"ซี๊ดดด"
"เป็นอะไรไหม" อัคคีเดินเข้ามาใกล้กำลังจะก้มลงไปดูเท้าข้างที่ชนขอบประตูเมื่อครู่
"ไม่เป็นไรค่ะ" เจ็บไม่เท่าไรหรอกแต่อายนี่สิโอ๊ยจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย เดินมาอย่างมั่นใจแต่เตะขอบประตูสะงั้น
อัคคีมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่พยายามเดินให้ปกติที่สุด เตะจนได้ยินเสียงมีหรือที่จะไม่เจ็บ
มาถึงรถข้าวปุ้นก็รีบขับออกไป ใช้เวลานานมากกว่าจะมาถึงบ้าน คิดว่ายังไงวันนี้ก็คงเข้างานไม่ทันหรอก เธอเลยไลน์ไปแจ้งภาณุก่อนกลัวว่าจะมีคนถามหา ภาณุก็คือผู้ช่วยของนเรศวร
"มาก็ดีแล้ว ฉันจะให้เอาผ้าไปร้านซักแห้งหน่อย ชุดนี้เพิ่งได้มา" ว่าแล้วเกตุแก้วก็ส่งชุดนั้นให้กับข้าวปุ้น เกตุแก้วก็คือแม่เลี้ยงของทรงอัปสรเอง และเป็นแม่แท้ๆ ของออมสิน ตอนนี้ออมสินย้ายออกไปอยู่กับสามีแล้ว สามีของเธอก็คือเจ้าเวหาเพื่อนในกลุ่มเดียวกับนเรศวร
"ทำไมไม่ให้คนรถเอาออกไปล่ะคะ"
"ไหนๆ เธอก็จะออกจากบ้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ไปไหนมาทำไมถึงเพิ่งกลับ"
"ไปร่วมงานแต่งเพื่อนมาค่ะ"
"ช่างเถอะฉันไม่อยากจะรู้หรอก และพรุ่งนี้ต้องนำชุดกลับมาด้วยนะ ตอนเย็นฉันมีงานเลี้ยงที่โรงแรม"
"...ค่ะ" ต้องกัดฟันตอบรับไป เธอกลับเช้ามืดร้านซักแห้งก็ยังไม่เปิด ถ้ารอรับชุดมีหวังไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันพอดี
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จข้าวปุ้นก็ขับรถออกมา เธอมีรถอยู่คันหนึ่ง ทีแรกทรงอัปสรจะซื้อให้แต่ข้าวปุ้นบอกว่าแค่ดาวน์ให้ก็พอเดี๋ยวเธอหาเงินส่งค่างวดเอง เพราะเงินครอบครัวนี้ที่เลี้ยงดูเธอมาก็หมดไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว
ร้านประจำที่นายหญิงคนใหม่ใช้บริการอยู่คนละทางกับที่ทำงาน ถ้าไปแวะร้านนั้นเธอต้องใช้ถนนอีกเส้นเพื่อไปทำงาน ว่าเส้นหลักติดแล้วเส้นนี้ติดยิ่งกว่าอีก
มาถึงข้าวปุ้นก็เริ่มทำงานเลย วันนี้คู่บ่าวสาวป้ายแดงไม่มาทำงานเธอต้องรับงานทั้งหมดคนเดียว แต่ก็ยังดีที่ภาณุช่วยอีกแรง
"คุณข้าวคะลูกค้ามีปัญหาค่ะ" ปัญหาจากลูกค้ามีทุกวันอยู่แล้ว แต่ส่วนมากหัวหน้าจะเป็นคนจัดการ วันนี้หัวหน้าไม่อยู่สักคนข้าวปุ้นเลยต้องไปเคลียร์ให้
"ทำไมที่นี่บริการชุ่ยจังเลย" มาถึงลูกค้าก็โวยวาย
"ทางเราต้องขออภัยด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนอาหารใหม่ให้ค่ะ"
"แล้วอย่าคิดเงินล่ะ"
"อาหารที่ทำให้มาผิดไม่คิดค่ะ" เธอหมายถึงว่าทางร้านจะรับผิดชอบแค่อาหารที่เสิร์ฟผิด
"เสิร์ฟอาหารผิดต้องเลี้ยงไม่ใช่เหรอ"
"ใครบอกคะ"
"คราวก่อนยัง.." ลูกค้ากำลังจะพลั้งปากพูดออกไป เพราะคราวก่อนโกหกไปว่าตัวเองแพ้อาหารทะเลแล้วได้กินฟรี
"ขอโทษนะคะทางเราจะเปลี่ยนอาหารให้ แต่ลูกค้าก็ต้องจ่ายค่าอาหารเอง"
"อะไรวะไหนมึงบอกจะพากูมากินฟรีไง" เพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันกระซิบถาม
"เดี๋ยวค่อยหาวิธีใหม่" คลับแห่งนี้รองรับลูกค้าได้เยอะมาก พนักงานเลยจำไม่ได้ว่าคนไหนที่เคยมีปัญหา แถมครั้งนั้นคนที่เข้ามาเคลียร์ก็ไม่ใช่ข้าวปุ้นด้วยเลยไม่รู้ปัญหานี้
"ทำไมถึงไม่ทวนเมนูให้แน่ใจก่อน" ข้าวปุ้นเรียกพนักงานคนนั้นมาตำหนิ เพราะถ้าจะไม่พูดเลยก็ไม่ได้
"ทวนแล้วค่ะ แต่พอยกอาหารมาลูกค้าบอกไม่ได้สั่ง"
"ช่างมันก่อนไปบอกพ่อครัวจัดอาหารมาเปลี่ยนให้ลูกค้า"
"ค่ะ"
ข้าวปุ้นมองไปดูลูกค้ากลุ่มนั้นเธอเชื่อพนักงานของตัวเอง แสดงว่าลูกค้ากลุ่มนั้นต้องมีปัญหาแน่
"สวัสดีค่ะเสี่ย คิดว่าเสี่ยจะไม่มา" เวลาเดียวกันนั้นหน้าคลับ เด็กที่รอรับแขกจำเสี่ยกระเป๋าหนักคนนี้ได้เลยรีบเข้ามาต้อนรับ "วันนี้ห้องพิเศษไม่ว่างแล้วค่ะ คราวหลังเสี่ยโทรมาหาจอยก่อนก็ได้นะคะ"
"ไม่เป็นไรฉันจะนั่งโต๊ะข้างนอก" งานก็เยอะแต่ยังปลีกตัวมาที่นี่ได้ คำตอบที่ให้กับตัวเองเวลานี้คือแค่จะมาดูงานเพื่อไปปรับใช้กับสถานบันเทิงของตัวเองที่กำลังจะเปิดตัว
"ถ้างั้นตามจอยมาทางนี้เลยค่ะ"
หลังจากที่อาหารถ้วยใหม่มาบริการ ข้าวปุ้นก็พยายามจับตามองลูกค้ากลุ่มนั้น และก็เห็นสิ่งผิดปกติ เธอเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเป็นคลิปวีดีโอไว้
"เฮ้ยทำไมอาหารถึงมีแมลงลงไปวะ"
และมันก็เป็นแบบที่ข้าวปุ้นคิด ลูกค้ากลุ่มนี้วางแผนจะเข้ามากินฟรีนี่เอง แสดงว่าเคยทำแบบนี้มาแล้ว
"พ่อครัวเพิ่งทำเสร็จให้ใหม่ๆ เลยค่ะไม่มีทางที่แมลงจะลงไป"
"หนูมาดูนี่" ลูกค้าคนนั้นตักแมลงที่ตัวเองเพิ่งวางลงขึ้นมาให้กับพนักงานเสิร์ฟเห็น
"ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ"
"ฉันว่าไปเรียกเจ้าของมาดีกว่า"
"ไม่ต้องไปเรียกหรอก" ข้าวปุ้นเดินตรงเข้ามาตอนที่ลูกค้าถามหาเจ้าของที่นี่ "ฉันขอเชิญพวกคุณออกไป" ตอนนั้นข้าวปุ้นกระซิบบอกพนักงานให้ไปตามบอดี้การ์ดของร้านเข้ามา
"อ้าวทำไมพูดหมาๆ แบบนี้ล่ะ"
"คุณจะให้ฉันเอาหลักฐานออกมาให้ดูใช่ไหมคะ"
"หลักฐานอะไรวะ"
"เรื่องนี้ฉันสามารถเอาผิดพวกคุณได้นะ" ข้าวปุ้นหยิบโทรศัพท์ออกมากำลังจะส่งให้ลูกค้าได้ดูว่าเธอถ่ายคลิปไว้แล้ว แต่ลูกค้าก็ปัดโทรศัพท์ของเธอตกก่อน "คุณทำอะไร!"
"ถือไม่ระวังเองมาใส่ร้ายคนอื่น"
ตอนที่ข้าวปุ้นกำลังโน้มตัวลงไปจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของมันก็เอื้อมไปหวังจะแตะสะโพกของเธอ
ตุ๊บ!! โครม~ เก้าอี้ที่ลูกค้าคนนั้นนั่งอยู่กระเด็นล้มลงไปตามแรงถีบ
"โอ๊ย อะไรวะ!" มันลุกขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นลูกค้าที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กัน แต่ยังไม่ทันได้มีเรื่องกันมากกว่านั้นบอดี้การ์ดของทางร้านก็รีบเข้ามาลากลูกค้าคนที่โวยวายออกไปข้างนอกก่อน