“ว่าไง ถ้าสนใจก็บอก เดี๋ยวจัดการให้ ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้างานหนักเกินก็แค่หยุดทำ ไม่เห็นยาก”
พอกลับมาถึงบ้านช่วงดึก โรมันก็คุยกับเอวาเรื่องที่ลูซี่สนใจเธออยู่ เมื่อเขารู้ว่าเอวาสนใจงานนี้ เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงปฏิเสธไปตั้งแต่เจอลูซี่แล้ว
“ค่ะ เอวาอยากทำงาน”
และเอวาก็ยอมรับ เพราะนอกจากงานด้านนี้ เธอก็ไม่รู้จะทำงานอะไรได้
“งั้นไปพักเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกนี่”
“ค่ะ พนักงานของพี่โรมใช้งานเอวาหนักมากๆๆๆ”
“จริงรึเปล่า ดูจากสีหน้า เหมือนจะตรงกันข้ามนะ”
“พี่โรมอ่ะ! เอวาไปแล้ว ฝากบอกธารด้วยเดี๋ยวพรุ่งนี้มาทานข้าวเย็นด้วย”
บอกเสร็จ เอวาก็เดินกลับออกจากห้องของโรมันไป ส่วนโรมันเองก็มองตามเอวาอย่างรู้สึกดีขึ้นเมื่อเอวาไม่ได้มีท่าทีเศร้าสร้อยอีกต่อไปแล้ว
และหลังจากนั้นไม่กี่วัน เอวาก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับลูซี่เมื่อเสร็จงานที่โรงพยาบาลแล้ว เธอกลายเป็นดาราหน้าใหม่ ที่กำลังมาแรงด้วยมีลูซี่เป็นผู้จัดการ แถมยังมีการโฆษณาตามสื่อต่างๆมากมายเรียกได้ว่าถูกดันอย่างเต็มที่ จนมีงานเข้ามาไม่ขาดสาย
“น้องเอวาคะ วันนี้มีเดินแบบเครื่องเพชร น้องเอวาต้องไปกับพี่ลูซี่ตอนบ่ายโมงนะคะ”
“ค่ะ เอวาหิว สั่งข้าวมาให้หน่อยสิ”
“เรียบร้อยแล้วจ๊ะ อย่ากินเยอะนะ เดี๋ยวพุงออก”
ลูซี่เดินเข้ามาบอกเอาวาที่นั่งแต่งหน้าเพื่อโฆษณางานตัวใหม่อยู่ เธอทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาพักแต่เอวากลับรู้สึกสนุกและมีความสุขกับมันจนลูซี่ที่เป็นคนดูแลอดดีใจไม่ได้ เมื่อดาราของเธอไม่เคยเบี้ยวงานหรือเรื่องมากเลยสักนิด เอวายอมทำทุกอย่างที่นายจ้างต้องการเลยก็ว่าได้
จากนั้นเวลาเพียงไม่ถึงเดือน ลูซี่สามารถทำให้เอวากลายเป็นดาราดาวรุ่งแถมยังขึ้นปกนิตยสารแทบทุกฉบับจนเธอโด่งดัง
“น้องเอวา เหนื่อยก็บอกพี่ลูซี่นะ พี่ลูซี่จะได้จัดตารางพักให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สนุกดี เดี๋ยวพอนานไปก็ไม่มีงาน ตอนนี้มีงานมีเงินต้องรีบสิคะ”
และนี่ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้ลูซี่อยากผลักดันเอวา ทั้งๆที่รวยขนาดนั้นแต่เอวากลับไม่เคยอวดโอ้อะไรเลยสักนิด
“หมอคะ...หมอราม”
“หือ? ครับ มีอะไรรึเปล่า?”
“พอดีถึงเวลาตรวจคนไข้ที่ผ่าตัดแล้วค่ะ คุณหมอจะไปเลยไหมคะ”
“อื้อ เดี๋ยวผมไป”
รามินทร์รีบวางนิตยสารในมือลง พร้อมกับถอนหายใจออกมาเมื่อเขาพึ่งเห็นเอวาในหน้าปกนิตยสารเล่มนี้และเขาก็จำเธอได้ทันที
เธอหายไปร่วม 2 เดือนแบบไร้วี่แววแต่ดันกลายมาเป็นดาราดังแบบนี้ แล้วเขาควรหยุดคิดถึงเธอได้แล้วใช่ไหม เพราะตั้งแต่วันที่เธอหายตัวไปเขาก็เอาแต่กังวลไปต่างๆนานา
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมข้างนอกดูวุ่นวายอย่างนั้นล่ะ”
รามินทร์ที่กำลังจะเดินไปตรวจคนไข้ถามขึ้น เมื่อคนมามุงอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลจนแน่นขนัด
“อ้อ พอดีมีถ่ายโฆษณาที่โรงพยาบาลของเราน่ะค่ะ เห็นว่าเป็นดาราดัง คนมารอตั้งแต่ก่อนเที่ยงอีกนะคะ”
พยาบาลสาวบอกขึ้นพร้อมกับเขย่งมองแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา ส่วนรามินทร์ก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับพวกบ้าดารา ก่อนจะเดินต่อไปเพราะคนไข้ของเขากำลังรอเขาอยู่ และในห้องคนไข้ก็ไม่ต่างกัน เมื่อพากันยืนมุงดูด้านนอกที่มีการถ่ายทำโฆษณากันอยู่
“เคเคมาเหรอ หรือ ไอริน...ทำไมแฟนคลับเยอะขนาดนี้...”
รามินทร์อดสงสัยไม่ได้ เลยเดินไปยืนดูอยู่ข้างๆคนไข้ เขามองไปที่สวนที่มีกล้องอยู่หลายตัวอย่างต้องการรู้ว่าใครเป็นตัวหลักของงานครั้งนี้
“นั่นมัน...”
และพอเห็นว่าเป็นใคร เขาถึงกับรู้สึกชาไปทั้งตัว แต่หัวใจกลับเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ
ผู้หญิงคนนั้น...
รามินทร์มองไปที่เอวา ที่กำลังถ่ายงานอยู่ ทั้งๆที่เธอรู้ว่านี่เป็นโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ แต่เธอกลับไม่คิดจะเข้ามาหาเขาเหมือนที่เคยทำ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาเอาแต่คิดหาเหตุผล ว่าทำไมเธอถึงหายไป และทำไมอยู่ดีๆเธอถึงเหมือนไม่รู้จักเขาทั้งๆที่มันไม่จริง
หรือความจำเสื่อม...
เขาอดที่จะคิดไปแบบนั้นไม่ได้ เมื่อมันแปลกจนเกินไปจริงๆหลังจากนอนด้วยกันเธอก็หายไป พอมาคิดดูอีกทีมันเหมือนเขาถูกเธอฟันแล้วทิ้งก็ไม่ปาน
“พี่ลูซี่ จะเสร็จรึยังคะ?”
“ยังเลยจ้า อีก 3 ชุด มีอะไรรึเปล่า”
เอวาที่ทนไม่ไหวถามขึ้นเมื่อตอนนี้เธออยากเข้าห้องน้ำจนแทบไม่ไหวอยู่แล้ว
“คือ...เอวาอยากเข้าห้องน้ำ”
“อ่าว ก็ไม่บอก ไปสิเดี๋ยวพี่ลูซี่พาไป”
“แต่เอวาไม่อยากเข้าที่ห้องน้ำในโรงพยาบาล”
“หือ? แต่...ปั๊มก็อยู่ไกลอยู่นะ นอกจากโรงพยาบาลก็ไม่มีที่ให้เข้าแล้วนะคะ”
ลูซี่มองไปรอบๆเมื่อโรงพยาบาลนี้มีพื้นที่ใหญ่โต และต้องนั่งรถขับออกไปหาห้องน้ำซึ่งไม่รู้ว่าจะได้เข้าตอนไหนอีก ส่วนเอวา เธอแทบไม่อยากรับงานนี้ด้วยซ้ำพอรู้ว่าเป็นโรงพยาบาลนี้ แต่ด้วยตอบรับงานไปแล้วเธอเลยเลี่ยงไม่ได้ และเธอก็ไม่อยากเข้าไปในนั้นด้วย
“มีอะไรรึเปล่าคะ? ทำไมเข้าที่โรงพยาบาลไม่ได้”
ลูซี่ถามขึ้นอย่างนึกสงสัย ทำเอาเอวาถึงกับคิดหนัก
“เข้าก็ได้ค่ะ พี่ลูซี่ไปบอกพักกองก่อนนะคะ”
“จ๊ะ...”
และสุดท้ายเธอก็ยอม เมื่อมันกำลังจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ จากนั้นไม่นานทีมงานก็พาเอวาไปเข้าห้องน้ำเมื่อลูซี่ต้องคุยงานกับผู้กำกับต่อ
“เดี๋ยวพี่รอหน้าห้องก็ได้ค่ะ เอวาเข้าไม่นานหรอก”
พอมาถึงเอวาก็บอกทีมงานที่พาเธอมา ซึ่งพอเธอเดินเข้าไปก็เจอพวกหมอและพยาบาลเต็มห้องน้ำไปหมด ทุกคนต่างมองเธอด้วยสายตาดีใจที่ได้เจอดาราดาวรุ่งแต่เอวาแทบไม่สนใจใคร เธอวิ่งตรงเข้าห้องน้ำทันที และพอออกมา คนก็ยิ่งเยอะกว่าเดิมอีก
“น้องเอวาคะ พี่ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?”
และเอวาก็ต้องยิ้มเจื่อนส่งไปให้เมื่อแต่ละคนถือโทรศัพท์รอกันเป็นแถวๆ
“เอ่อ งั้น เอวาว่าเราไปคุยกันด้านนอกดีกว่านะคะ”
เอวารีบบอก ก่อนจะพาฝูงชนที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆเดินออกจากห้องน้ำ จากนั้นมหกรรมถ่ายรูปก็เริ่มขึ้น จนทีมงานที่พามาเริ่มหนักใจ เพราะตอนนี้ต้องกลับไปถ่ายงานแล้วแต่เธอกลับเข้าไปหาเอวายังไม่ได้เลยตอนนี้
“ถ้ายังไม่กลับไปทำงาน ผมคงต้องรายงานพวกคุณทุกคนที่อยู่ตรงนี้”
และเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น ทำเอาทุกคนรีบหันไปมอง ก่อนจะรีบแยกย้ายกันด้วยสีหน้าเสียดายเมื่อยังไม่ถึงคิวถ่ายรูปกับดาราสาวเลย
“..............”
พี่ราม...ใช่เขาจริงๆ...ใช่ไหม...
พอเห็นว่าใครเป็นคนมาช่วยชีวิต เอวาถึงกับยืนนิ่งก่อนจะรีบทำตัวให้เป็นปกติแล้วแกล้งยิ้มส่งไปให้เขาพร้อมกับคำขอบคุณ จากนั้นเธอก็เดินไปหาทีมงานที่รออยู่แล้วเดินจากไปไร้คำพูดและการสนทนาใดใดมากไปกว่านั้น ทำเอารามินทร์ถึงกับหน้าชา
หรือว่าความจำเสื่อม...หรือฝาแฝดยัยนั่นกัน...
คุณหมอหนุ่มมองตามด้วยสายตามีคำถามเต็มไปหมด เธอทำเหมือนไม่รู้จักเขา ทั้งสีหน้าและรอยยิ้มนั้นเขาไม่เคยเห็นมันเลยสักครั้ง
ส่วนเอวา พอเดินออกมาไกลจากรามินทร์แล้ว สีหน้าของเธอก็ดูเปลี่ยนไปทันที เมื่อพอเจอเขา ความรู้สึกผิดต่อบิดาก็ถาโถมเข้าใส่เธออีกครั้ง เขายังดูสบายดีทั้งๆที่เธอหายไปจากชีวิตเขา นั่นก็แสดงว่าเธอไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตเขาเลยจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้ดูเหนื่อยๆล่ะ”
ธาราถามขึ้น เมื่อเดินมาเปิดประตูให้กับเอวาที่พึ่งกลับมาจากทำงาน ซึ่งเอวาเลือกที่จะเดินมาที่ห้องนี้แทนที่จะเข้าห้องของตัวเอง
“วันนี้งานเยอะจนไม่ได้กินอะไรเลย หิวอ่ะ ขอข้าวกินหน่อยได้ไหม”
“อื้ม รอเดี๋ยว”
ถึงจะเริ่มต้นความสัมพันธ์มาได้ไม่ค่อยดีนักสำหรับสองสาว แต่ตอนนี้นอกจากโรมันก็มีเพียงธาราที่เอวาสามารถพึ่งพาได้ และธาราเองก็ไม่เคยคิดโกรธเคืองกับเรื่องที่ผ่านมา เธอคอยดูแลเอวาทั้งเรื่องอาหารการกิน ทั้งเรื่องห้องที่เอวาอยู่ ธาราก็คอยดูแลให้ทุกครั้งที่เอวาออกไปทำงาน ไม่นานธาราก็เดินกลับมาพร้อมกับผัดไทที่เอวาชอบ
“โรมซื้อมาไว้ให้ เผื่อเธอจะหิว”
“ถ้าพี่โรมเลิกกับเธอ ฉันขอเสียบแทนนะ”
“นี่!...”
“ฮ่าฮ่าฮ่า พูดเล่นน่า พี่โรมทั้งรักทั้งหลงเธอจะตาย”
“เธอนี่มันจริงๆเลย”
เอวาอดที่จะแกล้งธาราไม่ได้ เมื่อตอนนี้เธอรู้สึกชอบธาราเพราะตั้งแต่เธอรู้จักคนมาหลากหลายไม่มีใครเหมือนธาราเลยสักคน ธาราคอยดูแลและเอาใจใส่เธอทุกอย่างไม่ต่างจากพี่สาวของเธอเลยก็ว่าได้
และพอได้นั่งอยู่คนเดียว เอวาก็คิดไปถึงรามินทร์ เธอมีความสุขในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากได้ใช้เวลาตามตื๊อเขาอยู่หลายเดือนทั้งๆที่เขาแทบไม่เคยสนใจใยดีเธอเลยสักนิดก็ตามที แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันกลับตาลปัตร เธอเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้เจอเขา
“นั่นชุดอะไรเหรอ?”
เอวามองไปเห็นธาราเดินถือชุดสวยเข้ามาเลยถามขึ้น
“มะรืนนี้เพื่อนของฉันจะแต่งงานน่ะ เธอว่าชุดไหนสวย”
“ชุดสีครีมนั่นสวยดี ว่าแต่ เพื่อนคนไหนเหรอ? ฉันรู้จักรึเปล่า?”
“หือ? ไม่น่าจะรู้จักนะ เพื่อนของฉันกับเพื่อนของโรมน่ะ สองคนนั้นคบกับมาตั้งแต่เรียนเหมือนกับพวกเรา และมะรืนก็จะแต่งงานกันแล้ว”
“เหรอ...ดีจัง เอวาก็อยากแต่งบ้าง...”
ธาราหันมามองเอวาที่ทำหน้าเศร้าอย่างแสนสงสัย ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆเอวา
“เธอว่างไหมล่ะ จะไปด้วยก็ได้นะ”
“น่าจะไม่ว่าง พี่ลูซี่รับงานแทบทุกวันเลย”
“เหรอ...ถ้าว่างก็ไปนะ เผื่อเจอเนื้อคู่ในงาน”
“บ้า ถ้างานเสร็จเร็วฉันจะแวะไปนะ”
“อื้อ”
ธารานั้นอยากให้เอวาไปเปลี่ยนบรรยากาศ และอีกอย่างเธอก็มีเรื่องอยากพิสูจน์ด้วย