นิลรัตน์มาเรียนต่อที่เชียงใหม่ เพื่อมาตามหาพี่ชายที่หายไป เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมาที่นี่ แต่เบาะแสล่าสุดที่บิดาและมารดาบุญธรรมรับรู้คือนราอาจจะไปอยู่ทางเหนือกับสาวใช้คนหนึ่ง แต่พอไปสืบข่าวก็ไร้วี่แวว
“หนูเจอพี่ดินแล้วนะคะ” ประโยคจากบุตรสาวบุญธรรมทำให้ภัคธีมาดีใจจนทำตัวไม่ถูก
“เจอที่ไหนลูก” เพราะลูกสาวไม่ใช่คนโกหก นั่นทำให้ภัคธีมาดีใจค่อนข้างมาก
“เขาเป็นรุ่นพี่ของหนูเองค่ะ ชื่อ นามสกุลใช่ค่ะ แต่เพื่อความชัวร์คงต้องพิสูจน์ดีเอ็นเอค่ะคุณแม่ เพราะคนชื่อเหมือนกัน นามสกุลเหมือนกันเยอะแยะไปค่ะ” เธอรอบคอบเสมอ จู่ ๆ จะไปตู่ว่าใครเป็นพี่ชายที่หายสาบสูญไปเพราะอีกฝ่ายชื่อสกุลเหมือนคนที่กำลังตามหาอยู่มันก็ไม่ใช่
“แม่อยากเจอพี่ดินของหนูที่สุด” ภัคธีมาครางออกมา น้ำตาร่วงพรู
“คุณแม่อย่าร้องไห้สิคะ หนูขอให้แน่ใจก่อนว่าใช่หรือเปล่า แล้วหนูจะส่งรีบข่าวให้คุณแม่รับรู้นะคะ ตอนนี้คือหนูต้องสืบเรื่องของพี่ดินคนนี้ก่อนค่ะ คุณแม่รอสักหน่อยนะคะ”
“แม่จะรอจ้ะ จะรอ ขอบใจมากนะนิล ลูกรักของแม่” ภัคธีมาปาดน้ำตาทิ้ง ในขณะที่ธรบีบไหล่ของอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ
“นิลคือของขวัญในชีวิตของมลค่ะ เด็กคนนี้ทำให้มลมีความหวังในชีวิตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร” ภัคธีมายอมรับว่าเธอรักลูกสาวบุญธรรมมากๆ รักมากเหมือนแก้วตาดวงใจ
“พี่ก็เช่นกันครับ” นิลรัตน์เข้ามาเติมเต็มทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตครอบครัว แม้แต่ปู่กับย่า คือบิดามารดาของเขายังรักนิลรัตน์เหมือนหลานในไส้ และนิลรัตน์นี่แหละคือคนที่ทำให้บิดาของเขายอมรับภัคธีมาเป็นสะใภ้อย่างเต็มอกเต็มใจ
นิลรัตน์ทำให้คนเป็นปู่เห็นความดีของมารดาบุญธรรม เขาเองยังนึกทึ่งที่อีกฝ่ายทำได้ ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามมาหลายปี
นี่ก็อีก นิลรัตน์แค่บอกว่าอยากไปเรียนที่เชียงใหม่ จะได้ไปหาพี่ชายที่หายสาบสูญ แต่ไปเรียนไม่ทันไร เธอก็กลับได้เจอกับคนที่มีชื่อนามสกุลเหมือนพี่ชายที่หายสาบสูญไปได้อย่างเหลือเชื่อ
นิลรัตน์ยิ่งกว่านางฟ้าตัวน้อยๆ ของครอบครัว ที่บันดาลทุกสิ่งทุกอย่างให้ทุกคนสมความปรารถนา เธอเป็นดั่งน้ำเย็นที่หลั่งรินลงมาจากฝากฟ้ากว้าง ชโลมจิตใจของทุกคนให้เย็นสบายและฉุดกระชากออกจากความทุกข์
นิลรัตน์ได้รู้จักกับพสุธาในฐานะรุ่นพี่ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอตอนล้ม ในขณะที่โดนรับน้อง เธอสืบเรื่องเขามาสักระยะ จึงรู้ว่าเขาเป็นลูกชายบุญธรรมของพ่อเลี้ยงอินทร์กับแม่เลี้ยงจันทรา เจ้าของไร่ชาและไร่ผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ
แต่บิดามารดาหรือครอบครัวที่แท้จริงของเขาไม่มีใครรู้ เนื่องด้วยชายหนุ่มนั้นค่อนข้างไม่เปิดเผยชีวิตครอบครัวให้ใครได้รับรู้ ที่สำคัญก็คือถึงจะเป็นลูกชายบุญธรรมของพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงที่รวยมาก ก็เขาทำตัวติดดิน ไม่เคยโอ้อวดหรือมีนิสัยดูถูกคนอื่นเลย
พสุธาเป็นคนเงียบขรึม และไม่ได้สนิทกับเพื่อนๆ เหมือนคนอื่น ๆ เขาขยันเรียน และตั้งใจเรียนมาก เรียกว่าเรียนเก่งที่สุดในคณะ เพราะเกรดเฉลี่ยนั้นสูงสุดได้เอทุกวิชา เรียกว่าเรียนเก่งมาก ๆ
พสุธามีสอนมีติวให้เพื่อนและรุ่นน้องบ้าง แต่ค่อนข้างเงียบขรึม และจริงจังกับชีวิต
“พี่ดินนี่หล่อลากไปเลยนะแก” เสียงของเพื่อนสาวคนสนิทที่คบหากันในสาขาวิชาเอ่ยขึ้น
แก้วกาญจน์กระแทกไหล่ของเธอให้หันไปมองรุ่นพี่สุดหล่อที่โสดสนิท ยังไม่มีแฟน และไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหนเลยตั้งแต่มาเรียนที่นี่ ทั้งยังไม่เคยควงใครหรือสนิทกับผู้หญิงคนไหนจนหลายคนแอบเม้าท์ว่าไม่แน่ว่าพสุธาอาจเป็นเกย์ก็เป็นได้
“อืม... ก็หล่อ แต่ดูเก๊ก ๆ ยังไงก็ไม่รู้” นิลรัตน์เอ่ยกับเพื่อนเพื่อยุให้อีกฝ่ายพูดต่อ
แก้วกาญจน์นั้นชอบพสุธามากๆ เธอจึงไม่อยากทำตัวเป็นคู่แข่งของเพื่อน แสดงความอยากรู้เรื่องของพสุธาออกมา นั่นจะทำให้แก้วกาญจน์ไม่อยากเล่าและเห็นว่าเธอคือศัตรูหัวใจ แต่ถ้าเธอทำท่าทางไม่อยากรู้ และพูดยั่วออกไป แก้วกาญจน์ก็จะรีบเล่าและเข้าข้างอีกฝ่ายทันที จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ก็ได้ข้อมูลมาพอสมควร
การอยากรู้ข้อมูลของใครสักคน ไม่จำเป็นต้องถามซอกแซกเสมอไป แต่มันมีวิธีการพูดให้อีกฝ่ายเผยข้อมูลออกมาจนหมดเปลือก
“พี่ดินไม่ได้เก๊กนะ แต่พี่ดินน่ะไม่เจ้าชู้”
“รู้ถึงขนาดนั้นเชียว”
“ไม่เจ้าชู้จริงๆ พี่ดินโคตรเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยล่วงเกินผู้หญิง มีแต่ช่วยผู้หญิง เวลาไปออกค่ายด้วยกันก็มีน้ำใจกับทุกคน ทำงานไม่กลัวเหนื่อย ทั้ง ๆ ที่รวยมาก หล่อมาก แต่กลับไม่กลัวงานหนัก ไม่สำอางเหมือนผู้ชายบางคน”
“อย่างนั้นเหรอ” นิสัยดีขนาดนี้คงต้องเล่าให้มารดาฟัง เพราะวันนี้มารดาอยากฟังเรื่องของพสุธาต่อว่าเป็นยังไง
เธอวีดิโอคอลคุยกับมารดา เล่าเรื่องที่ท่านอยากฟังให้รับรู้ แต่อยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริง เพราะการพูดความจริงคือความซื่อสัตย์อย่างหนึ่ง และการทำให้มารดาได้รับรู้ข้อเท็จจริง
บิดาสอนเธอเสมอว่าการยอมรับความจริงเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง เพราะเราจะไม่หลอกตัวเอง ทั้งเรื่องดีและไม่ดีที่เกิดขึ้น และยอมรับมันให้ได้ ไม่ว่าชีวิตคนเราจะเกิดอะไรขึ้น
“เห็นว่าพี่ดินน่ะอยากหางานให้นักศึกษาด้วยนะ ที่ไร่ของพี่ดินมีงานพาร์ทไทน์ให้ทำด้วย แต่ต้องเป็นคนที่ไม่เกี่ยงงานหนักนะ ฉันก็ว่าจะไปทำ”
“แก้วนี่นะจะไปทำงานที่ไร่ บ้านแก้วรวยจะตายไป” นิลรัตน์ทำหน้าเหลือเชื่อ
“นิลต้องไปกับแก้ว”
“เรื่องอะไร” นิลรัตน์ส่ายหน้าดิก
“ก็ไปช่วยเป็นก้างไง”
“ก้างอะไร” นิลรัตน์ทำหน้างง
“ขวางผู้หญิงทุกคนที่อยากใกล้ชิดกับพี่ดิน”
“แล้วไปทำงานอะไร”
“พี่ดินบอกว่าชอบคนทำงานหนักเอาเบาสู้ น่าจะเป็นงานเกี่ยวกับในไร่แหละ เป็นพาร์ทไทน์เล็ก ๆ ที่ได้เงินค่าข้าวค่าขนม แต่ทำงานไป เรียนรู้งานไปก็ดีนะ ทั้งยังได้ใกล้ชิดพี่ดิน แถมพี่ดินยังใจดีเลี้ยงข้าวฟรีด้วย มีนักศึกษาไปฝึกงานที่ไร่ของพี่ดินหลายรุ่นเลยนะ”
“แก้วนี่รู้ละเอียดจริงนะ”
“ก็ไปสืบมาน่ะ”
“เราไม่อยากไปน่ะ” นิลรัตน์แกล้งว่า