หญิงสาวถึงกับเสหลบสายตาคมที่ยิ้มแย้มอยู่นั้นด้วยความตื่นเต้น เท่าที่จำได้เธอยังไม่เคยได้รับรอยยิ้มของเขาเลยซักครั้ง ใบหน้าหวานอมยิ้มเขินๆ ไว้อย่างมีความสุข ก่อนจะหน้าซีดลงแทบไม่ทัน เมื่อแค่เธอกะพริบตาครั้งเดียว ความสุขที่เริ่มวิ่งสู่หัวใจเมื่อครู่ก็สลายหายไป เหลือเพียงภาพบาดตาบาดใจที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“เดี๋ยวธันย์ตัดเค้กให้กล้วยนะ”
“อืม เอาชิ้นใหญ่ๆ เลย”
“จริงเหรอ เดี๋ยวอ้วนนา”
“ธันย์อ่ะ ก็กล้วยอยากกินเยอะๆ นี่”
“งั้นธันย์เอาให้กล้วยคนเดียวครึ่งก้อนเลยละกัน”
“บ้า กล้วยได้กลายเป็นหมูพอดี”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยหน้ารักออก หมูกล้วย หึๆ”
“บ้า ธันย์อ่ะ คิกๆ”
เสียงหัวเราะต่อกระซิกของธันย์ธาดาและนวียาราวกับคู่รัก ทำให้อิงอรถึงกับเม้มปาก เผลอกำมือที่วางอยู่บนตักใต้โต๊ะจนแน่น ก่อนจะค่อยๆ คลายออกจากกันนิดๆ เมื่อมีมือหนาของวัฒนาเอื้อมไปกุมไว้ หญิงสาวหันไปมองหน้าวัฒนาด้วยนัยน์ตาแดงๆ ก่อนจะเห็นเขาส่ายศีรษะน้อยๆ เป็นเชิงห้ามไม่ให้เธอร้องไห้
เธอไม่เคยเล่าอะไรให้เขาฟัง แต่คนเป็นเพื่อนสนิท บางอย่างบางเรื่อง ไม่ต้องบอกก็พอจะสัมผัสหรือรู้สึกถึงกันได้
“อรไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ว่าโดยไม่รอเสียงตอบรับจากใครหน้าไหน รีบก้าวฉับๆ ออกไปจากตรงนั้นทันที พร้อมๆ กับน้ำตาเจ้ากรรมที่ไหลออกมา เพราะเจ้าตัวสะกดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้ว…
หญิงสาวยืนเหม่อมองท้องฟ้าในยามเริ่มราตรีอย่างหงอยๆ หลังเดินออกมาจากตรงนั้นแล้ว ก็เลือกที่จะยืนรับลมอยู่ในสวนเล็กๆ ของร้านอาหารที่จัดไว้ให้เดินเล่น ยังไม่อยากเข้าไปข้างในตอนนี้ รู้สึกทำใจไม่ได้ แม้จะรู้ตัวอยู่เสมอว่า คนที่เธอรักเขาก็ไม่รัก คนที่เขารัก ก็ไม่ได้รักเขา
“ออกมายืนทำอะไรคนเดียวตรงนี้”
“ธันย์” หันไปมองตามเสียงด้วยความตกใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายกอดอกยืนมองเธออยู่
“อาหารมาแล้ว ไม่หิวหรือไง เข้าไปทานสิ เธอยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ”
เขาเอ่ยชวนเสียงเรียบ เห็นเธอลุกออกมาจากโต๊ะก็รู้สึกเป็นห่วง นั่งกระวนกระวายจนคนทั้งโต๊ะเหล่มองด้วยความสงสัย จึงแสร้งทำเป็นขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำอีกคน
“อรยังไม่ค่อยหิว ธันย์ไปทานก่อนเถอะ” บอกเขาเสียงอ่อย ถ้าเข้าไปเธอก็ต้องเห็นอะไรที่ไม่อยากเห็น แล้วก็ต้องหาทางเลี่ยงออกมาอยู่ดี ใครมันจะทนไหว (วะ)
“รีบเข้าไปละกัน เพื่อนๆ รออยู่ ฉันไปนะ” เขาว่า หันหลังจะเดินกลับไป แต่ก็ต้องชะงัก
“ธันย์” เพราะเสียงหวานละมุนเรียกรั้งเอาไว้
“มีอะไร” คิ้วเข้มขมวดนิดๆ เมื่อคนที่เรียกเขาไว้ขยับตัวเข้ามาใกล้ ก่อนที่สายตาคมจะเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง
“จุ๊บ” เธอเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มสากด้านซ้ายเบาๆ
“เฮ้ย!”
“สุขสันต์วันเกิดนะ” ตามด้วยเสียงหวานๆ ที่เปล่งคำอวยพร
“ทำบ้าอะไรของเธอฮะ” ชายหนุ่มผลักร่างบางออกห่างอย่างไม่แรงนัก แต่กระนั้นก็ถึงกับทำให้เธอเซไปข้างหลัง
“ก็อรไม่รู้จะซื้ออะไรให้ธันย์นี่คะ อรไม่รู้ว่าธันย์ชอบอะไร อร…เพิ่งรู้ไม่กี่วันนี้เอง ว่าวันอาทิตย์นี้จะเป็นวันเกิดของธันย์ และเพื่อนๆ ก็ตกลงกันว่าจะฉลองวันเกิดให้ธันย์ก่อน อร ฮึกๆๆ อรขอโทษนะ”
บอกเขาเสียงเครือพร้อมๆ กับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาราวห่าฝน สุดท้ายเธอก็ไม่เคยทำอะไรได้ถูกใจเขาเลยซักอย่าง เขาคงรังเกียจเธอมากเลยสินะ กล้าหาญชาญชัยทำเรื่องหน้าอายแบบนี้กับผู้ชาย ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ แต่เธอยอมทำหน้าเกลียดแบบนี้กับเขาแค่คนเดียว เพราะเขาคือคนที่เธอรัก
ธันย์ธาดาถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ นี่เขาทำให้เธอร้องไห้อีกแล้วสินะ มือหนายกขึ้นซับเช็ดหยาดน้ำตาออกจากใบหน้าเนียนใสอย่างอ่อนโยน ก่อนจะคลี่ยิ้มให้เธอน้อยๆ ท่ามกลางความงุนงงของอิงอร
“ขอบใจนะ ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้ หยุดร้องได้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยความนุ่มนวลเป็นครั้งแรก แม้ท้ายประโยคจะออกแววดุนิดๆ แต่ใบหน้าและดวงตาคมที่ส่งยิ้มน้อยๆ ก็ทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้น
“จุ๊บ” เขย่งตัวขึ้นหอมแก้มสากด้านขวาซะเลย ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาทั้งน้ำตา ในขณะที่ชายหนุ่มถึงกับต้องกลอกตาไปมาอย่างคาดไม่ถึงอีกรอบ
“เธอนี่มันร้ายจริงๆ เลยนะอิงอร” กล่าวจบ ชายหนุ่มก็ตวัดวงแขนโอบรอบเอว กระชับให้ร่างบางเข้ามาชิดอกกว้าง ก่อนที่ปากหยักจะทาบทับปิดลงไปบนปากอิ่มอย่างปัจจุบันทันด่วน เพราะอดใจไม่ไหวอีกแล้ว
“อื้อ” หญิงสาวดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนหนา แต่ก็สู้แรงกอดรัดของอีกฝ่ายไม่ได้ มือน้อยยกขึ้นทุบหลังแกร่งแรงๆ แต่เขาก็ไม่ขยับ จูบแรกที่ออกแนวนุ่มนวลชวนฝันกึ่งดุดัน แทบทำให้ร่างกายอ่อนระทวย มือเล็กที่ยกทุบตี ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นลูบไล้อย่างเคลิบเคลิ้ม
เพียงชั่วครู่แต่เหมือนเนิ่นนานในความรู้สึกของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงละริมฝีปากออก แต่ยังไม่ยอมคลายอ้อมแขน ต่างฝ่ายต่างสบสายตา ถ้าตาไม่ฝาด สาบานว่าเธอเห็นหน้าเขาแดงก่ำราวกับหนุ่มน้อยไปยืนตากแดดแรงๆ ที่ไหนมา
แล้วเธอล่ะ ป่านนี้หน้าเธอไม่แดงไปถึงใบหูแล้วหรือ หญิงสาวคิดก่อนจะก้มหน้าหนีสายตาดุๆ ของอีกฝ่าย ที่เคลือบแฝงความอ่อนโยนไว้ภายใน แบบที่ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยนัก