บทที่ 3 ความเชื่อใจ EP.2

1048 คำ
“นังวินนี่บ้า” เมื่อได้คุยกับเพื่อน พรนับพันก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง หญิงสาวมีเพื่อนน้อยแทบจะนับคนได้ ถึงแม้เพื่อนๆ กลุ่มนี้จะเรียนมาด้วยกัน แต่ก็ไม่ค่อยมีใครรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับครอบครัวของเธอนัก รู้แต่เพียงว่าเธอชอบทะเลาะกับมารดาซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกนักในสังคมยุคนี้ “แกได้ข่าวยายมะปรางไหมยายสิ” พักตร์พิไลหันไปถามวิลาสินี ที่กำลังยกสมาร์ตโฟนขึ้นถ่ายรูปตัวเองอยู่ “แกหมายถึงปรางวลัยเพื่อนฉันใช่ไหม มีอะไรหรือพิไล” “ฉันได้ข่าวว่าหล่อนเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เห็นคุยฟุ้งไปทั่ว ไหนตอนแรกแม่ของหล่อนเที่ยวคุยนักคุยหนาว่า ลูกสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัยติดอันดับท็อปเทนของอเมริกาได้ แต่เท่าที่ฉันรู้ มหาวิทยาลัยที่หล่อนเรียนไม่ติดแม้หนึ่งในสิบ” พรนับพันหูผึ่งทันทีที่ได้ยินเรื่องที่เพื่อนกำลังคุยกัน แต่เธอกลับทำเป็นไม่สนใจ เห็นไหมล่ะ...คนที่แม่เธอชื่นชมนักหนาที่แท้ก็พวกคุยโวโอ้อวดเกทับกัน ถึงเธอไม่พูด คนอื่นก็พูดถึงกันอยู่ดี อยากให้มาได้ยินนัก “ฉันรู้มาว่าแม่ยายปรางน่ะอยากจะออกหน้าออกตาจัดงานต่างๆ อย่างแม่ยายขิมบ้าง แต่บังเอิญบารมีไม่ถึง” นี่ก็อีก...เพื่อนๆ ในกลุ่มล้วนแล้วแต่ชอบพูดจายกยอเอาอกเอาใจเธอ เพราะมีผลประโยชน์ที่พอจะช่วยเกื้อหนุนได้ นี่ขนาดเธอมีเพื่อนน้อยแล้วนะ “เฮ้ย...นั่นยายมะปรางที่เราเพิ่งพูดถึงนี่หว่า ตายยากจริงๆ” สิ้นคำของพักตร์พิไล เจ้าของร่างค่อนข้างอวบก็เดินตรงมาพร้อมด้วยเสียงทักทาย “ยายสิ ไม่นึกว่าจะเจอเธอที่นี่” ปรางวลัยพูดกับวิลาสินีแต่ดวงตาที่กรีดอายไลเนอร์ไว้คมกริบกลับทอประกายแปลกๆ ทั้งยังเจาะจงมองพรนับพันอีกต่างหาก “ดีใจจังที่เจอขิมที่นี่ด้วย เราเพิ่งเจอกันเมื่อวันก่อนเองนี่นา” “ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่เหมือนกันนะมะปราง มากับใครหรือจ๊ะ” พรนับพันทักตอบ แม้จะนึกสงสัยสายตาแปลกๆ ของคนทักก็ตาม “มากับเพื่อนจ้ะ กำลังจะกลับพอดี ดึกมากไม่ได้เดี๋ยวถูกที่บ้านบ่น ขอตัวก่อนนะทุกคน” ปรางวลัยพูดจบก็เดินจากไปท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองตามไปอย่างกังขา “อะไรวะ มาทักแค่นี้แล้วก็ไป ดูแปลกชอบกล” พักตร์พิไลบ่น “นั่นสิ แล้วทำไมต้องมองยายขิมแปลกๆ ด้วย แล้วแกเจอยายมะปรางเมื่อไหร่ ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย ปล่อยให้เราพูดถึงอยู่ได้” กวินทร์หรือวินนี่ต่อว่า “ไปงานเลี้ยงกับคุณแม่เลยเจอแต่ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันหรอก ตอนแรกมะปรางจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ” พรนับพันพูดพลางนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วอดยิ้มไม่ได้ เมื่อกี้ที่อีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ หญิงสาวนึกว่าเธอสังเกตเห็นคนเดียวเสียอีก แต่เพื่อนๆ เธอก็เห็นเหมือนกัน “ช่างยายมะปรางเถอะ เรามาฉลองความโสดกันดีกว่า” ดูเหมือนท่าทางของปรางวลัยเมื่อครู่จะทำให้พรนับพันรู้สึกแปลกตงิดๆ ไม่น้อย เหมือนต้องการจะเยาะเย้ยอะไรสักอย่าง แต่เธอก็พยายามปัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป “เอ็งคิดเหมือนข้าไหมไอ้เชษฐ์ ผู้หญิงคนนั้นแน่ไม่ใช่เล่นนะเว้ย กล้าผลักไอ้หนุ่มนั่นจนเกือบล้ม” จู่ๆ ธีรดนย์ก็พูดโพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “อืม” อภิเชษฐ์พยักหน้าเห็นด้วย “แต่ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะครับพี่ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ยอมเลิกรา” บดินทร์ออกความเห็นเพราะนึกเป็นห่วงสาวชุดดำคนนั้นขึ้นมา “มันก็ถูกของเอ็งไอ้น้อง ไอ้ผู้ชายนั่นดูท่าทางจะเมาไม่ใช่น้อย” หัวข้อสนทนาของเพื่อนๆ ที่นำเรื่องสาวชุดดำมาถกกันอีก ทำให้แสนคมมองไปทางคนที่ถูกพาดพิงแวบหนึ่ง ก่อนเขาจะยกมุมปากขึ้นนิดๆ “ก็แต่งตัวซะขนาดนั้น” น้ำเสียงเย้ยหยัน ที่ออกจากปากของแสนคม ทำให้ทุกคนในโต๊ะต่างหันมามองกันเป็นตาเดียว “ไอ้คม เอ็งเอาแต่ว่าเขา แต่ข้าเห็นเอ็งมองไปทางนั้นอยู่บ่อยๆ อย่านึกนะว่าข้าไม่เห็น” ธีรดนย์คนกลัวเมียของเพื่อนๆ เอ่ยกระเซ้า เพราะสังเกตเห็นสายตาของเพื่อนที่มักเมียงๆ มองๆ ไปทางนั้นไม่หยุดหย่อน คนถูกทักสะดุ้งเล็กน้อย นี่เขาเผลอมองไปทางผู้หญิงคนนั้นอย่างที่เพื่อนพูดจริงหรือ แต่ปากก็รีบปฏิเสธเสียงแข็ง “เฮ้ย!...ไม่ใช่ ข้าก็มองไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้เจาะจงมองใครซะหน่อย แค่คิดว่าเดี๋ยวนี้สาวๆ เมืองกรุงกล้าแต่งตัวแบบนี้ตอนกลางค่ำกลางคืนก็เท่านั้นแหละ ไม่มีอะไร เอ็งอย่ามาทำเป็นหาเรื่องเลยไอ้ธี แล้ววันนี้ถ้ากลับดึกเมียเอ็งไม่ให้นอนโรงรถอีกหรือวะ” แสนคมกลบเกลื่อนโดยยกเรื่องของอีกฝ่ายขึ้นมาพูด วีรกรรมของธีรดนย์ที่เพื่อนสนิทรู้กันดีคือ เวลาเจ้าตัวกินเหล้า และต่อให้เมาขนาดไหนก็ตาม เขาจะขับรถกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ครั้นถึงบ้านแล้วก็เมาหลับอยู่ตรงนั้น และภรรยาก็ปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้นจนรุ่งเช้าเช่นกัน “เอ็งไม่ต้องมาทำกลบเกลื่อน เอาวีรกรรมของข้ามาปกปิดอาการหรอกว่ะไอ้คม ข้าสังเกตเห็นเอ็งมองไปทางแม่สาวคนนั้นตลอด ไม่เชื่อเอ็งลองถามไอ้เชษฐ์กับไอ้ป๊อดดูก็ได้” “ใช่ / ใช่” ทั้งสองตอบโดยพร้อมเพรียงกัน คงมีแต่บดินทร์เท่านั้นที่นั่งมองยิ้มๆ “เอาละ พวกเอ็งไม่ต้องมาจับผิด ข้ายอมรับก็ได้ว่าเสียดาย ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งละก็จะขับมาฟาดก้นซะให้เข็ด ก็เพราะแต่งเนื้อแต่งตัวเปิดเผยอย่างนี้ละสิ ถึงถูกมองว่าเป็นผู้หญิงพวกนั้น” แสนคมยอมรับกับเพื่อนแต่โดยดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม