6
บ่วงรักคุณหมอสุดสวาท
ตอนที่ 6 ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน
จันทราสอนหลานเสมอว่า แม้จะเป็นหญิงก็ไม่ควรยอมให้ใครมาทำอะไรได้ง่ายๆ
สายตาบ่งบอกว่าสู้หัวชนฝา ทำให้ชายฉกรรจ์ทั้งสองวิ่งเตลิดลงไปจากบ้าน
“แม่จ๋าเป็นยังไงบ้างจ๊ะ” ดอกแก้วตรงเข้าไปกอดรัดร่างเปลือยเปล่าของมารดาเอาไว้ เอาผ้ามาคลุมร่างสั่นเทาจากการโดนย่ำยี
จันทราจะไม่ทนอีก ไปฟ้องกำนันพร้าว ซึ่งควบตำแหน่งนายบ้านของที่นี่ด้วย กำนันพร้าวเป็นกำนันแทนกำนันเหิมที่แก่ชรามากแล้ว
สิ่งที่กำนันพร้าวตอบกลับมาสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้จันทราเป็นอย่างยิ่ง
“ฉันถามพวกมันแล้ว พวกมันบอกว่าไม่ได้ทำ แล้วก็ไม่มีหลักฐานเอาผิดด้วย”
“ฉันกับหลานไงเป็นพยานว่าพวกมันทำ”
“ถ้าแม่จันทร์กับหลานใส่ร้ายคนอื่นล่ะ”
“ฉันจะใส่ร้ายทำไม”
“เพื่อเรียกร้องเงินทองยังไงล่ะ ใครๆ ก็รู้ว่าแม่จันทร์น่ะอยากได้เงินไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหวานขนาดไหน พยานคนอื่นก็ไม่มี ฉันคงเอาผิดใครไม่ได้หรอกนะ” ประโยคนั้นของกำนันพร้าว ทำเอาสองยายหลายจุกไปทั้งอก
“ทำไมเราไม่เคยได้รับความเป็นธรรมเลยจ๊ะยาย” ดอกแก้วเอ่ยถามยายเมื่อกลับมาถึงบ้าน กำนันพร้าวคนนี้ช่างลำเอียงและหาความยุติธรรมไม่ได้เลย ดอกแก้วไม่เข้าใจว่าทำไมคนทำผิดซึ่งๆ หน้าถึงเอาผิดไม่ได้
“เรามันจนไงลูก ถ้ามีเงินพาแม่เราไปตรวจร่างกายว่าโดนทำไม่ดี ก็คงไม่เป็นแบบนี้” ดอกแก้วเริ่มโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เช่นไรก็ยังเด็ก จันทราจึงไม่อยากพูดอะไรมากนัก ให้เข้าใจว่าโดนรังแกก็พอ
“ต่อไปหนูจะมีเงินเยอะๆ จ้ะยาย” คนพูดโผเข้ากอดยาย ต่อไปเธอจะต้องทำงานให้ได้เงินเยอะๆ จะต้องเรียนให้สูงๆ มีการศึกษาเข้าไว้ จะได้ไม่มีใครมาดูถูกหรือรังแกอีก
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ดอกแก้วช่วยยายหาผักไปขายที่ตลาด แถวคลองมีหน่อไม้ ผักกูด ผักน้ำขึ้นอยู่เต็ม เก็บไปขายที่ตลาดก็พอมีเงินซื้อกับข้าว บ้านของเธอเลี้ยงไก่ด้วย จึงมีไข่ให้กินทุกวัน มีไข่ มีข้าวสาร มีมาม่า ปลากระป๋อง และผักสดๆ ริมรั้ว ก็ทำให้สามชีวิตในครอบครัวยากจนไม่อดอยากมากนัก เพราะมีอาหารประทังชีวิตได้ในทุกวัน
“ยายจ๋า หนูจะไปเก็บผักกูดกับยอดหวายตรงโน้นนะจ๊ะ”
“จ้ะ ยายจะไปตัดหน่อไม้ตรงโน้น ระวังด้วยนะ แถวนั้นมีหลุมลึกๆ อยู่หลายหลุม” พวกชาวบ้านมาขุดเอาไว้เพื่อดักสัตว์เลยต้องระวัง
“จ้ะยาย” ดอกแก้วเดินอย่างระมัดระวังเพราะเธอชินกับพื้นที่แถวนี้
ดอกแก้วใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบันช่วยเหลือยายทำงานและดูแลมารดาสติไม่ดีจนโตเป็นสาว ใครรังแกดอกแก้วเป็นไม่ได้ ยายจะช่วยปกป้อง ดอกแก้วเองก็ไม่ใช่คนยอมคน เธอสู้ยิบตา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ในระหว่างที่พิมพ์แก้วถูกเลี้ยงอย่างตามใจ เธอเข้าไปเรียนมัธยมปลายในตัวเมืองจนกลายเป็นเด็กเสียคน ติดเพื่อน ติดยา ติดผู้ชาย ใช้เงินล้างผลาญไปวันๆ จนตั้งท้อง พิกุลอับอายจึงแอบพาบุตรสาวไปทำแท้งโดยไม่ให้พ่อสามีกับสามีรู้
“ดอกแก้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ชาวบ้านวิ่งมาตามดอกแก้ว ในขณะที่เธอกำลังเก็บผักอยู่ริมรั้ว เธอเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่หกด้วยทุนการศึกษาที่เธอได้รับในแต่ละปีจากผู้ใจบุญ และกำลังจะเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ในปีการศึกษาหน้า เป็นทุนเรียนต่อครู เพราะเธอใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นครูสอนหนังสือ ทำให้เด็กๆ มีการศึกษามีความรู้ ทุนการศึกษาที่ดอกแก้วได้รับสร้างความยินดีให้แก่จันทราเป็นอันมาก
พอโตขึ้น ดอกแก้วเปลี่ยนความคิดใหม่ เมื่อก่อนคิดว่าต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ แต่ตอนนี้เธออยากทำงานเพื่อสังคม เพื่อเด็กยากไร้คนอื่นๆ ที่มีชีวิตไม่ต่างจากเธอ และอาชีพครูที่เธออยากเป็น ก็เป็นอาชีพที่ไม่แสวงหาผลกำไร ถ้าอยากรวยต้องไปค้าขาย หรือทำงานอย่างอื่น ซึ่งเธอไม่ได้ต้องการเงินมากมายเหมือนตอนเด็กๆ ไม่ได้อยากมีเงินมากมายเหมือนตอนเด็กๆ อาจเพราะความสุขที่เกิดขึ้น ไม่ได้อาศัยเงินทองเสมอไป
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นจ๊ะน้า”
“แม่กับยายของเอ็งน่ะสิแย่แล้ว รีบไปดูเร็ว” พอได้ยินว่าแม่กับยายกำลังเกิดเรื่อง ดอกแก้วก็วิ่งตามชาวบ้านคนนั้นไปอย่างไม่คิดชีวิต
เธอวิ่งมาที่เกิดเหตุด้วยอาการว้าวุ่นใจ พอเห็นร่างของยายกับแม่ก็ตกใจแทบสิ้นสติ รีบถลาเข้าไปกอดศพของยายกับแม่เอาไว้แน่น
“แม่จ๋า ยายจ๋า ใครทำอะไรยายทำแม่แบบนี้ ฮือ ๆ” สภาพของดอกแก้ว น่าเวทนายิ่งนัก ชาวบ้านรีบเข้ามาดึงตัวเด็กสาวออกไป แต่ดอกแก้วก็ดิ้นรนสุดฤทธิ์สุดเดชให้หลุดจากชาวบ้านที่มาดึงตัวเธอเอาไว้
หมู่บ้านดงหวาย ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุช้ากว่าปกติ
เวลาคนในหมู่บ้านแห่งนี้จะออกไปทำธุระ คนไหนมีรถยนต์ส่วนตัวก็จะสะดวกสบายกว่าชาวบ้านคนอื่น ดอกแก้วไปเรียนโดยการอาศัยรถเหมาของลุงเพิ่มที่ขับตระเวรไปรับส่งนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ เธอใช้เงินจากทุนการศึกษาจ่ายเป็นค่ารถเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้เรียนเหมือนเพื่อนๆ คนอื่น
“แม่จ๋า แม่! ยายจ๋า ยาย! ปล่อยหนูนะ ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้ หนูจะดูยายกับแม่” ดอกแก้วร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ถลาเข้าไปกอดศพของคนทั้งสองเอาไว้แน่น
“แม่กับยายเอ็งตายแล้ว” ชาวบ้านที่พบศพคนแรกบอกว่าเห็นร่างของจันทรานอนสลบอยู่ใกล้ๆ กับศพของดอกรัก เลยรีบช่วยจันทราเอาไว้ก่อน แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายก็ไม่หายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ที่อนามัยไม่อยู่เพราะมีการโยกย้ายบ่อยครั้ง เนื่องจากคนใหม่ยังไม่มา ทั้ง ๆ ที่ควรจะมาได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงล้าช้านัก ที่นี่มีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบ่อยๆ เลยทำให้บางครั้งเกิดขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์เกิดขึ้น
“แม่กับยายยังไม่ตาย อย่ามาแช่งยายกับแม่หนูนะ” ดอกแก้วไม่เชื่อ รีบเอามือเช็ดเลือดตามเนื้อตามตัวของมารดา และเขย่าร่างของยายให้ลุกขึ้น
“ยายจ๋า ตื่นสิ แม่เลือดไหลเต็มเลย แม่จ๋า ยายจ๋า อย่าทิ้งหนูไปนะ ถ้ายายกับแม่ไม่อยู่แล้วหนูจะอยู่ยังไง จะตั้งใจเรียนไปเพื่อใครกันล่ะจ๊ะ ฮือ ๆ” ดอกแก้วร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำ สร้างความเวทนาให้ชาวบ้านที่มายืนมุงดูเหตุการณ์ยิ่งนัก
“นังดอกแก้วเอ๊ย ทำใจเสียเถอะลูก แม่กับยายของเอ็งไปสบายแล้ว แม่เอ็งก็พ้นทุกข์พ้นโศกแล้วลูกเอ๊ย”
ปรานีเข้าไปลูบหลังลูบไหล่เด็กสาวเบาๆ เพราะสงสารในชะตาชีวิตของดอกรักมานาน ถูกผู้ชายรุมขืนใจแต่เด็ก ท้องตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นเพราะสติไม่ดี เกิดมาหน้าตาสะสวยจับจิตจับใจแต่กลับอาภัพนัก ดอกแก้วโชคดีหน่อยคลอดออกมาก็มีสติปัญญาฉลาดหลักแหลม เรียนหนังสือก็เก่งไม่เหมือนแม่ เอาตัวรอดก็เก่ง ไม่มีใครกล้ากลั่นแกล้งหรือรังแกดอกแก้วเลย แต่ถ้าดอกแก้วเกิดมาเหมือนแม่อีกคนคงซวยซ้ำซวยซ้อน
“แม่จ๋า ยายจ๋า ไม่จริง หนูไม่เชื่อ ฮือ ๆ” ดอกแก้วกอดศพยายกับแม่ร้องไห้โฮ ซบอกของมารดากับยายพลางสะอึกสะอื้นแทบขาดใจ
“หนูยังเรียนไม่จบ ยังไม่ได้เลี้ยงยายกับแม่ให้สบายเลย หนู ฮึก ๆ ฮือ ๆ ๆ” สาวน้อยสะอึกสะอื้นใบหน้ามอมแมม ร่างกายเปรอะไปด้วยเลือด ทำใจไม่ได้จนแทบสิ้นสติ เธออุตส่าห์สอบชิงทุนไปเรียนมหาวิทยาลัยได้ อดทนอีกไม่กี่ปีก็จะเรียนจบ มีงานดีๆ ทำจะได้มารับยายกับแม่ไปอยู่ด้วยกัน จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ไม่คิดว่าคนที่เธอรักทั้งสองคนจะมาด่วนจากไปแบบนี้ ดอกแก้วทำใจไม่ได้ เธออยากคิดว่าตัวเองฝันไป ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง
“เจ้าหน้าที่มาแล้ว” เสียงชาวบ้านดังขึ้น