หลังจากระเบิดอารมณ์ใส่แทนตาและออกจากห้องมา ปุณวริทธิ์ก็โทร. หาชวิน เมื่อรู้ว่าเพื่อนอยู่ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เขาก็ขับรถตรงไปที่นั่น พอไปถึงก็สั่งเครื่องดื่มแล้วนั่งไม่พูดไม่จาสีหน้าบอกบุญไม่รับ ชวินเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเพื่อนตัวดีทะเลาะกับเมียมาอีกแน่ ๆ จึงเอ่ยเย้า
“ไงมึง หน้าบูดเป็นตูดลิงแบบนี้ ทะเลาะกับเมียมาเหรอวะ”
ได้ยินคำว่า ‘เมีย’ คนฟังก็ถลึงตาใส่คนพูด เขาเกลียดคำนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คนอื่นจะเรียกว่าแฟน หรือผู้หญิงของเขา เขาก็ไม่เคยว่า แต่อย่าใช้คำว่าเมีย มันฟังแล้วรู้สึกแสลงหู
“กูไม่มีเมีย”
ชวินมองคนหน้ามู่ทู่เหมือนหมาพันธุ์โอลดี อิงลิช บุลด็อกกี แล้วหัวเราะ
“ไม่ได้ทะเลาะกับเมีย แล้วมึงมาที่นี่ทำไมตอนนี้”
“...เออ ก็ทะเลาะ แต่อย่าใช้คำว่าเมียได้ปะ วันนี้องค์อรโทร. มาบอกกูว่าแทนตาไปหาเรื่องเขาถึงที่ร้านเสื้อผ้า”
“โทร. มาบอกหรือโทร. มาฟ้องวะ” ชวินแซะ
“บอกหรือจะฟ้องมันก็ไม่ต่างกัน องค์อรเขาอยู่ของเขาดี ๆ แต่แทนตากลับไปหาเรื่องเขา แบบนี้ไม่ให้โมโหได้ไง”
“แล้วแทนเขาว่าไงล่ะ” ชวินเลิกคิ้ว
“เธอบอกว่าไม่รู้ว่านั่นเป็นร้านขององค์อร แล้วก็ไม่ได้ไปหาเรื่อง แค่เข้าไปดูของ” น้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่เชื่อ
“มึงเชื่อที่น้องอรของมึงบอก แต่ไม่เชื่อแทน?”
“อรเขามีหลักฐาน ในคลิปนั่นแทนกับเพื่อนกำลังหาเรื่องเธอ”
“แทนเข้าไปชวนองค์อรทะเลาะเหรอ”
ชวินซัก เพราะหลายครั้งที่คลิปมักไม่ได้แสดงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์มักจะนำเฉพาะส่วนที่มีประโยชน์กับตนมาแสดงให้เห็น คนที่เห็นคลิปจึงถูกชักจูงให้คล้อยตาม
“คงอย่างนั้น ในคลิปเพื่อนที่ไปกับเธอกำลังใส่อารมณ์เต็มที่ ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่อรด้วยซ้ำ”
“อ้อ คลิปมีเสียงด้วย?” เพื่อนยังทำหน้าที่ทนายจำเลย
“ไม่มี แค่ท่าทางแบบนั้นไม่มีเสียง ไม่ต้องเดาก็รู้ แล้วนี่มึงจะมาเป็นทนายแก้ต่างรึไงไอ้วิน ซักอยู่ได้”
“กูเป็นคนนอก มองอย่างเป็นกลางโว้ย สงสัยก็ถาม แล้วตกลงมึงจะเอายังไงกับแทนล่ะ” เพื่อนถอนหายใจ
“ก่อนหน้านี้กูกับเขาตกลงกันแล้ว กูให้เขาย้ายออกจากห้องภายในสองอาทิตย์ แต่พอเกิดเรื่องวันนี้ก็เลยทะเลาะกัน กูเลยบอกให้เขาเก็บข้าวของออกไปในคืนนี้เลย”
“เฮ้ย มึงนี่โคตรใจร้าย ถึงขนาดไล่เขาไปคืนนี้เลยเนี่ยนะ” คนฟังถึงกับเบิกตาโต อุทานอย่างตกใจ
“ใจร้ายอะไร กูโอนให้เงินเขาตั้งสองล้าน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันกูก็ดูแลเขาอย่างดี อยู่กับกูเขาสบายทุกอย่าง ถ้ารู้จักเก็บก็ถือว่าได้ไปเยอะล่ะ”
“ถามจริง ตลอดเวลาที่อยู่กันมึงไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลยเหรอวะ”
ชวินสงสัยจริง เพราะปกติปุณวริทธิ์ไม่เคยควงสาวไหนนาน ไอ้เพื่อนตัวร้ายของเขาไม่เคยอยู่กับผู้หญิงคนไหนนานขนาดนี้
ปุณวริทธิ์เงียบไปหลายอึดใจ ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อไม่รู้ว่าตัวเองคิดอย่างไรกับผู้หญิงคนนั้นกันแน่ เขาให้คำนิยามความรู้สึกที่มีกับแทนตาไม่ถูก เธอเหมือนลูกแก้วที่ส่องประกายเข้าดวงตาเขาระหว่างทางเดินจนเขาก้มเก็บมันขึ้นมาดูความสวยงามของมัน แต่มันก็เป็นแค่ของเล่นที่เห่อชั่วประเดี๋ยวประด๋าวไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากสวยงามเตะตาจนอดเก็บขึ้นมาถือเล่นไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งเขาจะโยนมันทิ้งไปก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับการดำเนินชีวิตของเขา
เห็นเพื่อนนั่งนิ่งสีหน้าเครียดอยู่นานชวินที่เป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ก็เอ่ยออกมา
“มึงก็นึกดูให้ดี ถ้าไม่เอาจริง ๆ ก็ตัดทิ้งไป ถ้ายังมีเยื่อใยอยู่ก็คิดดูให้ดีว่ามันคืออะไร เวลาผ่านเลยไปแล้วมันเอาคืนกลับมาไม่ได้ ของที่มันแตกไปแล้วจะเอามันกลับมาประกอบใหม่ต่อให้ใช้กาวมหัศจรรย์แค่ไหนยังไงมันก็มีรอยให้เห็น” เตือนมันไปแล้ว จะคิดได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่มัน
ปุณวริทธิ์กลับเข้าห้องมาอีกครั้งก็เป็นเวลาล่วงเข้าวันใหม่ไปแล้ว ในห้องเงียบสงัด เวลาอย่างนี้แทนตาคงเข้านอนไปแล้ว แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกว่าบรรยากาศมันต่างไปจากทุกที เขาเดินเข้าไปดูในห้องนอนหมายใจว่าจะยังพบแทนตานอนอยู่บนเตียงเหมือนอย่างเคย เขาใจร้อนเกินไปที่ตัดสินใจให้เธอออกไปจากที่นี่คืนนี้ ภายในห้องนอนมืดสนิท ม่านหนาหนักถูกดึงปิดไว้ ไม่มีความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศเหมือนทุกครั้งที่เดินเข้ามา ชายหนุ่มกดเปิดสวิตช์ไฟที่ผนัง สายตามองไปยังผืนเตียงที่เห็นแต่ความว่างเปล่า เดินไปที่จุดแต่งตัวหน้าห้องน้ำฝั่งตู้เสื้อผ้าของเธอข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่เคยเห็นวางอยู่อย่างเป็นระเบียบเหลืออยู่เพียงบางส่วน เสื้อผ้าของเธอส่วนหนึ่งยังเหลือ มองไปที่ชั้นวางของดูโล่งจนน่าใจหาย
“ไปเร็วเหมือนกันนะ”
เขาคิดว่าออกไปไม่กี่ชั่วโมงเธอคงยังไม่ไปเร็วขนาดนี้ มันควรจะรู้สึกดีใจไม่ใช่เหรอที่เธอออกไปเสียที แต่ทำไมในใจลึก ๆ ถึงยังรู้สึกว่าเหมือนยังมีอะไรที่ยังเคลียร์กันไม่จบ แต่เอาเถอะข้าวของของเธอยังเก็บไปไม่หมด ภายในสองอาทิตย์เขาคงจะได้พบเธออีกครั้ง แล้ววันนั้นค่อยคุยกันอีกที
ชายหนุ่มเดินไปเอนกายลงนอนบนโซฟาหายใจเข้าออกหนักพลางนวดมือคลึงขมับให้ผ่อนคลาย ภาพต่าง ๆ เวลาที่อยู่กับเธอทยอยผ่านเข้ามาในความคิด เขาไม่เคยรู้สึกว่าการมีเธอทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น แทนตาไม่วุ่นวาย ไม่เรื่องมาก ไม่เคยร้องขอหรือเรียกร้อง เขาพอใจที่จะอยู่กับเธอจึงยืดเวลาออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งช่วงสองสามอาทิตย์หลังมานี้ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าเธอเข้ามายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวของเขาจนน่ารำคาญ ถามนั่นนี่จุกจิกน่าเบื่อและทำให้เขาหงุดหงิด พอองค์อรโทร. มาบอกว่าแทนตาไประรานถึงที่ร้านเขาก็ถึงจุดระเบิดออกปากไล่เธอให้ออกไปทันที แต่ตอนนี้พอเธอไปจริง ๆ ในอกกลับรู้สึกวูบโหวงอ้างว้างอย่างประหลาดไม่คิดว่าจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นได้
^
^
^
โปรดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยน้าาาา