“แม่งเอ๊ย!” พอออกมาข้างนอกเขาก็สบถหยาบทันที ไม่เข้าใจทำไมต้องโกรธต้องโมโหด้วย ก็แค่เธอคุยกับคนอื่นเท่านั้น แล้วทำไมต้องรู้สึกไม่พอใจด้วย กองพลเดินไปเปิดประตูตู้เย็นออกแล้วคว้าหยิบขวดน้ำออกมาเปิดฝาขวดกระดกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
“อ่า...ให้มันได้แบบนี้สิวะ! ไอ้หินมึงแม่งเป็นเชี้ยอะไรวะ!” เขามองขวดน้ำที่เพิ่งกระดกดื่มจนหมดในมือแล้วกำแน่นจนมีเสียงดัง
แก๊ก!
“เฮ้! ไอ้พี่หินเป็นห่าอะไรวะ!” เสียงห้าวดังขึ้นที่หน้าห้องครัวทำให้เขาต้องตวัดสายตาหันไปมองตามต้นเสียงที่คุ้นเคยแล้วก็ปาขวดน้ำเปล่าในมือใส่ผู้มาใหม่ทันที
ตุ้บ!
ดีที่กองทัพหลบทันเลยทำให้ขวดน้ำตกกระทบกับพื้นแทนที่จะโดนตัวที่มีค่าของเขา
“รุนแรงจังวะ! แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงอยู่บ้านได้ ปกติเวลานี้อยู่เหมืองไม่ใช่เหรอพี่หิน” เขาถามพี่ชายพร้อมเดินเข้าไปหาคนเป็นพี่ที่มองเขาหน้าขรึมเอาเรื่องตอนนี้
“เสือกจังวะ!”
“แม่งพูดไม่เพราะ กูจะฟ้องป้าบู่” กองทัพตอบสวนกลับทันที
“อย่าเอาป้าบู่มาขู่ กูโตแล้วจะทำงานไม่ทำก็เรื่องของกู แล้วมึงเถอะ ทำไมจะมาบ้านไม่เห็นโทรมาบอก”
“ก็เซอร์ไพรส์ไงวะ ว่าไง...ทำไมหงุดหงิด เป็นเชี้ยอะไรไอ้พี่หิน” คนที่จับพิรุธพี่ชายได้ยังคงรอคอยคำตอบ
‘แม่ง! ตอบไงดีวะ! ’ กองพลพึมพำในใจเมื่อมองสายตาจับพิรุธน้องชายออกก่อนจะตอบสวนกลับว่า....
“เสือก! แล้วมึงเถอะไอ้เหิม ว่างเหรอ? ”
“ไม่ว่าง! มีงานกองท่วมหัวแต่พอดีมาคุยงานแถวบ้านเลยแวะมาน่ะ มาดูว่ามึงสบายดีไหม แล้วพ่อไปไหน ทำไมไม่เห็นเลยตั้งแต่มาถึง ส่วนป้าบู่คงนอนอ่านหนังสือนิยายในห้องหนังสือเหมือนเดิมสินะ”
“พ่อไปข้างนอก ป้าบู่คงอย่างที่มึงว่าแหละ”
“แล้วมึงล่ะ ปกติไม่เห็นอยู่ติดบ้าน แล้วทำไมวันนี้ถึงอยู่บ้าน”
“ก็...ก็อยากขี้เกียจบ้างมีไรมากป่ะ แล้วไอ้เหมมันจะกลับมาวันไหน มันได้บอกมึงไหมไอ้เหิม” กองพลถามกองทัพถึงกองบิน น้องชายคนรองตัวเอง เพราะไปฝรั่งเศสติดต่อเรื่องสัมปทานเดินเรือสองอาทิตย์แล้ว
“กูก็ว่าจะมาถามมึงเหมือนกันว่าติดต่อไอ้เหมได้ไหม เพราะมันขาดการติดต่อไปเลยว่ะ ไม่ใช่โดนเจ้าถิ่นอุ้มฆ่าไปแล้วเรอะ!”
“อย่างมันน่ะ อุ้มสาวฆ่าบนเตียงมากกว่า ปล่อยมันเถอะ มันคงยุ่งแหละ งานที่นั่นก็ใช่จะง่าย งานหินเลยนี่หว่า มึงจะค้างบ้านหรือกลับไอ้เหิม” กองพลถามน้องชายคนเล็กกลับ
“ก็ว่าจะกลับ เพราะงานที่สระบุรีใช่จะน้อย เนี่ยแวะมาทักทายเฉยๆ” กองทัพเอ่ยตอบพร้อมกับยกไหล่เล็กน้อย
“งั้นตามสบายนะ เนี่ยก็บ้านมึง กูไปนอนพักผ่อนก่อน วันนี้ขี้เกียจว่ะ!”
กองพลเดินมาตบไหล่น้องชายแล้วเดินผ่านไป ส่วนกองทัพก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยพิรุธพี่ชาย แต่ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรปิดบัง เขาก็ได้แต่ขบคิดในใจแล้วถอนหายใจเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาเปิดกระดกดื่มแก้กระหายจนหมดขวด ก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะข้างๆ ตู้เย็น
“กลับสระบุรีดีกว่า” เขาบอกกับตัวเองแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกจากห้องครัวไปทันที แต่ก่อนจะกลับไม่ลืมไปห้องหนังสือ ไปทักทายป้าที่รักก่อนกลับ หากท่านรู้ว่ามาถึงบ้านไม่โผล่หน้าไปให้บ่นมีหวังโดนทุบกระบาลแน่นอนหากท่านรู้ทีหลังว่าเขาแวะมาที่บ้าน