ก๊อก ก๊อก ก๊อก ประตูห้องทำงานเปิดออกเผยให้เห็นร่างเลขาสาวเดินเข้าเหมือนอย่างทุกครั้ง "คุณศรุตจะไปแล้วหรอ บอกเขารอแปปนึงนะ เดี๋ยวฉันขอเคลียร์เอกสารตรงนี้เสร็จก่อน" ชนิกานต์พูดพรางเปิดเอกสารต่างๆที่อยู่ตรงหน้าดูอย่างเร่งรีบ "ป่าวค่ะ คือว่าลูกค้าที่จะมาดูงานบริษัทเราตอน 16.00น.เขาไม่ยอมคุยกับคนอื่นเลยค่ะ จะคุยแค่กับคุณกานต์คนเดียวเท่านั้นเลยค่ะ"ลัดดาเลขาสาวคนสนิทพูดด้วยสีหน้าที่ดูกังวลเล็กน้อย
"งั้นคงต้องไปพบลูกค้าก่อนแหละ ยังไงก็ไปบอกคุณศรุตให้ฉันด้วยแล้วกันนะ แล้วก็แจ้งบริษัทเราด้วยว่าอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะออกไป"ชนิกานต์โดยที่เธอเองไม่ได้ละสายตาจากเอกสารแม้แต่น้อย "ได้ค่ะคุณกานต์"เลขาสาวก้มหัวเล็กน้อยเชิงขออนุญาตก่อนออกไป
"คุณศรุตคะ วันนี้คุณชนิกานต์ติดลูกค้าที่บริษัทเธอค่ะ คงจะไม่ได้ลงพื้นที่กับคุณวันนี้" เพ็ญพักตร์โทรเข้าไปบอกศรุตเจ้านายของเธอที่อยู่ภายในห้องหลังจากได้รับแจ้งจากลัดดาเลขาของชนิกานต์ "โอเค งั้นก็เตรียมรถให้ด้วยนะเดี๋ยวอีก10นาทีฉันจะออกเดินทาง"ศรุตสั่งงานเลขาเสร็จก็ยกหูโทรหาผู้เป็นทันที
"คุณพ่อครับเรื่องที่เราคุยกันไว้เห็นที่จะต้องเริ่มวันนี้แล้วล่ะ"ศรุตเอ่ยกับคนเป็นพ่ออย่างรู้ใจ "ไหนว่าอีกซักพักไงทำไทถึงได้ปุบปับนักล่ะ"สิทธิถามในสิ่งที่ตนข้องใจกับลูกชาย
"โชคคงเข้าข้างเรามั้ง วันนี้กานต์มีคุวงานกับลูกค้าไม่ได้ลงพื้นที่ไปด้วย นี้ถือเป็นโอกาสที่เหมาะมากที่สุดแล้ว โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆนะครับ" ศรุตกล่าวถึงเหตุผลให้คนพ่อฟังอย่างละเอียด
"โอเคงั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน รถคันเดิมใช่มั้ย"ชายสูงถามเพื่อความแน่ใจและแม่นยำ "ใช่ครับคันเดิมที่ใช้ประจำ และน่าจะเส้นทางประจำด้วย" ระหว่างคุยศรุตก็นั่งไขว้ห้างเอนหลังพิงพนักพิง นิ้วมือเคาะกับโต๊ะทำงานเป็นจังหวะ
ชนิกานต์เก็บข้าวของกุลีกุจร เพื่อรีบพบกับลูกคืาที่นัดไว้ "ลัด ลัดดามานี่หน่อย" ลัดดาเมื่อเห็นนายหญิงของเธอเดินออกมาพร้อมกับเรียกเธอ เธอก็รีบวิ่งไปหาชนิกานต์ทันที "คุณกานต์จะไปแล้วหรอคะ คือลัดยังไม่ได้เก็บของเลยค่ะ ขอโทษนะคะ เดี๋ยวลัดรีบเก็บค่ะ" ลัดดาเก็บของอย่างเร่งรีบ แต่ยิ่งรีบก็เหมือนจะยิ่งช้า ก็ไอ้สิ่งของเจ้ากรรมยิ่งรีบเก็บก็ยิ่งตก อยู่แบบนั้นหลายครั้ง จนชนิกานต์ที่ยืนดูอยู่อดยิ้มให้กับความวุ่นวายของลัดดาไม่ได้
"พอแล้วๆไม่ต้งเก็บหรอก ฉันแค่จะบอกว่าให้ลัดดูแลงานดูแลทุกคนทางนี้ๆดี ไม่ได้จะให้ไปด้วยซะหน่อย" ชนิกานต์ส่ายหัวยิ้มปนขำเล็กน้อยก่อนเดินออกไป
รถตู้คันหรูแล่นบนเส้นทางที่ไม่ค่อยมีรถสัญจรเท่าไหร่ วิ่งได้ไม่นานรนขับก็พบสิ่งปกติรอบข้าง รถตเกรยายนต์2คันวิ่งตามรภเขามาสักพัก คนขับแจ้งคนที่อยู่ในรถให้เตรียมตัวทันที จักรยานยนต์สองคันตามประกบอยู่ไม่ห่าง คนซ้อนทายลวงปืนออกมายิงเข้าที่รถอย่างจัง แต่โชคดีที่รถตู้คันดังกล่าวติดกระจกกันกระสุดชนิดพิเศษ
เมื่อเห็นอน่างนั้นบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ข้างคนขับรวมทั้งคนขับก็ชักปืนออกมาสวนกลับทันที ทั้งสองฝ่ายกระหน่ำยิงใสหันอย่างดุเดือด กระสุนสาดใส่กันอย่างต่อเนื่องและพลาดโดนจักรยายนต์ล้มลงไปคันนึง จนสุดท้ายรถจักรยานยนต์ตัดสินใจยิงไปที่ล้อและเครื่องยนต์แทนก่อนจะหลบหนีไป ทำให้รถตู้คันนั้นแฉลบชนต้นไม้ข้างทางทันที่ในจุดที่เกลือบจะถึงบริเวณที่รถพลุกพล่าน
โรพพยาบาลที่ใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุก็มารับตัวผู้บาดเจ็บทันที เวลาผ่านไปซักพักจึงได้ทราบว่าคนภายในรถตู้คันนั้น คือชนิกานต์ภรรยาของ ศรุต พันธกิจ ผู้สมัครนายกรัฐบาล ซึ่งอาการของชนิกานต์และคนภายในรถตอนนี้เรียกได้ว่าสาหัสอย่างมาก
เมื่อรักษาที่ห้องICUจนไม่น่าเป็นห่วงแล้วทางโรงพยาบาลก็ได้ย้ายร่างที่ยังไม่ได้สติของเธอไปยังห้องพักพิเศษ ศรุตและครอบครัวของชนิกานต์ ต่างตกใจกันไม่น้อย
ทุกคนเข้าไปเยี่ยมเธอที่ห้องพัก อย่างรีบร้อน เมื่อประตู้เปิดออก ร่างหญิงใาวที่เคยสง่างามดั่งพยาหงห์ ตอนนี้นอนนิ่งไร้ซึ่งสติ ตามเนื้อตัวที่ขาวผ่องเต็มไปด้วยบาดแผล ศรุตรีบปรี่เข้าไปหาชนิกานต์ด้วยท่าทีที่ห่วงใย ศรุตกอบกุมมือของชนิกานต์อย่างแผ่วเบา น้ำตาไหลอาบหน้าหล่อเหลาเขานั่งข้างชนิกานต์เนินนานไม่ไปไหน
ลัดดาเลขาสาวคนสนิทของชนิกานต์เมื่อได้ทราบข่าวก็รีบตรงมายังห้องนี้ทันทีพร้อมกับท่าทางที่ร้องไห้ฟูมฟายมาคุกเข่าลงตรงหน้าของเด่นชาติและพิมอัปสรณ์ พ่อและแม่ชนิกานต์ ลัดดาพนมมือขึ้นทั้งน้ำตาที่อาบแก้ม
"ลัดขอโทษค่ะคุณท่าน มันเป็นความผิดของลัดเอง ที่ปล่อยคุณกานต์เธอออกไปตามลำพัง ลัดขอโทษค่ะ ฮือๆ "ลัดดาสะอื้นไห้ไม่หยุดหย่อนมือบางนุ่มของพิมอัปสรณ์วางลงบนหัวของลัดดาอย่างเบามือ
"เธอไม่ผิดหรอกลัดดา ถึงเธอไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ทุกคนที่อยู่บนรถต่างก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ฉันติดว่ายัยกานต์คงโล่งใจมากกว่าที่เธอไม่ได้อยู่บนรถด้วยอย่างน้อยเธอเองก็ยังดูแลงานต่างๆแทนยัยกานต์ได้" เด่นชาติเองก็เอ็นดูลัดดาเหมือนลูกสาวอีกคนก็อดที่จะพูดปลอบเธอไม่ได้
"ถูกของคุณหญิงนะ เธอรู้ใช่มั้ยว่ายัยกานต์น่ะห่วงงานเป็นที่หนึ่ง นอกจากเธอแล้ว ยัยกานต์ก็ไม่ไว้ใจใครอีก" เด่นชาติเบนสายตาไปยังศรุตผู้เป็นลูกเขย "ทำใจให้สบายเถอะแล้วก็ทำงานแทนลูกสาวฉันให้ดี ส่วยตนที่ผิดน่ะ ฉันไม่ปล่อยให้มันลอยนวลได้นานหรอกทำกับลูกสาวของฉันปางตายขนาดนี้" เด่นชาติพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ท่าทีที่มองดั่งมังกรผงาดฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างที่สุด