเหมือนกัน หลานจะได้มีอนาคตที่ดี แต่ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องจากหลานไป ทุกวันนี้ดอกแก้วทำให้จันทรามีความสุข ดอกแก้วเหมือนน้ำทิพย์ชโลมหัวใจอันแห้งแล้งของนาง
“ดอกแก้วไม่อยากทิ้งยายกับแม่จ้ะ ดอกแก้วเป็นห่วงยายกับแม่” ความกตัญญูของเด็กน้อย ทำให้สองผัวเมียยิ่งเอ็นดูเข้าไปอีก
“ถ้าดอกแก้วไม่อยู่ ใครจะดูแลแม่ ใครจะหุงหาอาหาร ทำงานบ้านล่ะคะ ยายต้องออกไปทำงาน ไปอยู่ที่อื่นก็จะไม่ได้เห็นหน้ายายกับแม่อีก ดอกแก้วทำใจไม่ได้หรอกค่ะ” เด็กน้อยพูดออกมาแล้วทำเอาจันทราถึงกับน้ำตาซึม
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไม่อยากไปก็ไม่บังคับ ขอให้หนูจงเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนและมีอนาคตที่ดีนะจ๊ะ”
สองสามีภรรยาจะต้องเดินทางไปดูแลบุพการีที่แก่ชรามากแล้ว อีกทั้งยังล้มหมอนนอนเสื่อ เดินเหินไม่ได้เหมือนแต่ก่อน จึงต้องทิ้งอุดมการณ์ทางนี้ไปก่อน งานและการช่วยคนก็สำคัญ แต่ผู้ให้กำเนิดก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การดูแลผู้มีพระคุณมีเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต หากท่านตายจากไป ก็จะไม่มีโอกาสได้ดูแลอีกแล้ว
หมอจรินทร์กับนิตยาย้ายมาอยู่ที่นี่ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ทุรกันดาร เลยอยากมาทำงานเป็นแพทย์เพื่อช่วยคนยากจน
“น้าขอบคุณคุณหมอกับคุณนิตมากๆ นะคะ ขอให้คุณหมอกับคุณนิตจงประสบแต่ความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง” จันทราอวยพรให้คนทั้งสอง
“ขอบคุณมากครับ”
“ขอบคุณมากๆ ค่ะน้าจันทร์” นิตยานั่งลงตรงหน้าของดอกแก้ว ก่อนจะลูบผมนุ่มๆ บนศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ
“สักวันเราต้องได้เจอกันอีกนะจ๊ะเด็กน้อย”
“ค่ะอานิต หนูรักอานิตนะคะ” นิตยาได้ฟังก็น้ำตาซึม ดอกแก้วเองก็ตาแดงๆ เพราะผูกพันกับสองสามีภรรยาเป็นอันมาก
ในวันที่หมอจรินทร์กับภรรยาสาวออกเดินทางมีชาวบ้านหลายคนมาส่ง ทั้งดอกไม้ ของกิน ของฝากมากมายมอบให้สองสามีภรรยาที่ดูแลชาวบ้านที่นี่มาเป็นอย่างดีตลอดหลายปี
“หนูไม่มีอะไรให้อาหมอกับอานิต นอกจากขนมใส่ไส้ที่หนูกับยายทำเองกับมือ ขอให้อาหมอกับอานิตเดินทางปลอดภัยนะคะ” ดอกแก้วยื่นขนมให้สองสามีภรรยาผู้แสนใจดี
“ขอบใจมากจ้ะ ดอกแก้วดูแลแม่กับยายให้ดีนะ ถ้ามีอะไรก็สามารถติดต่ออานิตกับอาหมอได้เลย เราสองคนจะมาหาและช่วยเหลือทุกอย่าง” นิตยาดึงร่างของเด็กน้อยมากอดเอาไว้ อยากมีลูกสาวน่ารักแบบดอกแก้วแต่ไร้วาสนา
ดอกแก้วยังดำเนินชีวิตเช่นเดิม เธอโดนเพื่อนล้อตลอดว่ามีแม่เป็นบ้าและสำส่อน เธอเคยทนเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่หลายครั้งที่ทนไม่ไหว โดนล้อมากๆ เข้าเลยฮึดสู้ ไม่เกรงกลัวต่ออะไรอีก แม้ว่าคนที่ล้อจะเป็นผู้ชายและตัวโตกว่าเธอเสียอีก
ดอกแก้วพุ่งตัวเข้าหาเตะต่อยเด็กผู้ชายปากมอมที่ล้อเธอไม่หยุดปาก แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงเลยโดนผลักจนล้มกระเด็น แถมยังโดนเปิดกระโปรง ล้อเลียนว่ากางเกงในเธอย้วยอีก
“โอ๊ย!” อิทธิร้องเสียงหลงเมื่อโดนดอกแก้วโผเข้าไปหาและกัดเข้าให้เต็มแรง เขาเป็นรุ่นพี่ของดอกแก้วสองปี บิดามารดาเสียชีวิต ผู้เป็นตาเลยไปรับมาอยู่ด้วย
“ไอ้บ้า!” อิทธิผลักศีรษะของดอกแก้วออก แต่ดอกแก้วก็กัดจนจมเขี้ยว ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“กูเจ็บ พวกมึงมาช่วยกูสิวะ” อิทธิหันไปพูดกับเพื่อนร่วมก๊วน
ดอกแก้วใช้มือรวบกระโปรงเอาไว้เหมือนโจงกระเบน ก่อนจะกระโดดถีบทั้ง ๆ ที่ยังกัดอิทธิไม่ยอมปล่อย
“เป็นหมาหรือไงวะ ไอ้บ้า!” อิทธิพลร้องโอดโอย ผลักร่างของดอกแก้วอีกครั้งจนกระเด็น
“อย่ามาล้อแม่กูอีก ไม่งั้นกูจะกัดหูมึงให้ขาดไอ้เลยไอ้บ้า!” ดอกแก้วถมน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดออกจากปาก สายตาบ้าดีเดือดไม่เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป ทำเอาอิทธิต้องกลืนน้ำลายลงคอ ไม่กล้าล้อเลียนดอกแก้วอีก
ดอกแก้วกลับมาถึงบ้านก็ได้ยินเสียงครางของมารดา มีผู้ชายสองคนกำลังทับร่างของมารดาอยู่ เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้ไม้หน้าสามที่วางอยู่ตรงนอกชานกระโดดเข้าไปฟาดไม่ยั้ง โดนทั้งหัวทั้งตัว จนพวกมันสะดุ้ง
“ตายเสียเถอะ กล้าดียังไงมาทำแม่ของหนู”
ดอกแก้ววิ่งไปเอาน้ำมาสาดพวกมันด้วย ก่อนจะโวยวายเสียงดัง จันทราที่กลับมาพอดีรีบเข้ามาช่วยหลานเอาไว้ เมื่อเห็นว่าชายสองคนกำลังจะเข้ามาทำร้ายหลาน
“มึงเข้ามา กูฟันกับมีดพร้าแน่ ๆ ไม่เชื่อลองเข้ามาสิวะ!” สองยายหลานถือทั้งไม้ทั้งมีดพร้าแน่น เตรียมตะบันหน้าพวกมันไม่ยั้ง ไม่สนใจว่าจะเป็นผู้ชายที่แข็งแรงกว่า แต่คนเรามันต้องสู้ จะยอมให้ใครรังแกง่ายๆ ไม่ได้