12

1419 คำ
“ไปนะ ไปหน่อย แก้วอยากไป อยากไปเห็นไร่ชากับไร่ผลไม้ของพี่ดิน เห็นว่าเป็นพันไร่เลยนะ รวยเวอร์ รวยมาก” “นั่นมันที่ดินของพ่อแม่บุญธรรมเขาไม่ใช่เหรอ” “ก็ใช่ แต่ต่อไปก็ต้องเป็นของพี่ดินไม่ใช่เหรอ พ่อเลี้ยงอินทร์กับแม่เลี้ยงจันทราไม่มีลูกเลยสักคน ทรัพย์สมบัติทั้งหมดเขาจะยกให้ใคร เขาก็ต้องยกให้พี่ดินน่ะสิ” “ยกให้การกุศลไง” “นิลน่ะชอบขัดเราอยู่เรื่อย” แก้วกาญจน์หน้างอใส่เพื่อน “นิลแค่งงว่าแก้วจะตื่นเต้นทำไม บ้านแก้วก็รวยนี่นา ทำยังกับตัวเองมีที่ดินแค่ไร่สองไร่อย่างนั้นแหละ ตัวเองก็มีที่ดินเป็นร้อยเป็นพันไร่” แก้วกาญจน์ก็ร่ำรวยใช่เล่น ที่บ้านมีที่ดินมากมาย “จ้ะ คนไม่ตื่นเต้น บ้านนิลก็รวย พ่อแม่มีที่ดินเยอะมาก” “จะประชดกันไปถึงไหน ไปก็ได้ โอเคไหม” “โอเค โอเคมากๆ เลย” นิลรัตน์อมยิ้มยอมไปทำงานพาร์ทไทน์ในไร่ของพสุธา การได้เจอพสุธาในช่วงวันหยุดและในช่วงปิดเทอมทำให้นิลรัตน์รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย “อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อสะดุดหกล้มแล้วพสุธามาช่วยเธอเอาไว้ เป็นอีกครั้งที่เขาช่วยเธอเอาไว้ เธอเฝ้ามองเขาแต่ไม่บุ่มบ่ามหรือเข้าหาเขาเหมือนผู้หญิงคนอื่น “ขอบคุณค่ะ” “เป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นอะไรค่ะ พี่ดินมารับเอาไว้ได้ทัน” เธอพูดติดตลก “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ ตั้งแต่เจอกัน เราก็สะดุดล้มตลอด” “พี่ดินจำได้ด้วยเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเขาด้วยความประหลาดใจ “จำได้สิ” พสุธาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมใจเขาถึงได้สั่นสะท้านทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้านวลใสของนิลรัตน์ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก มีเสน่ห์ เป็นตัวของตัวเอง และมีน้ำใจกับคนอื่นเสมอ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าสังเกตเธอมาตลอดภาคเรียน จึงได้รู้ว่าสาวน้อยคนนี้เป็นคนเก่ง ฉลาด มีความคิด เวลาคุยด้วยแล้วสบายใจ เธอมีการเรียงลำดับความคิดที่ดีในการพูดและเป็นผู้รับฟังที่ดี “ดีใจนะคะที่พี่ดินจำนิลได้ด้วย” เธอมองเขาเหมือนประหลาดใจ แต่คนขรึมๆ เช่นเขาพอเผยยิ้มออกมาทำให้โลกนี้ช่างสดใส “ทำไมถึงอยากมาทำงานในไร่ล่ะครับ” พสุธาเอ่ยถาม เธอไม่ได้มีท่าทีว่าจะเดือดร้อนเรื่องเงินจนต้องมาหางานทำเพื่อส่งเสียตัวเองเรียน เหมือนนักศึกษาคนอื่นที่พยายามหางานทำเพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระของคนที่บ้านมากนัก “นิลอยากศึกษาดูงานน่ะค่ะ ในไร่ของพี่ดินมีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะเลยนะคะ” อันนี้เธอพูดจริงจากใจ นอกจากไร่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับครอบครัวแล้ว พสุธายังจัดสรรพื้นที่ทำเกษตรแบบมีอยู่มีกินอีกแปลงหนึ่ง แปลงไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ถือว่าหากนักศึกษาคนอื่นที่เรียนจบแล้วอยากกลับไปทำการเกษตรที่บ้าน แล้วไม่อยากทำงานประจำเป็นลูกจ้างก็สามารถนำไปต่อยอดทำการเกษตรแบบผสมผสานเลี้ยงดูครอบครัวได้สบาย ทั้งมีอยู่มีกิน มีรายได้เข้ามาทุกวัน “อาทิเช่นอะไรบ้างครับ” พสุธาเอ่ยถามหญิงสาว พลางมองเสี้ยวหน้าหวานละมุนของเธอด้วยหัวใจเต้นระรัว “การมีอยู่มีกินที่พี่ดินทำให้ดูไงคะ การเก็บเมล็ดพันธุ์ และการเลี้ยงชีพโดยการเกษตร นิลคิดว่าในชีวิตของคนเราเรื่องอาหารการกินสำคัญที่สุดค่ะ ทุกคนเกิดมาต้องกิน การกินจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในชีวิต” “พี่ก็คิดว่าการกินสำคัญที่สุดในชีวิตครับ หากเรามีอาหารการกินที่ดี เราก็จะไม่ป่วย ไม่ต้องไปหาหมอ หรือรักษาตัวเอง แค่กินดี ชีวิตก็ดีแล้วครับ” “แบบนี้พี่ดินก็เลยเน้นการปลูกพืชผักปลอดสารพิษใช่ไหมคะ” “ใช่ครับ พี่ว่าที่ดินสำคัญยิ่งกว่าทองคำครับ หากเรามีที่ดิน เราก็ไม่อดตายแล้วครับ” “แต่ที่ดินตรงนั้นก็ต้องอุดมสมบูรณ์ด้วยนะคะ” “ใช่ครับ เราจึงต้องมีการพัฒนาที่ดิน ปรับปรุงดินให้ดีเพื่อให้สามารถปลูกพืชได้” “แนวคิดของพี่ดินดีจังเลยค่ะ เพื่อนๆ หลายคนในชั้นเรียนของนิลก็ต่างมีที่ดินกันนะคะ แค่ไร่เดียวก็สร้างงาน สร้างเงิน และมีอยู่มีกินตลอดปีแล้วค่ะ ไม่ต้องไปหาซื้อจากไหน ก็จากที่ดินเรานี่แหละ” เธอชื่นชมกับแปลงสาธิตที่เขาทำเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องและคนอื่นๆ ที่มาศึกษาดูงานได้ดู ไม่ใช่แค่นักศึกษาร่วมภาควิชาเกษตรที่มาดูงานในแปลงสาธิตของพสุธา แต่มีผู้คนอีกมากมายหลั่งไหลเข้ามาดูงานและเรียนรู้เรื่องต่างๆ จากพสุธา “เมื่อก่อนพี่ลำบากมากครับ ฝันว่าจะมีที่ดินสักแปลงไว้ทำการเกษตร อยากปลูกทุกอย่างที่กินได้ เราจะได้ไม่ต้องซื้อหา พี่ว่าเงินเฟ้อขึ้นทุกวัน ถึงเรามีเงินก็ซื้อกินไม่ไหวเพราะต้องใช้ชีวิตอีกหลายปี แต่ถ้าเรามีของกิน มีที่อยู่ เราก็ไม่ต้องแบกรับเรื่องเงินเฟ้อ ไม่ต้องซื้อเขากิน การทำอะไรเองนอกจากภาคภูมิใจแล้ว เรายังได้พัฒนาทักษะในชีวิตด้วยครับ” “เมื่อก่อนพี่ดินอยู่กับใครเหรอคะ หมายถึงครอบครัวน่ะค่ะ ถามได้ไหมคะนี่” เธอยิ้มหวานให้เขา ทำท่าเกรงอกเกรงใจพอสมควร “ถามได้ครับ พี่อยู่กับย่าครับ แต่พอโตขึ้น พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงเอ็นดูพี่ ก็เลยรับพี่เป็นลูกบุญธรรมครับ” “นิลไม่เคยเห็นคุณย่าของพี่ดินเลยนะคะ” “ท่านชอบเงียบๆ อยู่แบบสงบ ๆ คนเดียวน่ะครับ ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร” “เลยไม่มีใครเห็นท่านนี่เอง” เธอยิ้มให้เขา หลังจากพูดคุยกันวันนั้น เธอก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาอีกหลายครั้ง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางสาว ๆ ที่กรี๊ดกร๊าดชอบเขามากมาย รวมถึงแก้วกาญจน์เพื่อนของเธอด้วย แต่ความรู้สึกดีกำลังเกิดขึ้นในหัวใจของเธอกับเขาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว “วันนี้พี่ดินจะพานิลไปดูแปลงผักสวนครัวห้าสิบชนิดของพี่เหรอคะ” เธอเอ่ยถามเขา เมื่อเดินมาหยุดตรงทางเข้าแปลงผักที่เป็นซุ้มทางเดินที่ทำจากไม้ และมีไม้เลื้อยหลายชนิดออกดอกสวยงามอยู่ตรงซุ้มทางเข้าด้วย “ครับ” “แล้วเพื่อนๆ คนอื่นๆ ล่ะคะ” เธอเอ่ยถาม เขาเอ่ยชวน เลยทำให้เธอคิดว่าเขาคงชวนคนอื่นมาดูแปลงผักสารพัดชนิดตรงนี้ด้วย เขามีแปลงผักทดลองหลายแปลง วัตถุประสงค์หลักคือการเก็บเมล็ดพันธุ์นั่นเอง “มีแค่เราสองคนครับ” “คะ” เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย แต่เมื่อได้สบประสานสายตากับเขาแล้วทำให้หัวใจเธอเต้นรัวเร็วอย่างไม่ทราบสาเหตุ สายตาของเขาวิบวับอย่างประหลาด มันไม่เหมือนสายตาของรุ่นพี่ธรรมดา ที่มองรุ่นน้องอย่างเอ็นดูเลยสักนิด แต่มันแฝงไปด้วยความพิเศษมากกว่านั้น นิลรัตน์รู้ในทันทีว่าพสุธาคิดเช่นไรกับเธอ เพราะเคยเจอสายตาของผู้ชายเช่นนี้มานักต่อนักแล้ว แต่เธอเลือกที่จะปล่อยผ่านหากอีกฝ่ายไม่รุกหนักจนเกินไปจนถึงขั้นต้องปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ และคงสถานะความเป็นพี่ เป็นเพื่อนและคนรู้จักที่ดีกันเอาไว้ “พี่อยากอยู่กับนิลสองคนน่ะครับ เห็นนิลสนใจผักหลายชนิดที่พี่ปลูกและขยายพันธุ์เอาไว้ พี่ก็เลยพามาดูครับ” “อ้อ... ค่ะ” เธอรับคำ การได้อยู่กับเขาสองต่อสอง คือสิ่งที่เธอปรารถนาอยู่แล้ว เนื่องด้วยปกตินั้น จะมีเพื่อนหรือสาว ๆ รุมล้อมรอบตัวเขาด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งแก้วกาญจน์ยิ่งทำตัวติดกับพสุธาเหมือนเงาตามตัว เธอเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับเขาสองต่อสองเช่นนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม