“ขอบใจนะที่มาส่ง” เฌอเบลล์บอกกับผมแล้วรั้งสายกระเป๋าขึ้นไปคล้องบ่า ท่าทางเธอดูเฉยว่ะ แล้วสรุปที่ผมบอกไปเธอสนใจไหมวะ!
“ขอขึ้นไปส่งนะ”
“ส่งแค่นี้ก็ได้”
“ไม่ไว้ใจเราเหรอ”
“เปล่า”
“ถ้าแบบนั้นก็ยอมให้เราขึ้นไปส่งดิ”
“สุดท้ายก็ได้แค่ไปส่งอยู่ดี มันไม่มีอะไรนอกจากนั้น” เหมือนเฌอเบลล์ตั้งใจจะบอกแบบเป็นนัยๆ
“รู้ว่าแค่ไปส่งเฉยๆ ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรอยู่แล้ว” ตากลมๆ หันมามองผมเล็กน้อย
เธอต่างจากคนอื่นชะมัด และนั่นแหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมอยากรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้
“แค่เป็นห่วง อยากส่งให้ถึงที่หมาย อยากแน่ใจว่าเฌอปลอดภัย” ผมเอ่ยชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนม ตากลมๆ กลอกกลิ้งไปมา ตัวก็เล็กแค่นี้เองจะใจแข็งสักแค่ไหนกันวะ ผมมั่นใจว่าเฌอเบลล์ก็คงไม่ได้ยากกว่าทุกคนสักเท่าไหร่หรอก
ผมว่าผมทำได้ ผมทำให้เธอเป็นของผมได้อย่างแน่นอน!
“ส่งแค่หน้าห้องก็ได้เฌอ” คราวนี้เธอถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ตามด้วยการตอบรับออกมาแบบไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
“อือ” ผมยิ้มอย่างพอใจและปลดสายเบลล์ออกจากตัวทันที
ถือว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาส่งผู้หญิงขึ้นห้องโดยไม่มีอะไรให้สานต่อ ยอมรับแบบลูกผู้ชายว่าผมก็อยากทำอะไรที่มากกว่าการมาส่ง แต่มันเกิดขึ้นตอนนี้ไม่ได้ ผมต้องอดทน
ผมมองประตูห้องเฌอเบลล์ และแอบมองหน้าเธอเงียบๆ
คนอะไรวะน่ารักได้ทุกมุม แก้มของเธอแบบน่าฟัดฉิบ แบบนี้จะอดทนได้นานแค่ไหนกันวะ!
“ขอบใจนะ”
“พรุ่งนี้ให้มารับปะ”
“เหนื่อยเปล่าๆ เราไปเองได้”
“ทำไมชอบทำเหมือนเราเป็นคนอื่น คนกันเองทั้งนั้น พ่อแม่เราเขามีสตอรี่ต่อกันมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป”
“แล้วมีเรียนกี่โมง” เธอถามผมแล้วล้วงหาคีย์การ์ด
“เฌออ่ะ มีเรียนกี่โมง”
“สิบโมง”
“เท่ากันเลย งั้นพรุ่งนี้เรามารับนะ”
“ห้ามไม่ได้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ” ผมยักคิ้วแทนการตอบคำถาม ส่วนเธอก็หลุดเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ
ผมใช้เวลาที่เหลือไม่กี่วินาทีสุดท้ายล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็ยื่นมันให้เธอ
“ขอไลน์หน่อยดิ” คนถูกขอเม้มปากแน่น ไม่รู้เหมือนกันว่าวินาทีนั้นเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเลือกที่จะมองหน้าผมนิ่งๆ แต่สุดท้ายก็ยอมรับโทรศัพท์ของผมไปเพิ่มไลน์ของตัวเอง
“เดี๋ยวไลน์หานะ”
“อือ” เธอตอบผมสั้นๆ เหมือนทุกครั้งจากนั้นก็หมุนตัวเข้าห้องไป ปล่อยผมทิ้งไว้กับความสำเร็จขั้นแรกซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่พอได้ลองแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน
“รูปโปรไฟล์สวยว่ะ สเปคชัดๆ” ผมยิ้มกว้าง ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์จากนั้นก็กลับออกมา
วันต่อมา
ผมเซ็ททรงผมผ่านกระจกในรถหรูของตัวเองซึ่งเป็นรุ่นเปิดประทุนที่พ่อยอมซื้อให้เพราะลูกอย่างผมมันทำตัวดีมาโดยตลอด
ดีในที่นี้หมายถึง ยอมกลับบ้านทุกครั้งที่แม่เรียกหา อย่างผมน่ะ ปากก็ดี อ้อนก็เก่ง อยากได้อะไรมันไม่มีอะไรยากเลยจริงๆ
ผมฉีดน้ำหอมราคาแพงให้หอมฟุ้งไปทั้งตัว เสื้อนักศึกษาสีขาวถูกรีดจนเรียบกริบ สวมทับด้วยกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าที่ใส่นี่ก็คอลเลกชั่นใหม่ มันไม่แปลกหากผมสนใจผู้หญิงคนไหน คนที่โปรไฟล์ดีๆ อย่างผมก็มักจะได้มาครอบครองอย่างง่ายดาย
ผมกำลังจะลงจากรถ ตั้งใจว่าจะขึ้นไปรอเฌอเบลล์ที่หน้าห้อง แต่ผมดันเห็นคนตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ อยู่ชั้นล่างของคอนโด หน้าผมตึงขึ้นทันทีที่เห็นว่าเฌอเบลล์ไม่ได้ยืนอยู่ตามลำพัง แต่เธอกำลังยืนเคียงข้าง ‘ไบรอัน’ เพื่อนร่วมมหาลัยที่ความหล่อและความฮอตของผมกับมันกินกันไม่ลง
มายืนคุยกับเฌอเบลล์แบบนี้หมายความว่าไงวะ!
ผมดุนดันปลายลิ้นเข้ากับมุมปาก จากนั้นก็รีบผลักประตูรถ ตรงเข้าไปหาคนทั้งคู่ทันที
“เฌอ!” ผมถือวิสาสะเรียกเธออย่างสนิทสนม และเสียงของผมก็เรียกความสนใจได้จากทั้งสองคน
“รอนานปะ”
“ไม่อ่ะ เพิ่งลงมา” ผมปรายตามองไอ้เวรนั่นที่มองมาที่ผมเหมือนกัน
“เราขอตัวนะ เพื่อนมารับแล้ว”
“เพื่อน?” ไบรอันทวนคำนั้นก่อนจะยิ้มออกมา
“ครับ เราพักคอนโดเดียวกัน คงได้เจอกันบ่อยๆ อยู่แล้ว บางทีอาจจะโชคดีได้เจอกันที่มอ. ด้วยซ้ำ”
“อือ” เฌอเบลล์ยิ้มให้มันตามด้วยการหันมามองหน้าผม
หน้าของผมที่กำลังตึงเพราะไม่พอใจ!
พักอยู่คอนโดเดียวกัน!
ไอ้เวรไบรอันยังมายิ้มเยาะเมื่อเฌอเบลล์แทนผมด้วยคำว่าเพื่อน!
แม่ง! ผมกับไอ้เวรนี่มันอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้จริงๆ ว่ะ!
“ไปเลยไหม” คราวนี้เธอถามผม ส่วนเพื่อนอย่างผมก็ได้แต่พยักหน้ากลับไป
บนรถ
“ทำไมถึงได้ยืนคุยกัน”
“กับไบรอันอ่ะเหรอ?”
“รู้จักชื่อกันด้วยงั้นเหรอ!” ผมถามอย่างไม่ชอบใจ
ก็แล้วจะให้รู้สึกชอบได้ไงวะ กับไอ้เวรนี่ผมเกลียดขี้หน้ามันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว!
“ถอยให้ห่างจากมันนะเฌอ ผู้ชายคนนั้นอันตรายเกินไป”
“อันตรายแบบไหน”
“เสือผู้หญิงไงเฌอ ดูไม่ออกเหรอเวลาที่มันมอง”
“คิดมากไปไหม ไบรอันแค่มีน้ำใจเก็บคีย์การ์ดเราได้แล้วเอามาส่งคืน”
“มันไม่ได้ดีแบบที่เห็นหรอก”
“ช่างเถอะ เราไม่ได้คิดอะไร” เฌอเบลล์ตัดบทเหมือนรำคาญ จากนั้นก็เบือนหน้าออกไปอีกทาง
หน้าของไอ้เวรนั่นทำผมหงุดหงิดแบบสัสๆ เกลียดมันฉิบหาย ยิ่งเห็นสายตาที่มันใช้มองเฌอเบลล์ผมก็ยิ่งเกลียดขี้หน้ามันยิ่งๆ ขึ้นไป!
ไอ้เวรเอ๊ย เดี๋ยวได้เจอกู!