“อะไรนะ? พรีเซนเตอร์?...”
“อื้อ สนใจไหมล่ะ พอดีโรงพยาบาลกำลังหาพรีเซนเตอร์ใหม่ อยากได้คนสวยๆดูดีแต่ไม่อยากได้พวกนางแบบหรือคนดังน่ะ เห็นว่าเราเคยเป็นนางแบบมาด้วย”
“แต่เอวาไม่ได้ทำงานแบบนี้มานานแล้วนะคะ”
“แบบนั้นแหละที่ต้องการ ไม่แน่นะ เราอาจดังเป็นพลุแตกที่นี่ก็ได้”
หลายวันต่อมา หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เอวาก็เริ่มหางานทำ เมื่อเธอนั้นไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากเดินแบบบ้าง ถ่ายแบบบ้าง แต่พอเบื่อเธอก็ออกเดินทางท่องเที่ยว ด้วยทรัพย์สมบัติที่บิดามารดามีให้นั้นมากมายจนไม่ทำงานเธอก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้เลย แต่พออยู่เฉยๆเธอก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย จนโรมันเสนองานพรีเซนเตอร์ของโรงพยาบาล ที่กำลังจะทำการโปรโมทไปทั่วประเทศ และดูท่าเอวาก็สนใจเพราะมันเป็นงานที่เธอเคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น
“ถ้ายอดขายไม่ขึ้นจะมาว่าเอวาไม่ได้นะคะ”
“งั้นตกลงตามนี้นะ พรุ่งนี้เข้าไปที่โรงพยาบาล เดี๋ยวพี่ให้คนเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกที”
“ค่าาา”
บอกเสร็จโรมันก็เดินกลับห้องไป ส่วนเอวา เธอค่อยๆหยิบรูปครอบครัวออกมาจากประเป๋า ที่ถูกส่งมาจากอังกฤษ เธอเอาแต่ของที่จำเป็นและต้องการจริงๆมา เมื่อบ้านที่อังกฤษก็ยังมีอยู่ มันเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามที่ถูกตกแต่งทั้งภายในและภายนอกเอาไว้อย่างสวยงาม จากฝีมือของคุณพิมพา มารดาของเธอ มีหลายต่อหลายคนติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อในราคาที่สูงลิบลิ่ว แต่เธอขอเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำของครอบครัวและจ้างแม่บ้านคอยเข้ามาดูแลและทำความสะอาดให้
“คุณหมอคะ คนไข้ฉุกเฉินกำลังจะมาถึงอีก 10 นาทีค่ะ”
“ให้คนเตรียมห้องผ่าตัดเอาไว้ให้พร้อม คนไข้ต้องบายพาสหัวใจด่วน เดี๋ยวคุณช่วยไปเรียกหมอน้ำตาลมาทีนะ อาจต้องดูเรื่องกระดูกของคนไข้ด้วย เห็นว่าล้มตอนเกิดอาการแน่นหน้าอก รีบเลยนะ”
“ค่ะ”
สั่งเสร็จรามินทร์ก็เดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน และไม่นานคุณหมอสาวสวยก็เดินเข้ามาสมทบพร้อมกับชุดพร้อมเข้าห้องผ่าตัด
“เป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ น้ำตาลดูผลทีซีสแกนพบว่ามีกระดูกซี่โครงหักหนึ่งซี่อยู่ใกล้หัวใจห้องล่าง”
“ผมดูแล้ว และหวังว่ามันจะไม่รุนแรงเกินแก้ ไปกันเถอะ”
จากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด และกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลาไปกว่า 6 ชั่วโมง เมื่อคนไข้อายุเยอะแถมยังเป็นหลายโรคอีก แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี
“ไปทานข้าวกันไหมคะ? น่าจะไม่มีคนไข้ฉุกเฉินมาอีกแล้ว”
พอเดินออกมาจากห้องผ่าตัด คุณหมอสาวก็ชวนออกมา”
“ได้สิ ร้านที่คุณแนะนำอร่อยถูกใจผมทุกร้านอยู่แล้ว”
รามินทร์บอกขึ้นพร้อมกับยิ้มขอบคุณส่งไปให้แล้วเดินจากไปเพื่อเปลี่ยนชุดโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้คุณหมอสาวกำลังยิ้มกว้างมองตามเขาด้วยสายตาที่ทั้งรักและชื่นชมอย่างเปิดเผย
เธอยอมตกลงเข้ามาทำงานที่นี่ก็เพราะรามินทร์ทั้งๆที่ไม่อยากทำงานกับบิดา เมื่อเขาคือรักแรกพบของเธอ เธอคอยมองและชื่นชมเขาแต่ไม่เคยกล้าที่จะบอกหรือสารภาพความในใจออกมา เพราะรู้ดีว่ามีสาวๆอีกหลายสิบหลายร้อยคนก็คิดแบบเดียวกันกับเธออยู่
“ถ้าจะมองขนาดนั้น ก็เดินตามไปที่ห้องหมอรามเลยสิคะ”
“พยาบาลเอ๋ พูดอะไรไม่รู้ ไปล่ะ”
“ฮิฮิฮิ เขารู้กันทั้งโรงพยาบาลแล้วคุณหมอน้ำตาลเอ้ย”
พยาบาลผู้ช่วยที่เดินออกมาทันได้เห็นอดแซวไม่ได้ เมื่อใครๆต่างก็รู้ว่าคุณหมอสาวนั้นรู้สึกยังไงกับคุณหมอหนุ่มสุดหล่ออย่างรามินทร์ จะมีก็แค่เจ้าตัวที่ไม่รู้หรือบางทีอาจแกล้งไม่รู้ก็เป็นได้
ไม่นานทั้งสองก็เดินมาขึ้นรถของรามินทร์เพื่อไปยังร้านอาหารที่น้ำตาลเสนอมา
“หือ? ร้านนี้เหรอ?...”
“ค่ะ เป็นอาหารจีน แต่อร่อยมาก น้ำตาลเคยพาคุณแม่มาทานน่ะค่ะ”
“อ้อ ครับ...”
พอมาถึง รามินทร์มองร้านอาหารจีนตรงหน้าที่เขาเคยมากับพวกเพื่อนๆแล้วหลายครั้ง เมื่อมันเป็นร้านของ วารี เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยและตอนนี้ก็กำลังจะเป็นเจ้าสาวของ เทวา เพื่อนสนิทอีกคนของเขาด้วย
นั่นไง ไอ้นี่มันจะมาทำไมทุกวันวะเนี่ย!
พอเดินเข้าไปในร้าน รามินทร์ก็เจอเข้ากับเทวาและวารีที่กำลังกินข้าวกันอยู่ เขาแทบอยากเดินกลับออกไปถ้าไม่ติดว่าน้ำตาลมาด้วย
“ไอ้ราม เฮ้ย! มากินข้าวเหรอวะ มานั่งด้วยกันสิๆๆ”
และเทวาที่มองมาเจอก็รีบตะโกนเรียกอย่างไม่คิดเกรงใจใครเมื่อตอนนี้ทั้งร้านก็มีแค่พวกเขานี่แหละ เมื่ออีกไม่นานมันก็จะหมดเวลาเปิดแล้ว
“เราไปนั่งที่...”
“ไปนั่งกับเพื่อนคุณหมอก็ได้ค่ะ น้ำตาลไม่เป็นไร”
และน้ำตาลก็รีบบอก ทำเอาคนที่อยากปฏิเสธถึงกับหยุดพูดแทบไม่ทัน ก่อนจะพาน้ำตาลเดินไปร่วมโต๊ะกับวารีและเทวา
“แฟนนายเหรอ? ไม่ยักรู้ว่าไปแอบมีแฟน”
เป็นวารีที่ถามออกมา เพราะก่อนหน้านี้รามินทร์ยังเอาแต่คิดถึงธาราเพื่อนของเธออยู่เลย
“เพื่อนร่วมงาน...แฟนแกนี่ไม่มีมารยาทเหมือนเดิมเลยนะ”
รามินทร์บอกขึ้นก่อนจะหันไปพูดกับเทวา ที่พอได้ยินแบบนั้นหน้าตี๋ๆของเขาก็งอง้ำทันที
“อย่ามาว่าสุดที่รักของฉันนะเว้ย! เดี๋ยวเตะตกโต๊ะเลยนี่”
เทวารีบปกป้องแฟนสาวสุดรักสุดสวาท
“นี่หมอน้ำตาล เป็นหมอที่โรงพยาบาล เราแค่ออกมาหาของกิน พวกแกก็พูดไปเรื่อย...ขอโทษแทนพวกนี้ด้วยนะครับ ไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่”
“อ่าว ไอ้นี่”
น้ำตาลมองทั้งสามพร้อมกับยิ้มกว้าง เมื่อเธอนั้นแทบไม่มีเพื่อนเพราะเรียนอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก พอเห็นความสนิทของพวกเขาเธอเลยอดที่จะรู้สึกอิจฉาไม่ได้
“ผมเทพ ส่วนนี่ลม แฟนผมเองครับ หวังว่าในอนาคตอันใกล้เราอาจสนิทกันมากกว่านี้”
“ยินดีค่ะ”
น้ำตาลที่ไม่ได้รู้ความหมายของสิ่งที่เทวาพูดออกมารีบตอบรับพร้อมยิ้มกว้างอย่างขอบคุณ ทำเอาทั้งโต๊ะต้องยิ้มตามๆกัน เมื่อเธอช่างดูใสซื่อ
จากนั้นอาหารอีกชุดก็ถูกเสิร์ฟ ทั้งเทวาและวารีมองการเอาใจใส่ที่น้ำตาลแสดงออกมาแต่ดูท่าทางรามินทร์จะไม่ได้รู้ตัวหรือสนใจเลยสักนิดว่ากำลังมีคนแอบหลงรักเขาอยู่จนกระทั่งมื้ออาหารจบลง เขาก็ขอตัวพาน้ำตาลไปส่งที่โรงพยาบาล
“นายว่ารามยังชอบธารอยู่รึเปล่า?”
“ไม่น่านะ มีผัวแล้วขนาดนั้น แต่หมอคนเมื่อกี้ก็โอเคนะ ดูเอาใจใส่เข้ากับไอ้รามได้ดีด้วย”
“คนเรามักจะมองข้ามอะไรดีๆเสมอแหละ”
เทวาและวารีที่ได้อยู่กันสองคนอดที่จะพูดถึงคนที่พึ่งจากไปไม่ได้ เมื่ออยากให้รามินทร์ได้เริ่มต้นความรักครั้งใหม่ และก็คิดว่าถ้าเป็นน้ำตาลก็คงดี
ส่วนรามินทร์ พอมาส่งน้ำตาลเสร็จเขาก็ขับรถกลับไปที่คอนโด เมื่ออันที่จริงเขาก็รู้ว่าน้ำตาลนั้นคิดยังไงกับตัวเอง แต่เขาต้องทำเป็นไม่สนใจเมื่อความรู้สึกที่มีให้เธอไม่เคยคิดเกินเลยสักครั้ง แต่ถ้าจะให้เขาเลือกผู้หญิงสักคนมาร่วมชีวิตโดยไม่ต้องคำนึงถึงความรัก น้ำตาลก็คงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับเขา
“นี่ใครกัน...นางแบบใหม่เหรอ?”
ลูซี่ ผู้จัดการดารานางแบบกำลังมองรูปในอินเทอร์เน็ตอย่างนึกสนใจ เมื่อลูกน้องของเธอเดินถือมันเข้ามา และพอเห็นเขาก็สนใจทันที
“เอามาจากไหน?”
“เพื่อนของแนนนี่ส่งมาให้เห็นว่าสวยเลยอยากรู้ว่าเป็นเด็กเรารึเปล่าน่ะค่ะ”
“ไปเตรียมรถไป”
“ค่ะ”
พอลูกน้องสาวประเภทสองเดินออกไป ลูซี่ก็เอาแต่มองรูปในจอเล็กๆที่มีอยู่หลายรูปอย่างนึกสนใจ เมื่อนานแล้วที่เขาไม่เคยสนใจใครมากมายขนาดนี้เพียงเพราะได้เห็นแค่รูป
“นี่เป็นอัลบั้มโปสเตอร์ทั้งหมด ฝ่ายการตลาดฝากเอามาให้ ว่าแต่ไม่สนใจทำงานด้านนี้เหรอ พี่ว่าเราก็โอเคอยู่นะ”
โรมันบอกขึ้นขณะทานอาหารกันอยู่ที่ห้องของเขา เมื่อตอนนี้เอวากลายมาเป็นแขกประจำของห้องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เอวาอยากทำงานออกแบบมากกว่า ไม่อยากให้ใครมาสนใจ”
เอวาบอกขึ้นพร้อมกับเปิดดูอัลบั้มรูปไปด้วย
“แล้วเรื่องไอ้รามล่ะ...มันเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”
และสิ่งที่คาใจโรมันมาตลอดก็คือเรื่องนี้ เพราะเอวานั้นคลั่งไคล้รามินทร์เพียงแค่เห็นในรูปที่เขาพกไปด้วยตอนย้ายไปเรียนที่โน่น และเขาก็เคยขอให้เอวามาที่นี่เพื่อทำให้รามินทร์หลงรักเพื่อที่รามินทร์จะได้ตัดใจจากธาราได้สักที แต่เขากลับไม่เคยรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเลยสักนิด เมื่อเอวาไม่เคยปริปากบอก ขนาดย้ายมาอยู่ที่นี่เอวายังไม่เคยพูดถึงรามินทร์ออกมาเลยสักครั้งนี่แหละที่ทำให้เขาแปลกใจ
ส่วนเอวา พอเจอถามเรื่องที่เธอพยายามจะลืม รอยยิ้มน้อยๆกลับหายไปจากหน้าสวยๆของเธอทันที ทำเอาคนมองรู้ในทันทีเช่นกับว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
“ถ้ามันเกิดจากพี่ พี่ก็อยากขอโทษ”
โรมันบอกขึ้น เพราะตอนนั้นเขาทำอะไรไปโดยไม่คิดให้ดี ตั้งแต่ที่รู้ว่าเขากำลังจะมีลูก ทุกอย่างในชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เขาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อที่จะได้เป็นพ่อที่ลูกกล้าที่จะเข้าหา
“อะไรกันคะ ไม่เกี่ยวกับพี่โรมหรอก แค่...เอวาขี้เกียจตื๊อเขาแล้วน่ะค่ะ คนอะไรใจแข็งเป็นหิน”
ถึงแม้จะรู้ว่านั่นคงไม่ใช่เหตุผลจริงๆแต่โรมันก็ไม่อยากเซ้าซี้ ก่อนจะขอตัวเดินออกไปดูธาราที่อาบน้ำน่าจะเสร็จแล้ว
ส่วนเอวาพอโรมันเดินออกไปแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกอัดอั้นในใจ เมื่อเธอนั้นยังคงเอาแต่โทษตัวเองเรื่องที่ปล่อยบิดาไว้คนเดียวแล้วมาตามหาหัวใจ ซึ่งเธอกลับไม่ได้อะไรตอบแทนนอกจากความเกลียดชังที่รามินทร์มีต่อเธอ ทุกอย่างที่ลงทุนไปดูจะขาดทุนย่อยยับจนเธอไม่คิดสนใจรามินทร์อีกแล้ว
วันต่อมา เอวาก็เข้ามาที่โรงพยาบาลพร้อมกับโรมัน เมื่อตอนนี้เธอเป็นพรีเซนเตอร์ของที่นี่ ต้องออกงานอีเว้นท์เพื่อโปรโมทกับทางฝ่ายการตลาด และเอวาก็รู้สึกตื่นเต้นหลังจากที่ห่างหายวงการนี้มานาน
“สวัสดีครับ ผมคุณากร เรียก เคน ก็ได้ครับ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“หือ? แล้วคนนั้นล่ะคะ”
“เธอทำเรื่องย้ายไปทำที่สาขายุโรป และตอนนี้ก็น่าจะถึงแล้วครับ”
“อ้อ ค่ะ”
จากนั้นเขาก็พาเอวาเข้าไปในห้องประชุม เมื่อต้องประชุมก่อนออกนอกสถานที่ และเอวาก็ทำมันได้เป็นอย่างดี เธอเข้ากับทุกคนและสนุกกับการทำงานโดยไม่บ่นอะไรสักคำ
“น้องเอวาคะ มีคนขอคุยด้วย พอจะสะดวกรึเปล่าคะ?”
หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาบอก เมื่อเอวาพึ่งลงมาจากเวทีโปรโมทโรงพยาบาล
“อืม...ได้สิคะ เข้ามาในนี้เลยนะคะ พอดีเอวาไม่สะดวกเดินออกไป”
พอเธอบอกแบบนั้น ทีมงานสาวก็เดินกลับออกไป ก่อนจะกลับมาพร้อมกับสาวประเภทสองร่างท้วมที่แต่งตัวแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“สวัสดีค่ะน้องเอวา นี่นามบัตรของพี่ลูซี่ค่ะ”
ลูซี่รีบเดินเข้ามาพร้อมกับแนะนำตัว
หือ! พอมาเจอตัวจริงสวยกว่าในรูปไปอี๊ก! ต้องได้ คนนี้ฉันต้องได้!
ลูซี่ที่มองเอวาอย่างมาดหมาย ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น จนเอวาตกใจรีบลุกขึ้นยืน
“คุณ! เอ่อ ทำอะไร”
“มาเป็นเด็กในสังกัดพี่ลูซี่เถอะนะน้องเอวา พี่ลูซี่สัญญาไม่สิสาบานเลยว่าจะทำให้น้องเอวาดังกว่าทุกคนที่พี่ลูซี่เคยปั้นมา นะคะ”
“เอ่อ เดี๋ยวนะคะ”
เอวาถึงกับไปไม่เป็น เมื่ออยู่ดีๆลูซี่ก็มาคุกเขาแล้วทำท่าอ้อนวอนอย่างไม่ให้เธอได้ตั้งตัวเลยสักนิดแบบนี้ เธอได้แต่ยืนมองอย่างไม่รู้จะพูดหรือตอบยังไง มองซ้ายมองขวาก็ไร้วี่แววคนช่วยเหลือ จนต้องก้มลงไปมองลูซี่อีกครั้ง
“เอวาว่าเราลุกขึ้นมานั่งคุยกันก่อนนะคะ”
“ได้สิคะ”
ลูซี่รีบลุกขึ้นอย่างมีความหวัง เพราะเพื่องานแล้วเธอยอมทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งทิ้งศักดิ์ศรีเอาไว้ที่บ้านเธอก็ทำ
“ช่วยพูดให้เข้าใจหน่อยนะคะ”
เอวาบอกขึ้น
“พี่ลูซี่เป็นนักปั้นค่ะ ปั้นดารานางแบบดังๆเช่นน้องอิ๋มอิ๋ม น้องเรเชล น้อง...”
“เอ่อ เอวาพึ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงเดือน คงไม่รู้จักคนพวกนั้นหรอกค่ะ”
“อ้อ พี่ขอโทษจ๊ะ พอดีพี่สนใจอยากได้เอวามาร่วมงานด้วย น้องเอวาอยู่สังกัดไหนหรือว่ามีตัวแทนรึเปล่า ให้มาคุยกับพี่ลูซี่ได้นะคะ”
“เอวาไม่มีสังกัด มีแต่พี่ชาย”
“งั้นพี่ลูซี่ขอคุยกับพี่ชายของน้องเอวาได้ไหมคะ?”
“ได้สิคะ ไปที่โรงพยาบาลได้เลย”
“หือ? พี่ชายเป็นหมอเหรอคะ?”
“ค่ะ ชื่อคุณหมอโรมัน”
“งั้น ถ้าพี่ชายตกลง น้องเอวาก็คงตกลงด้วยใช่ไหมคะ”
“แน่นอนค่ะ”
พอรู้แบบนั้น ลูซี่ก็ขอตัวกลับออกมาทันที เพราะต้องไปที่โรงพยาบาลต่อ ส่วนเอวา เธอไม่สนใจงานที่ลูซี่เสนอหรอก แต่ถ้ามีงานทำก็คงดี ไม่ต้องอยู่แบบเบื่อๆ
“คะ? ต้องนัด? แต่น้องเอวาบอกให้มา คือน้องเอวา...นี่ๆๆ น้องคนนี้เลย”
“หือ? คุณเอวาเหรอคะ...งั้นเดี๋ยวดิฉันขอแจ้งไปก่อน นั่งรอสักครู่นะคะ”
พอมาถึง ลูซี่ก็ขอเข้าพบโรมันทันทีโดยไม่ได้รู้เลยว่าคนที่อยากเจอนั้นเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาล เธอนั่งรออยู่ร่วมชั่วโมงอย่างใจเย็น ก่อนจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป
“ใจเย็นลูซี่ ถ้าแกได้เอวามา แกโด่งดังและสบายไปทั้งชาติแน่ ใจเย็นไว้ๆ”
ลูซี่เฝ้าบอกตัวเองให้อดทน ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์เมื่อมาถึงชั้นบนสุดแล้ว เธอมองไปรอบๆอย่างนึกแปลกใจ
“โรงพยาบาลนี้ดีจัง ให้หมอมาทำงานชั้นนี้เลย”
ลูซี่พูดขึ้นเมื่อปกติแล้วเธอคิดว่าชั้นบนสุดเป็นของพวกผู้บริหารไม่ก็เจ้าของเท่านั้น
“เชิญครับ”
นนนน์ เลขาส่วนตัวของโรมันเดินเข้ามาหาลูซี่แล้วเอ่ยขึ้น ทำเอาลูซี่ถึงกับอ้าปากค้าง มองนนนน์ด้วยสองตาแวววับ
“สนใจไปเป็นเด็กในสังกัดลูซี่ไหมคะสุดหล่อ?”
เธอรีบหยิบนามบัตรส่งให้นนนน์ทันที
“ไม่ล่ะครับ พอดีผมชอบชีวิตเงียบๆมากกว่า”
นนนน์ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจนลูซี่ต้องทำปากขมุบขมิบแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของโรมัน
พระเจ้า!! ไปอยู่ที่ไหนม๊า!! เทพบุตรของลูซี่!
พอเดินเข้ามาลูซี่แทบหยุดหายใจเมื่อคนที่กำลังก้มหน้าทำงานอยู่นั้นช่างหล่อเหลาราวเทพบุตรหล่อกว่าพวกดารานายแบบในสังกัดทั้งหมดที่เธอมีด้วยซ้ำ
“สนใจไปเป็นเด็กในสังกัดลูซี่ไหมคะพ่อเทพบุตร?”
“บอกธุระของคุณมา ผมไม่มีเวลามากนัก”
ลูซี่รีบเดินไปนั่ง สองตาเอาแต่จ้องมองหน้าอันหล่อเหลาของโรมัน
เป็นหมอจำเป็นต้องหล่อเบอร์นี้ไหม...
ลูซี่ยังคงคิดขึ้นไม่หยุด ก่อนจะยิ่งตกตะลึงเมื่อโรมันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับหัวคิ้วเริ่มยุ่งเข้าหากัน
“เอ่อ พอดีลูซี่มาตามที่น้องเอวาบอก คือลูซี่อยากได้น้องเอวามาทำงานด้วยน่ะค่ะ...”
คุณด้วย พ่อเทพบุตร...
ลูซี่บอกขึ้น เมื่อโรมันเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่
“งาน? งานอะไรกัน”
“ลูซี่อยากพาน้องเอวาเข้าวงการบันเทิงค่ะ ลูซี่จะดูแลและเอาใจใส่ คอยสนับสนุนน้องเอวาจนโด่งดัง แต่น้องเอวาบอกว่าให้มาถามพี่ชายก่อน”
โรมันมองลูซี่อย่างชั่งใจ เมื่อดูจากท่าทาง และจริตอันมากเกินไปทำให้เขาไม่ไว้ใจเท่าไหร่
“อย่ามองลูซี่แบบนั้นสิคะ ลูซี่น่ะมีชื่อเสียงมากเลยนะคะ ดารานางแบบดังๆล้วนแล้วแต่อยู่สังกัดลูซี่ทั้งนั้นค่ะ”
เธอรีบบอก เมื่อยังไงก็ต้องได้เอวาไปทำงานด้วยให้ได้
“แล้วทำไมคุณถึงสนใจน้องสาวผมล่ะ”
“ก็เพราะน้องสวย ขอโทษนะคะที่ต้องพูดตามตรง เพราะเห็นแค่รูปมันตัดสินอะไรไม่ได้นอกจากหน้าตาภายนอก”
“แล้วถ้าเอาไปแล้ว เกิดน้องสาวผมทำตัวไม่ดี จะไม่รีบเอามาส่งคืนเหรอ?”
“แหม เราก็มีสัญญากันนี่ค่ะ ถ้าเอามาคืนก่อนหมดสัญญา ลูซี่ก็ต้องเสียค่าปรับหนักเลยสิคะ ลูซี่จะคอยดูแลน้องอย่างดีค่ะ อบรมสั่งสอนด้วย ยอมเถอะนะคะ เรียกค่าตัวยังไงลูซี่ก็ยอมค่ะ”
โรมันมองลูซี่พร้อมกับใช้ความคิด เมื่ออันที่จริงเอวานั้นเรียนจบมาสายนี้ด้วยซ้ำ ตอนจบมาแรกๆเธอก็เป็นทั้งนางแบบและพรีเซนเตอร์โฆษณาแต่เอวากลับรู้สึกเบื่อเลยไม่รับงานอีก
“ผมขอคุยกับเธอก่อน ถ้าเธอตกลงก็ร่างสัญญามาได้เลย ฝ่ายกฎหมายของเราจะตรวจสอบอีกที”
หือ? รอบคอบแฮะ
“ได้ค่ะ งั้นลูซี่ขอคำตอบเร็วๆหน่อยนะคะ จะได้เริ่มโฆษณาดาราหน้าใหม่เลย แล้ว...คุณพี่ชายไม่สนใจ...”
“แค่โรงพยาบาลผมก็ทำไม่ไหวแล้ว ลองมาเป็นเจ้าของดูไหมล่ะ?”
“คะ? เอ่อ เจ้าของ...”
“................”
และหลังจากนั้นลูซี่ก็เดินกลับออกมาอย่างเลื่อนลอย เมื่อเกิดมาพึ่งเคยเจอคนที่เพียบพร้อมทั้ง รูปร่าง หน้าตา และทรัพย์สมบัติอย่างโรมัน เธอมองไปรอบๆโรงพยาบาลอันใหญ่โตหรูหราอย่างไม่คาดคิดว่าจะเป็นของโรมัน
“โอ้วววว อยากมีผัว!!”
พอเดินออกมาขึ้นรถ ลูซี่ก็ตะโกนดังก้องจนคนขับสะดุ้งตกใจ รีบออกรถทันที